เนื้อหาวันที่ : 2008-09-08 13:25:39 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 6455 views

โครงการฉลากเขียวของประเทศไทย

ท่านทราบหรือไม่ว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวันนั้น กว่าจะผลิตและขนส่งมาถึงมือเรา ล้วนแล้วแต่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น เนื่องจากมีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเป็นวัตถุดิบในการผลิตที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อเราได้ทั้งในทางตรงและทางอ้อม อีกทั้งเมื่อผลิตภัณฑ์ถูกนำไปใช้งานยังต้องมีการใช้พลังงานที่ผลิตขึ้นจากทรัพยากรธรรมชาติอันมีปริมาณจำกัดอีกด้วย

ท่านทราบหรือไม่ว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวันนั้น กว่าจะผลิตและขนส่งมาถึงมือเรา ล้วนแล้วแต่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น เนื่องจากมีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเป็นวัตถุดิบในการผลิตที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อเราได้ทั้งในทางตรงและทางอ้อม อีกทั้งเมื่อผลิตภัณฑ์ถูกนำไปใช้งานยังต้องมีการใช้พลังงานที่ผลิตขึ้นจากทรัพยากรธรรมชาติอันมีปริมาณจำกัดอีกด้วย

โครงการฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยคณะกรรมการนักธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD) เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2536 และได้รับความเห็นชอบและความร่วมมือจากกระทรวงอุตสาหกรรมกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้ปฏิบัติออกมาเป็นรูปธรรม จึงนับว่าเป็นโครงการที่เกิดจากกรร่วมมือระหว่างส่วนราชการ และองค์กรกลางต่างๆ โดยมีสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยทำหน้าที่เป็นเลขานุการ

โครงการฉลากเขียวเกิดขึ้นเพราะต้องการเป็นหน่วยงานกลางที่ให้ข้อมูลที่มีความเป็นกลางตลอดจนดูแลควบคุมคุณภาพทางสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบและโปร่งใสเนื่องจากสินค้าสีเขียวที่มีจำหน่ายในท้องตลาดในปัจจุบันเกิดการประชาสัมพันธ์ของผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายโดยอิสระเท่านั้น

โดยวัตถุประสงค์หลักของโครงการฉลากเขียว มาจากแนวความคิดและความต้องการให้ประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยยึดหลักการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศควบคู่ไปกับการป้องกันรักษาสิ่งแวดล้อมดังต่อไปนี้
 
1.       ลดมลภาวะทางสิ่งแวดล้อมโดยรวมภายในประเทศ

2.       ให้ข้อมูลที่เป็นกลางต่อผู้บริโภคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย

3.       ผลักดันให้ผู้ผลิตใช้เทคโนโลยีหรือวิธีการผลิตที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย ทั้งนี้เพื่อส่งผลตอบแทนทางเศรษฐกิจแก่ผู้ผลิตเองในระยะยาว

ผลิตภัณฑ์ "ฉลากเขียว" กับสิ่งแวดล้อม 
ท่านทราบหรือไม่ว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวันนั้น กว่าจะผลิตและขนส่งมาถึงมือเรา ล้วนแล้วแต่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น เนื่องจากมีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเป็นวัตถุดิบในการผลิต เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ต้นไม้ พลังงาน เป็นต้น อีกทั้งยังก่อให้เกิดสารอันตราย เช่น สารซีเอฟซี โลหะหนัก ฯลฯ ในปริมาณที่แตกต่างกันแล้วแต่ผลิตภัณฑ์ ซึ่งสามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อเราได้ทั้งในทางตรงและทางอ้อม อีกทั้งเมื่อผลิตภัณฑ์ถูกนำไปใช้งานยังต้องมีการใช้พลังงานที่ผลิตขึ้นจากทรัพยากรธรรมชาติอันมีปริมาณจำกัดอีกด้วย

ดังนั้น หนทางหนึ่งที่ทำให้เราสามารถป้องกันและลดปัญหาข้างต้นได้ คือการฉลาดซื้อฉลาดเลือกในการอุปโภค-บริโภคผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งหมายถึงการเลือกซื้อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดอย่างเช่น "ผลิตภัณฑ์ฉลากเขียว" ซึ่งเป็นวิธีการอย่างง่ายๆ ที่เราจะสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม

โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการควบคุมการปล่อยสารเคมีหรือกากสารพิษออกสู่สิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม ประหยัดพลังงานและทรัพยากร ทั้งในระหว่างผลิต การขนส่งและการใช้งาน รวมทั้งไม่เป็นภาระในการกำจัดหลังการใช้งาน ดังนั้น การเลือกซื้อและใช้ลิตภัณฑ์เหล่านี้จึงนับเป็นทางเลือกหนึ่งของคนไทยในการช่วยรักษาและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมรอบตัวเราให้ดียิ่งขึ้น

เลือกซื้อเลือกใช้สินค้าฉลากเขียว ใครๆ ก็ได้ประโยชน์
ประโยชน์ต่อผู้บริโภค
สินค้าและบริการที่ได้ฉลากเขียวผลิตด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีสะอาด และมีการตรวจประเมินคุณค่ามาตรฐานผลิตภัณฑ์และการประเมินวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ว่ามีสัดส่วนการใช้พลังงานทั้งน้ำและไฟฟ้าเป็นสัดส่วนเท่าใดถึงจะคุ้มค่าและเกิดการใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ทำให้เป็นผลดีต่อผู้บริโภคที่ซื้อหาสินค้าสีเขียวไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะนอกจากจะเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เริ่มต้นแล้วยังเป็นผลดีต่อสุขภาพและประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วยและยังช่วยให้เกิดสุขภาวะที่ดีในสังคม เป็นการปลูกฝัง ให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้
 
ประโยชน์ต่อผู้ผลิต 
ผลิตภัณฑ์สินค้าหรือบริการที่ได้ฉลากเขียวเป็นทางเลือกหนึ่ง ของคนรักสุขภาพของตนเองและสิ่งแวดล้อม กระแสของการบริโภคสินค้าสีเขียวเริ่มขยายวงกว้างมากขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยให้ผู้ผลิตใช้ทรัพยากรในการผลิตอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ สามารถประหยัดต้นทุนที่จะต้องหมดไปกับภาวการณ์กำจัดของเสียและมลพิษที่เกิดขึ้น จากกระบวนการผลิตรูปแบบเดิมและยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้ผลิตสินค้ารายอื่นๆ ปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์สินค้าหรือบริการ โดยให้ความใส่ใจ ต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากจะเป็นการสร้าง การยอมรับในผลิตภัณฑ์ฉลากเขียวแล้วยังส่งผลตอบแทนทางเศรษฐกิจในระยะยาวสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมาจากกระบวนการที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเน้นหลักแนวคิดป้องกันก่อนที่ปัญหาจะเกิด และมีส่วนร่วมรับผิดชอบด้วยความสมัครใจมิใช่ถูกบังคับด้วยกฎหมายเป็นการป้องกันมลพิษที่ต้นเหตุและเป็นกี่เตรียมความพร้อมของผู้ผลิตเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผลิตสินค้าคุณภาพในตลาดการค้าทั้งภายในและต่างประเทศ
 
ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม
ผลิตภัณฑ์สินค้าหรือบริการต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคในสังคม เมื่อความต้องการของตลาดผู้บริโภคมีแนวโน้มสูงมากขึ้นตามการเจริญเติบโตของประชากรส่งผลให้ผู้ผลิตสินค้าทั่วไปเร่งผลิตสินค้าและบริการเพื่อรองรับความต้องการให้มันท่วงที เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด ผู้บริโภคให้มากที่สุด

เป็นเหตุให้ผู้ผลิตเลือกให้ความสำคัญกับผลกำไร ของสถานประกอบการมากกว่าความใส่ใจสิ่งแวดล้อม ขณะที่สินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นการให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์อย่างเดียวกัน ผู้ผลิตจะให้ความสำคัญและใส่ใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตทั้งน้ำมัน ไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ ต้นไม้ ฯลฯ ลดหรือไม่ใช้สารเคมีหรือสารประกอบที่ก่อให้เกิดอันตราย เช่น สารซีเอฟซี ตะกั่ว ปรอท หรือโลหะหนักต่างๆ ในกระบวนการผลิต รวมถึงการให้ความสำคัญกับการลดการใช้พลังงานในภาคการขนส่งและการจัดจำหน่ายตลอดจนการใช้งานและการจัดการซากเหลือทิ้ง

คุณประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตที่ใส่ใจในทุกขั้นตอนจนกว่าจะมาเป็นสินค้าและบริการต่างๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยลดผลกระทบต่างๆ ในการผลิตที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อคนและสิ่งแวดล้อมได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ก่อให้เกิดผลดีคือ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปรากฎการณ์โลกร้อน และยังช่วยลดมลพิษที่เกิดจากระบบอุตสาหกรรม โดยรวมได้อีกด้วย
 
ทำอย่างไนถึงจะได้รับสิทธิ์ให้ใช้เครื่องหมายฉลากเขียว
1.ติดต่อขอซื้อใบสมัครได้ที่สถาบันสิ่งแวดล้อม (ชุดละ 500 บาท)

2.เตรียมหลักฐานตามที่ระบุในข้อกำหนดพร้อมกรอกรายละเอียดในใบสมัครให้ครบถ้วน แล้วมายื่นสมัครได้ที่สถาบันฯ โดยชำระค่าธรรมเนียมในการยื่นตรวจคำขอและเอกสาร (1,000 บาทต่อแบบหรือเครื่องหมายการค้าของผลิตภัณฑ์)

3.สถาบันฯ และพสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมจะพิจารณาตรวจสอบเอกสารและหลักฐานหากพบว่าผลิตภัณฑ์ที่ยื่นขอ เป็นไปตามกฎเกณฑ์กำหนด สถาบันฯ จะแจ้งผลการตรวจสอบไปยังผู้ยื่นคำขอเพื่อให้มาชำระค่าธรรมเนียมและทำสัญญาในการใช้เครื่องหมายฉลากเขียว (5,000 บาท) ต่อแบบหรือเครื่องหมายกาค้าของผลิตภัณฑ์ต่อปี) โดยผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาตรวจสอบตามข้อกำหนดแล้วจะมีอายุของสัญญาไม่เกิน 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญา
 
จุดเด่นของสินค้าฉลากเขียว
ปัจจุบันมีข้อกำหนดฉลากเขียวสำหรับผลิตภัณฑ์แล้ว 39 ข้อกำหนซึ่งมีจุดเด่นต่างๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่
1. กระดาษ ผลิตจากเยื่อเวียนทำใหม่ (recycled pulp) และสีที่ใช้ไม่มีส่วนผสมของโลหะหนัก 
2. ผลิตภัณฑ์พลาสติกแปรใช้ใหม่  เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากส่วนผสมของพลาสติกรีไซเคิลไม่มีสารพิษหรือสารที่ใช้เติมแต่งอันก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้บริโภค
3. หลอดฟลูออเรสเซนซ์ อายุการใช้งานมากกว่า 1 หมื่นชั่วโมง มีปริมาณปรอทต่ำ และมีการรับคืนซากผลิตภัณฑ์หลังหมดอายุหารใช้งาน
4. ตู้เย็น ประหยัดพลังงานโดยได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ไม่ใช้สารที่ทำลายชั้นโอโซน สีที่ใช้ในผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยไม่ใช้สารอันตรายผสมในชิ้นส่วนพลาสติกของผลิตภัณฑ์ และสะดวกต่อการนำกลับมาใช้ใหม่
 
5. สี ไม่มีสารประกอบอินทรีย์ที่ระเหยได้ (VOCs) ไม่มีโลหะหนักและปลอดภัยจากสารอันตราย
 
6. ถ่านไฟฉาย ไม่ผสมสารปรอท และรับคืนซากถ่านไฟฉายเพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกต้อง
 
7. เครื่องปรับอากาศ ประหยัดพลังงานไฟฟ้า ปลอดภัยจากเสียงรบกวนขณะใช้งาน สีที่ใช้กับผลิตภัณฑ์ไม่มีโลหะหนักหรือสารระเหยตกค้าง มีคู่มือแนะนำการใช้งานมีสัญลักษณ์บอกประเภทของชิ้นส่วนพลาสติกและออกแบบให้สะดวกต่อการนำกลับมาใช้ใหม่
 
