เนื้อหาวันที่ : 2008-09-12 10:20:54 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1682 views

กระทรวง ICT ส่งดาวเทียม SMMS ขึ้นสู่วงโคจรสำเร็จ

ไอซีทีปลื้ม หลังสร้างดาวเทียมเอนกประสงค์ขนาดเล็ก SMMS และส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร ณ ฐานปล่อยจรวดเมือง ไทหยวน สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถถ่ายได้ 128 แถบความถี่ และอุปกรณ์สื่อสาร ระบบ Ka-Band ทำให้เก็บภาพพื้นที่ต่าง ๆ ตามแนวรัศมีโคจรรอบโลกประเมินสภาพพื้นที่ได้อย่างแม่นยำ

.

ไอซีทีปลื้ม หลังสร้างดาวเทียมเอนกประสงค์ขนาดเล็ก SMMS และส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร ณ ฐานปล่อยจรวดเมือง ไทหยวน สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถถ่ายได้ 128 แถบความถี่ และอุปกรณ์สื่อสาร ระบบ Ka-Band ทำให้เก็บภาพพื้นที่ต่าง ๆ ตามแนวรัศมีโคจรรอบโลกได้ละเอียดจนสามารถนำภาพถ่ายมาประเมินสภาพพื้นที่ได้อย่างแม่นยำ

.

นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หัวหน้าคณะผู้แทนไทยกล่าวถึงผลสำเร็จโครงการร่วมสร้างดาวเทียมเอนกประสงค์ขนาดเล็ก(Small Multi -Mission Satellite :SMMS)หรือ SMMS ว่าประเทศไทยได้เข้าร่วมพิธีส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร ณ ฐานปล่อยจรวดเมือง ไทหยวน สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

.

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอีกผลงานการวิจัยของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เกิดจากความร่วมมือพหุภาคีด้านเทคโนโลยีอวกาศและการประยุกต์ใช้ประโยชน์ในภูมิภาคและเอเชียแปซิฟิก ( Asia —Pacific Multilateral Cooperation in Space Technology and Application :AP-MCSTA) ประเทศไทย สามารถประยุกต์ใช้ประโยชน์จากดาวเทียม SMMS ด้วยคุณลักษณะพิเศษที่มีการออกแบบจัดสร้างอุปกรณ์ติดตั้งในดาวเทียม SMMS

.

ได้แก่ กล้องถ่ายภาพสีแบบ CCD Multi-spectrum และกล้องถ่ายภาพแบบ Hyper-spectrum ที่สามารถถ่ายได้ 128 แถบความถี่ และอุปกรณ์สื่อสาร ระบบ Ka-Band ทำให้เก็บภาพพื้นที่ต่างๆตามแนวรัศมีโคจรรอบโลกได้ละเอียดจนสามารถนำภาพถ่ายมาประเมินสภาพพื้นที่ได้อย่างแม่นยำ ดาวเทียม SMMS เป็นดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LOW Earth Orbit) มีน้ำหนักประมาณ 510 กิโลกรัม ส่งขึ้นสู่วงโคจรในแนวเหนือใต้ หรือ Sun-Synchonous polar orbit

.

และมีอายุการใช้งาน 3 ปี หลังจากที่ดาวเทียมได้จัดส่งขึ้นสู่วงโคจร ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนจะได้ร่วมมือกันพัฒนาและประยุกต์ใช้ดาวเทียมดังกล่าว เพื่อให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น 1. การบริหารจัดการพื้นที่ชายฝั่ง / การเฝ้าระวังภัยพิบัติ สามารถนำภาพถ่ายดาวเทียมมาใช้สังเกตการณ์และจัดการพื้นที่บริเวณชายฝั่ง ความหนาแน่นการจราจรชายฝั่ง การเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศน์วิทยา และการเฝ้าระวังภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น ภัยน้ำท่วม ดินถล่ม ซึ่งสามารถเฝ้าดูปริมาณน้ำสะสมในแต่ละลุ่มน้ำ

.

รวมทั้งใช้ประกอบการวิเคราะห์ผลกระทบก่อนและหลังการเกิดภัยพิบัติ 2. การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำภาพถ่ายดาวเทียมมาใช้ติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพของดิน การประเมินความรุนแรงของการกัดเซาะผิวดิน การจำแนกประเภทของป่าไม้ และการวิเคราะห์ความหนาแน่นของป่าไม้ เป็นต้น 3. การเกษตรกรรม เพื่อใช้ในการวางแผนและบริหารจัดการพื้นที่และผลิตผลทางการเกษตร สามารถประเมินผลผลิตที่คาดว่าจะได้และสนับสนุนการตัดสินใจในด้านเศรษฐกิจและสังคมของพื้นที่อย่างเหมาะสม

.

4. การชลประทาน เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ประเมินแหล่งน้ำต่างๆ ได้แก่ แม่น้ำ เขื่อน อ่างเก็บน้ำ เพื่อให้สามารถเก็บกักน้ำในฤดูน้ำหลาก /บรรเทาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง สามารถรองรับปริมาณความต้องการใช้น้ำในแต่ละช่วงเวลา นอกจากนี้ ยังใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผนด้านการชลประทานและการแจกจ่ายน้ำ การเปลี่ยนแปลงเส้นทางน้ำ รวมทั้งคุณภาพของน้ำ 5. การประมง เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการสำรวจพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะกับการทำประมง และ/หรือ แหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ

.

6. การสำรวจและการจัดทำแผนที่ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ วางผังเมือง จัดทำ แผนที่ และติดตามการขยายตัวของเมือง/แหล่งชุมชน ให้มีความเหมาะสม โดยโครงการดังกล่าวเป็นผลจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2540 ให้ประเทศไทย เข้าร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการนำเทคโนโลยีอวกาศมาใช้ประโยชน์ในโครงการร่วมสร้างดาวเทียมอเนกประสงค์(Memorandum of Understanding for Small Multi-Mission Satellite Project and Related Activities :SMMS)

.

มีประเทศสมาชิกลงนาม 6 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ จีน มองโกเลีย ปากีสถาน บังคลาเทศและอิหร่าน ดาวเทียม SMMS เป็นดาวเทียมร่วมสร้างระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา วิจัย ออกแบบ เทคโนโลยีอวกาศและพัฒนาบุคลากรไทยให้มีศักยภาพในการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ประโยชน์กับงานด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไปได้

.

โดยประเทศไทยเป็นผู้รับผิดชอบการจัดสร้างอุปกรณ์สื่อสาร ระบบ Ka-Band บรรจุในตัวดาวเทียม SMMS สร้างสถานีภาคพื้นดินประจำที่และสถานีภาคพื้นดินเคลื่อนที่ พร้อมอุปกรณ์รับ-ส่งสัญญาณและระบบควบคุมติดตามดาวเทียม ส่วนสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดสร้างอุปกรณ์ด้าน Remote Sensing การทดลองวิทยาศาสตร์ และจรวดส่งดาวทียม รวมทั้งสถานีติดตามและควบคุมดาวเทียม กระทรวงฯพร้อมเป็นส่วนเชื่อมโยงใช้บริการให้แก่ประชาชนคนไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง