เนื้อหาวันที่ : 2008-08-15 09:28:46 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1269 views

จีเอ็ม จับมือ ปตท มุ่งพัฒนาแหล่งพลังงานทางเลือกในอาเซียน

เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่นส์ และ ปตท. ร่วมมือเป็นพันธมิตรค้นคว้าวิจัยและพัฒนาพลังงานทางเลือกในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน กำหนดแนวทางของตลาดและความต้องการทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการขยายการใช้พลังงานทางเลือกในระบบคมนาคม

.

บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่นส์ และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามเป็นพันธมิตร ร่วมมือกันค้นคว้าวิจัยและพัฒนาพลังงานทางเลือกในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน 

.

มร.สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์ เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ และ ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท ลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU โดยมี มร.ริค แวกอเนอร์ ประธานคณะกรรมการบริหาร เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่นส์ ร่วมเป็นสักขีพยาน

.

การลงนามข้อตกลงครั้งนี้ เกิดขึ้นในวันแรกของงานแสดงเทคโนโลยียนตรกรรมพลังงานทางเลือกแห่งอนาคต จัดขึ้นโดย เจนเนอรัล มอเตอร์ส เพื่อแสดงยานยนต์หลากหลายรุ่นที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย และเปิดโอกาสให้หารือเรื่องพลังงานทางเลือกด้วย

.

จุดประสงค์ของการจับมือเป็นพันธมิตรระหว่าง จีเอ็ม และ ปตท. คือ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการศึกษาเพื่อกำหนดแนวทางของตลาดและความต้องการทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการขยายการใช้พลังงานทางเลือกในระบบคมนาคม และผู้ผลิตรถยนต์ หรือ OEM

.

จีเอ็ม และ ปตท จะพิจารณารายละเอียดของความร่วมมือกันในหลายด้าน ทั้งการวิจัยเอธานอลที่ได้มาจากเซลลูโลส การวิจัยพืชผลชนิดอื่น ๆ ซึ่งไม่ใช้ทำเป็นอาหาร การขยายแหล่งพลังงานไบโอดีเซล การใช้ประโยชน์จากสาหร่ายโดยนำมาเป็นแหล่งไฮโดรเจน เอธานอล และ พลังงานไบโอดีเซล การพัฒนาการใช้ระบบเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ CNG แบบไบฟิว และ ดูอัลฟิว (DDF) และวัตถุดิบที่เหมาะสม รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริดต้นทุนต่ำ เซลพลังงาน และเครื่องยนต์ดีเซลเพื่อประเทศไทย และกลุ่มอาเซียน

.

หน่วยงานทั้งสองจะใช้ระบบต่างๆ และศูนย์วิจัยและพัฒนาร่วมกัน พร้อมกับร่วมกันพัฒนาบริษัทจัดจำหน่ายในประเทศเพื่อให้มีการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์พลังงานทางเลือก

.

คุณประเสริฐ กล่าวว่า "ปตท นั้นได้ชื่อว่าเป็นบริษัทที่พัฒนา และมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากที่สุดบริษัทหนึ่งในประเทศไทยมานาน ส่วน จีเอ็ม เองก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีนวัตกรรมล้ำหน้ามากที่สุดของโลก ดังนั้นการร่วมมือกันระหว่างสองหน่วยงานนี้ก็เพื่อดำเนินกลยุทธ์ด้านพลังงานยนตรกรรมเพื่อประเทศไทยร่วมกัน เพื่อให้เป็นประโยชน์มหาศาลต่อระบบคมนาคมของประเทศ ในทางกลับกัน นี่คือการทำคุณค่าให้แก่ประชาชนคนไทย โดยการยกระดับคุณภาพชีวิตเพื่อทุกคนรวมถึงรุ่นลูกรุ่นหลานด้วย พวกเรารู้สึกตื่นเต้นมากในศักยภาพของการร่วมมือกันครั้งนี้"

.

"การร่วมมือกันทางการวิจัยด้านพลังงานนั้น จะเป็นตัวอย่างที่ดีในการชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือกันระหว่างบริษัท สถาบันการศึกษา และระหว่างประเทศ เพื่ออนาคตของชาติของเรา ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเติบโต เรามีภาระหน้าที่รับผิดชอบในฐานะผู้นำทางอุตสาหกรรมเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเรารู้ดีว่าโอกาสอันดีงามและความท้าทายกำลังรอคอยเราอยู่ และโครงการนี้จะช่วยเราได้อย่างมาก" คุณประเสริฐกล่าวเพิ่มเติม

.

มร.คาร์ไลส์ เชื่อว่าบริษัทอย่างจีเอ็ม หรือ ปตท นั้นควรรับตำแหน่งผู้นำในการคิดค้นวิธีแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่ยากและซับซ้อนเกินกว่าการที่บริษัทเพียงบริษัทเดียว หรือ ประเทศเพียงประเทศเดียวจะสามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง

.

"การร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานของเราในช่วงเวลาแห่งความท้าทายเช่นนี้ จะช่วยสร้างโอกาสอันดีและโดดเด่นเป็นอย่างมากมร.คาร์ไลส์ กล่าว เราคาดหวังว่า การร่วมมือกันระหว่าง จีเอ็มและ ปตท. ครั้งนี้จะให้ผลตอบรับที่แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม มีผลดีทางเศรษฐกิจ พิทักษ์สิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน และใช้เทคโนโลยีที่เป็นไปได้ การค้นหาพลังงานทางเลือกในระยะยาวเพื่อแทนที่การใช้น้ำมันนั้นเพื่อเป็นประโยชน์สูงสุดของทุกๆ คน"