8. สเปรย์ มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ คุ้มค่าเพราะใช้ได้จนหมดกระป๋อง ไม่ใช้สารซีเอฟซี หรือสารที่เป็นอันตรายต่อโอโซน รวมทั้งมีคำแนะนำการใช้งาน
9. เครื่องสุขภัณฑ์ มีคุณภาพดีได้มาตรฐาน ช่วยประหยัดน้ำ มีคู่มือแนะนำการติดตั้งและใช้งาน
10. ก๊อกน้ำและอุปกรณ์ประหยัดน้ำ มีคุณภาพดีตามมาตรฐาน ช่วยประหยัดน้ำ
11. ฉนวนกันความร้อน

       – ฉนวนใยแก้ว ใช้แก้วรีไซเคิลเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ มีความปลอดภัยต่อการใช้งาน รวมทั้งมีคำแนะนำในการขนส่งและติดตั้ง

       -  ฉนวนโฟมพลาสติก ไม่ใช้สารซีเอฟซีในการผลิต มีความปลอดภัยต่อการใช้งานสะดวกต่อการนำกลับมาใช้ใหม่ และมีคำแนะนำในการขนส่งและติดตั้ง
 
12. เครื่องซักผ้า ประหยัดพลังงาน ใช้น้ำปริมาณน้อย และมีเสียงในขณะใช้งานไม่เกิน 65 db (A) 
13. คอมพิวเตอร์ ประหยัดพลังงาน ปลอดภัยจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ารบรวน มีสัญลักษณ์บอกประเภทของชิ้นส่วนพลาสติกและออกแบบให้สะดวกต่อการนำกลับมาใช้ใหม่
 
14. ผลิตภัณฑ์ทำจากผ้า ทำจากผ้าไม่ฟอกและย้อม วัสดุที่ใช้ตกแต่งยังไม่มีโลหะหนักและสารอันตราย
 
15. สีเคลือบกระเบื้องมุงหลังคา ไม่ใช้ผงสีที่มีโลหะหนักในการผลิต มรสารประกอบอินทรีย์ที่ระเหยได้ในปริมาณต่ำ
16. เครื่องเขียน ไม่ใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย น้ำหมึกที่ใช้ต้องไม่มีส่วนประกอบของโลหะหนัก ผลิตภัณฑ์ควรเป็นชนิดที่สามารถเติมใหม่ได้หรือเปลี่ยนไส้ได้
 
17. ฉนวนยางกันความร้อน ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพดีได้มาตรฐาน มีปริมาณสารประกอบไนโตรซามีนตกค้างไม่เกิน 0.01 ppm 
18. ผลิตภัณฑ์ลบคำผิด ไม่เป็นพิษและอันตรายต่อผู้ใช้ ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตราย บรรจุภัณฑ์พลาสติกไม่มีส่วนประกอบของคลอรีน 
19. สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง มีคุณภาพน้ำมันได้มาตรฐาน สะอาด มีความปลอดภัยในการเข้ารับบริการ เพราะมีขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ถูกต้องและมีแผนปฏิบัติการเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน มีห้องสุขาเพียงพอ สะอาด และปลอดภัยในการใช้งาน
 
20. เครื่องถ่ายเอกสาร มีความปลอดภัยทางไฟฟ้าและการใช้งาน ประหยัดพลังงาน ใช้กับประดาษรีไซเคิลได้ และรับคืนซากของตลับหมึกพิมพ์และแม่แบบรับภาพ 
21. มอเตอร์ มีประสิทธิภาพในการใช้งานสูง และสีที่ใช้กับผลิตภัณฑ์ต้องไม่มีโลหะหนัก 
22. สารซักฟอก สามารถย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ มีค่าความเป็นกรด – ด่างตามมาตรฐาน ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม 
23. บริการซักน้ำและบริการซักแห้ง ใช้น้ำในการซักน้อย มีการจัดเก็บสารเคมีที่เหมาสม ใช้สารซักฟอกที่ได้รับฉลากเขียว สำหรับการซักแห้งต้องเป็นระบบปิดและมีระบบระบายอากาศที่ดีใช้สารซักแห้งในปริมาณน้อย มีการนำถุงบรรจุผ้ากลับมาใช้ใหม่หลายครั้ง และมีการชักชวนให้นำไม้แขวนเสื้อกลับมาใช้ใหม่
 
