เนื้อหาวันที่ : 2008-08-29 10:15:28 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1925 views

ญี่ปุ่น เผยยอดส่งออกรถยนต์สดใสเดือน ก.ค.พุ่งเกินคาด 0.9% เตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจ

ญี่ปุ่น เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในภาคธุรกิจเหมืองและโรงงานยืนอยู่ที่ระดับ 107.9 จุดเมื่อเทียบกับระดับพื้นฐานที่ 100 จุดในปี 2548 ตัวเลขของดัชนีดังกล่าวดีดตัวขึ้นหลังจากที่ทรุดตัวลง 2.2% ในเดือนมิ.ย. นักวิเคราะห์คาดการณ์เดือนก.ค.จะลดลงเฉลี่ย 0.3%

กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.พุ่งสูงขึ้นเกินคาด 0.9% จากเดือนก่อนหน้านี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดส่งออกรถยนต์และรถบรรทุกที่พุ่งสูงขึ้น

.

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในภาคธุรกิจเหมืองและโรงงานยืนอยู่ที่ระดับ 107.9 จุดเมื่อเทียบกับระดับพื้นฐานที่ 100 จุดในปี 2548  ตัวเลขของดัชนีดังกล่าวดีดตัวขึ้นหลังจากที่ทรุดตัวลง 2.2% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวเกียวโดคาดการณ์ว่าผลผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนก.ค.จะลดลงเฉลี่ย 0.3%

อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงฯประมาณการว่า ผลผลิตจากผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมต่างๆอาจร่วงลง 2.9% ในเดือนส.ค.แต่ขยายตัวขึ้น 3.4% ในเดือนก.ย.ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ผลผลิตอุตสาหกรรมไตรมาส 3 จะหดตัวต่อเนื่องกัน 3 ไตรมาสเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2544 และหากประเมินสถานการณ์โดยภาพรวมแล้วพบว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงอยู่ในระดับที่อ่อนแอ

ทั้งนี้ ในเดือนก.ค. ผลผลิตภาคการขนส่งพุ่งขึ้น 4% จากเดือนก่อนหน้านี้ ขณะที่การส่งออกด้านยานยนต์ไปยังตลาดยุโรป ตะวันออกกลาง และประเทศอื่นๆในเอเชียปรับตัวสูงขึ้นถ้วนหน้า รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมเปิดตัวนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 10 ล้านล้านเยน (9.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในวันนี้ โดยมีจุดประสงค์หลักในการลดผลกระทบจากราคาพลังงานและต้นทุนวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง

.

นโยบายดังกล่าวซึ่งถือเป็นความพยายามครั้งล่าสุดของนายกรัฐมนตรียาสุโอะ ฟูกุดะ ในการเรียกคะแนนนิยมจากประชาชนกลับคืนมา มีงบประมาณรวมทั้งโครงการ 10 ล้านล้านเยน แต่งบประมาณรายปีน่าจะอยู่ที่ราว 1-2 ล้านล้านเยน

.

หนึ่งในโครงการหลักภายใต้นโยบายดังกล่าวคือ การเสนอความช่วยเหลือทางการเงินมูลค่ารวม 4 แสนล้านเยนให้กับบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีมากถึง 99% ของบริษัททั้งหมดในญี่ปุ่น ซึ่งส่วนมากกำลังประสบปัญหาการกู้ยืมเงินเพื่อการลงทุน เนื่องจากธนาคารต่างเกรงว่าบริษัทเหล่านั้นอาจไม่สามารถชำระหนี้คืนได้

.

นอกจากนั้น รัฐบาลยังอาจใช้มาตรการอื่นๆ อาทิ การให้ความช่วยเหลือพนักงานชั่วคราวในการหางานประจำ มาตรการกระตุ้นผลผลิตภาคการเกษตร การลดค่าทางด่วน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ยังไม้มีรายงานว่ารัฐบาลจะจัดสรรปันส่วนงบประมาณในการดำเนินนโยบายดังกล่าวอย่างไร สำนักข่าวเกียวโดรายงาน