ดีเอชแอล ผู้นำธุรกิจขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ระดับโลก ลงทุน 210 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายขีดความสามารถฮับเอเชียกลาง ในฮ่องกงเป็น 2 เท่า ศูนย์กระจายสินค้าเอเชียกลางสร้างสถิติดำเนินการเสร็จก่อนกำหนด 5 ปี

ดีเอชแอล ผู้นำธุรกิจขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ระดับโลก เปิดเผยถึงโครงการขยายศูนย์กระจายสินค้า (ฮับ) เอเชียกลางซึ่งคิดเป็นมูลค่า 110 ล้านเหรียญสหรัฐ ว่าได้ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้ว ศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนรวมทั้งหมดคิดเป็น 210 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นศูนย์กระจายสินค้าแบบขนส่งด่วนระบบอัตโนมัติขนาดใหญ่แห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถการดำเนินงานของดีเอชแอลในเอเชียได้อย่างมาก

ศูนย์กระจายสินค้าเอเชียกลาง ซึ่งตั้งอยู่ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง มีขนาดพื้นที่เพิ่มขึ้นสองเท่าเป็น 35,000 ตารางเมตร หรือประมาณขนาดสนามเทนนิส 120 สนาม และคาดว่าจะรองรับชิปเม้นท์ได้มากถึง 40 ล้านชิ้นภายในปีนี้  นอกจากนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกต่อการดำเนินงานยังได้รับการพัฒนาให้เป็นระบบอัตโนมัติและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้น ทำให้สามารถรองรับชิปเม้นท์รวมทั้งเอกสารที่ถูกส่งผ่านมาตามสายพานได้ถึง 75,000 ชิ้นต่อชั่วโมง ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 114 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการขยายศูนย์การกระจายสินค้าที่สามารถรองรับชิปเม้นท์ได้ 35,000 ชิ้นต่อชั่วโมง และด้วยระบบการทำงานอัตโนมัตินี้เอง ทำให้สามารถลดระยะเวลาในการจัดการชิปเม้นท์จาก 12 นาที เหลือเพียง 7 นาที

"เอเชียแปซิฟิกยังคงเป็นภูมิภาคหลักที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งปีแรกของปี 2551 เราเติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึงร้อยละ 13  การขยายศูนย์กระจายสินค้านี้เป็นเครื่องพิสูจน์การเติบโตอย่างต่อเนื่องของการค้าภายในเอเชียและเส้นทางการค้าเอเชีย-ยุโรป ในปัจจุบัน สินค้าส่งด่วนที่ผ่านศูนย์กระจายสินค้าเอเชียกลางกว่าร้อยละ 60 เป็นชิปเม้นท์ที่ขนส่งภายในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นตัวเลขที่เราหวังจะทำให้เติบโตอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการค้าระหว่างภูมิภาคที่เพิ่มสูงขึ้น" แดน แม็คฮิว ประธาน ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เอเชียแปซิฟิก เปิดเผย

การขยายศูนย์กระจายสินค้าให้สำเร็จก่อนเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2556 เป็นการตอกย้ำถึงการเติบโตของธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา พร้อมทั้งโอกาสที่ดีเอชแอลเล็งเห็นในการเติบโตต่อไปอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคนี้  และเพื่อเป็นการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าด่วนและการบินในระดับที่สูงขึ้น  “ในอนาคต รัฐบาลยังได้ทุ่มเทที่จะปรับปรุงการเชื่อมต่อของสนามบินสู่ตลาดในพื้นที่ใกล้เคียง” อีวา เชง เลขานุการด้านการขนส่งและที่อยู่อาศัย กล่าว

"ในส่วนของสนามบินนั้น เรามีแผนที่จะเพิ่มขีดความสามารถของรันเวย์อย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเป้าหมายของเราก็คือ ความสามารถในการรองรับเที่ยวบินขึ้นลงให้ได้ 58 เที่ยวบินต่อชั่วโมงในปีหน้า และเพิ่มเป็น 68 เที่ยวบินภายในปี 2558 แน่นอนว่าเป้าหมายนี้ไม่ใช่จุดสิ้นสุด เพราะขีดความสามารถของรันเวย์ในการรองรับเที่ยวบินสามารถเพิ่มขึ้นเป็น 100 เที่ยวบินต่อชั่วโมงหากเรามีรันเวย์ที่สามเพิ่มขึ้นในภายหลัง"