24. น้ำมันหล่อลื่น มีคุณภาพดีได้มาตรฐาน อายุการใช้งานยาวนาน สามารถย่อยสลายตามาธรรมชาติได้ง่าย ไม่มีโลหะหนักและมีการรับคืนน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้งานแล้วไปกำจัดอย่างเหมาะสม
 
25. แชมพู สามารย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ และปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อการใช้งาน
26. ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดถ้วยชาม สามารถย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ และปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อการใช้งาน
27. ผลิตภัณฑ์ไม่ยางพารา ผลิตจากไม้ยางพาราที่ตัดโค่นมาจากป่าปลูกมีปริมาณสารฟอร์มาลดีไฮด์ในปริมาณต่ำและต้องไม่มีสารเพนตะคลอโรฟีนนอลในผลิตภัณฑ์
 
28. เครื่องเรือนเหล็ก มีความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งานมีที่ใช้เคลือบผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยไม่เคลือบผิวอุปกรณ์เสริมด้วยโครเมียม นอกเกิล สังกะสี และปรอท
 
29. บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ รับรองอายุการใช้งานนานกว่า 5 หมื่นชั่วโมง มีความปลอดภัยต่อการใช้งานและสามมารถแยกส่วนประกอบเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้ง่าย
 
30. สบู่ สามารถย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ และปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อการใช้งาน
 
31. ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นผิว สามารถย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ และปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อการใช้งาน
 
32. ตลับหมึก ไม่ใช้โลหะหนักและสารเคมีอันตรายในผลิตภัณฑ์ มีนโยบายการรับคืนซากตลับหมึกและมีคำแนะนำการใช้งาน
33. ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพ มีคุณภาพตามมาตรา ปราศจากวัสดุที่ไม่ต้องการ วัสดุอันตราย จุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคต่อมนุษย์ สัตว์ และพืชรวมถึงโลหะหนักและสารพิษที่เป็นอันตรายอันได้แก่ แคดเมียม ตะกั่ว ปรอท
 
34. โทรศัพท์มือถือ มีความปลอดภัยในการใช้งาน ปราศจากโลหะหนักและสารอันตราย มีสัญลักษณ์บอกประเภทพลาสติกเพื่อสะดวกต่อการคัดแยกมีมาตรการรับคืนซากเครื่องและแบตเตอรี่
 
35. เครื่องโทรสาร มีความปลอดภัยในการใช้งานจากมลพิษ ประหยัดพลังงานไฟฟ้า
36. รถยนต์ ประหยัดน้ำมัน เสียวไม่ดัง มีมาตรฐานควบคุมไอเสีย ไม่ใช้สีละสารเคมีที่เป็นพิษ
37. เครื่องพิมพ์ มีความปลอดภัยในการใช้งานจากมลพิษ ประหยัดพลังงานไฟฟ้า ถูกออกแบบให้เอื้อต่อการนำมาใช้ใหม่ มีสัญลักษณ์บอกประเภทพลาสติก ปราศจากโลหะหนักและสารอันตราย รับคืนตลับหมึกและแม่แบบรับภาพที่ใช้แล้ว
 
38. เครื่องล่น VDC/DVD ปลอดภัยจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ประหยัดพลังงาน ถูกออกแบบให้เอื้อต่อการนำมาใช้ใหม่ มีสัญลักษณ์บอกประเภทพลาสติก ปราศจากโลหะหนักและสารอันตราย
 
39. โทรทัศน์ ปลอดภัยจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ประหยัดพลังงาน ถูกออกแบบให้เอื้อต่อการนำมาใช้ใหม่ มีสัญลักษณ์ยอกประเภทพลาสติก ปราศจากโลหะหนักและสารอันตราย