ด้วยเงินลงทุน 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และส่วนแบ่งตลาดกว่าร้อยละ 40 ทำให้การลงทุนในการขยายศูนย์กระจายสินค้า เข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งหลักของธุรกิจเพื่อการมอบบริการที่เป็นเลิศ อีกทั้งยังช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดในเอเชียแปซิฟิกได้เป็นอย่างดี

"ด้วยระยะทางการบินเพียง 4 ชั่วโมงจากเมืองใหญ่ๆ ในเอเชียแปซิฟิก ก็ถึงศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้ แล้ว  ทำให้ศูนย์ฯ แห่งนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดี ผนวกกับเครือข่ายเส้นทางการบินภายในภูมิภาคเอเชียที่เป็นระบบ ซึ่งประกอบด้วยเครื่องบินกว่า 20 ลำ และเที่ยวบินพาณิชย์อีกกว่า 500 เที่ยวต่อวันแล้ว การขยายศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้จึงทำให้การดำเนินงานในเอเชียแปซิฟิกเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และแม่นยำยิ่งขึ้น" เจอร์รี่ ซู ประธาน ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส จีนแผ่นดินใหญ่กล่าว

เทคโนโลยีและเครื่องจักรอัตโนมัติที่ล้ำสมัยสำหรับศูนย์กระจายสินค้าเอเชียกลางที่มีประสิทธิภาพสูงศูนย์กระจายสินค้าเอเชียกลางสามารถรองรับชิปเม้นท์ได้สูงขึ้นมาก เนื่องจากมีระบบการคัดแยกอัตโนมัติที่ทันสมัย โดยสามารถรองรับชิปเม้นท์ที่ถูกส่งผ่านมาทางสายพานได้ 35,000 ชิ้น และรองรับเอกสาร ได้ 40,000 ชิ้นต่อชั่วโมง

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกหลักอื่นๆ ได้แก่ เครื่องเรียงลำดับพัสดุภัณฑ์ให้เป็นหนึ่งแถว กล้องสแกนหกด้านที่สามารถสแกนทุกด้านของชิปเม้นท์ที่ผ่านมาทางสายพาน และเครื่องคัดแยกเพื่อส่งชิปเม้นท์ไปตามช่องทางที่กำหนดไว้ตามจุดหมายปลายทางของชิปเม้นท์เช่น ปักกิ่ง สิงคโปร์ โตเกียว โอซาก้า นาโกย่า           เซี่ยงไฮ้ โซล เดลี และกรุงเทพฯ เป็นต้น

ศูนย์กระจายสินค้าเอเชียกลางแห่งนี้ยังเป็นศูนย์แห่งแรกที่ใช้ทดสอบกระบวนการทำงานแบบใหม่ของ ดีเอชแอล ซึ่งขณะนี้ศูนย์กระจายสินค้าเอเชียกลางมีความสามารถในการคัดแยกชิปเมนท์ตามรหัสไปรษณีย์ของศูนย์บริการดีเอชแอลในประเทศปลายทาง ซึ่งช่วยลดกระบวนการการคัดแยกอีกครั้งที่เกตเวย์ปลายทาง ยกตัวอย่างเช่น ในสิงคโปร์ ระบบดังกล่าวช่วยให้พนักงานส่งพัสดุภัณฑ์ของดีเอชแอล สามารถย่นระยะเวลาการทำงานลงได้ถึง 30 นาที เพื่อให้คูเรียร์มีความเพิ่มมากขึ้นในการมอบบริการที่เป็นเลิศให้กับลูกค้า

และเพื่อให้สอดคล้องกับระบบที่ได้รับการพัฒนาขึ้นนี้ ดีเอชแอลจะเพิ่มจำนวนรหัสไปรษณีย์ที่สามารถคัดแยกได้สำหรับบริการ DHL Express 12:00 ร้อยละ 25 ทั่วเอเชียแปซิฟิกตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป โดยการขยายการบริการนี้ ทำให้ดีเอชแอลสามารถให้บริการขนส่งด่วนจากมือผู้ส่งถึงมือผู้รับ (door-to-door) ไปยังพื้นรหัสไปรษณีย์อีกกว่า 20,000 แห่งทั่วเอเชียแปซิฟิกภายในเวลาก่อนเที่ยงวันของวันทำการถัดไปสำหรับชิปเม้นท์ที่จัดส่งภายในเอเชีย

การขยายศูนย์กระจายสินค้าเอเชียกลาง ยังยกระดับความเป็นเลิศทางด้านระบบรักษาความปลอดภัยด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเกือบ 200 ตัว เครื่องเอ๊กซ์เรย์ และระบบควบคุมการเข้ามาในบริเวณศูนย์กระจายสินค้า นอกจากนี้ศูนย์กระจายสินค้าเอเชียกลางยังได้รับการรับรองระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัย Class A จาก TAPA 

พร้อมด้วยศูนย์ควบคุมและปฏิบัติการ ( Quality Control Center ) ที่ช่วยตรวจตราการขึ้นลงของเที่ยวบินตลอดเวลา ทำให้ดีเอชแอลสามารถแจ้งลูกค้าให้ทราบได้ล่วงหน้ากรณีการยกเลิกเที่ยวบินหรือเที่ยวบินเกิดการล่าช้า อีกทั้งศูนย์ควบคุมและปฏิบัติการแห่งนี้ ยังเชื่อมโยงกับศูนย์ควบคุมและปฏิบัติการเอเชียแปซิฟิก (APQCC) ในสิงคโปร์ และอีก 41 เมืองในเอเชีย เกตเวย์ 60 แห่ง และศูนย์บริการกว่า 300 แห่งอีกด้วย

"ความรวดเร็ว ความถูกต้องแม่นยำ และความไว้วางใจได้ นับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมบริการขนส่งด่วน โดยศูนย์กระจายสินค้าเอเชียกลางได้ดำเนินงานควบคู่กับเครือข่ายทางอากาศที่แข็งแกร่ง เป็นเสาหลักในการดำเนินงานของเอเชียแปซิฟิกที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะนำความสามารถด้านเครือข่ายของเราไปสู่ศูนย์กระจายสินค้าเอเชียเหนือ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติผู่ตง มหานครเซี่ยงไฮ้ ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2553" แดน แม็คฮิว กล่าวเพิ่มเติม

เมื่อการก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าเอเชียเหนือที่เมืองผู่ตงเสร็จสิ้นในปี 2553 ศูนย์กระจายสินค้าเอเชียเหนือในผู่ตงจะช่วยเสริมทัพแก่ศูนย์กระจายสินค้าเอเชียกลางในฮ่องกง และช่วยให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มข้อได้เปรียบด้านตำแหน่งภูมิศาสตร์สำหรับชิปเม้นท์ที่มีจุดหมายปลายทางในภูมิภาค พร้อมด้วยอุปกรณ์การทำงานแบบอัตโนมัติที่สามารถคัดแยกพัสดุภัณฑ์ได้ 20,000 ชิ้น และเอกสาร 20,000 ชิ้นต่อชั่วโมง

ทั้งนี้ การก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าเอเชียเหนือนี้จะส่งผลให้เกิดการปรับปรุงเวลาในการขนส่งด่วนผ่านทั่วทั้งเอเชียเหนือ และสามารถเอื้อประโยชน์ให้กับลูกค้าในแถบสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเป็นพิเศษ "ในปัจจุบันร้อยละ 50 ของชิปเม้นท์ที่ผ่านศูนย์กระจายสินค้าเอเชียกลางมีจุดหมายปลายทางอยู่ใน จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวัน นอกจากนี้ศูนย์กระจายสินค้าเอเชียเหนือจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการดำเนินงานและทำให้ดีเอชแอลก้าวทันการเติบโตที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ในระยะยาวอีกด้วย" เจอร์รี่ ซู กล่าว