เนื้อหาวันที่ : 2006-08-30 10:59:30 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1078 views

ก.พลังงาน เผยราคาน้ำมันมีโอกาสลดลง หลังน้ำมันดิบตลาดโลกลดลง

กระทรวงพลังงานระบุราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับลดลงอีก หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวลดลงอย่างแรงเมื่อคืนวานนี้ (29 ส.ค.) ขณะที่การใช้พลังงานต่อจีดีพีก็ลดลง หลังทุกฝ่ายร่วมกันประหยัดพลังงาน ขณะที่หอการค้าไทยจัดทำโครงการอนุรักษ์พลังงานแบบมีส่วนร่วมในโรงงานอุตสาหกรรม

สำนักข่าวไทยได้รายงานเกี่ยวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานระบุราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับลดลงอีก หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวลดลงอย่างแรงเมื่อคืนวานนี้ (29 ส.ค.) ขณะที่การใช้พลังงานต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ก็ลดลง หลังทุกฝ่ายร่วมกันประหยัดพลังงาน ขณะที่หอการค้าไทยจัดทำโครงการอนุรักษ์พลังงานแบบมีส่วนร่วมในโรงงานอุตสาหกรรม

.

นายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังเปิดสัมมนาเรื่อง โอกาสและทางรอดของธุรกิจภายใต้วิกฤติพลังงาน โดยระบุว่า ราคาน้ำมันในประเทศไทยทั้งดีเซลและเบนซินมีแนวโน้มจะปรับลดลง หลังจากที่เมื่อคืนวานนี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกได้มีการปรับลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะตลาดสหรัฐและอังกฤษลดลงประมาณ 2-3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากบรรดากองทุนเก็งกำไรหรือเฮดฟันจ์ได้เทขายน้ำมันดิบออกมาหลังตลาดรับรู้กรณีพายุเฮอริเคนสหรัฐไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมัน

.

ปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่าน ปัญหาการสู้รบระหว่างอิสราเอลและเลบานอนเริ่มคลี่คลาย ประกอบกับตัวเลขสำรองน้ำมันดีเซลเพื่อใช้ในฤดูหนาวของยุโรปและสหรัฐค่อนข้างสูง จึงทำให้ตลาดเชื่อมั่นว่าความต้องการน้ำมันเพื่อการสำรองหรือปัจจัยเสี่ยงต่อราคาน้ำมันจะลดลง และเมื่อเป็นเช่นนี้ก็เชื่อมั่นว่า หากราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัสในสหรัฐลดลงเหลือประมาณ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบดูไบจะลดลงและราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่สิงคโปร์ที่ประเทศไทยใช้อ้างอิงก็จะลดลงตาม จึงเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้น้ำมันในไทยที่แนวโน้มจะเห็นราคาน้ำมันทั้งน้ำมันเบนซิน ดีเซลและแก๊สโซฮอล์ลดลง

.

นายวิเศษ กล่าวว่า จากทุกฝ่ายร่วมกันประหยัดพลังงานทุกภาคส่วน ทำให้การใช้พลังงานต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปรับลดลงจากระดับ 1.4 : 1 มาอยู่ที่ 1.2 : 1 และเชื่อมั่นว่าหากมีความร่วมมือกันต่อไปและมีการใช้ระบบขนส่งมวลชนมากขึ้นใน 3 ปีข้างหน้าสัดส่วนจะลงอยู่ที่ 1 : 1 ซึ่งในความร่วมมือของการประหยัดพลังงานของภาคเอกชนและภาคอุตสาหกรรม อาคารพาณิชย์ระดับใหญ่ที่มีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ประหยัดพลังงานและดำเนินการรูปแบบต่าง ๆ ได้ส่งผลทำให้ที่ผ่านมาการประหยัดพลังงานเป็นไปได้ดีเกินเป้าหมาย โดยประหยัดไปได้แล้ว 15,000 ล้านบาท จากอาคารและโรงงานที่เข้าร่วมโครงการ 20,000 แห่ง และปีนี้คาดว่าจะประหยัดได้เพิ่มอีก 3,000 ล้านบาท จากอาคารและโรงงานที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 5,000 แห่ง

.

นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานหอการค้าไทย ในฐานะประธานการจัดสัมมนามหกรรมพลังงานเฉลิมพระเกียรติที่มีผู้ประกอบการภาคต่าง ๆ เข้าร่วมบูธแสดงแนวทางการประหยัดพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการหอการค้าไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาด้านพลังงานของประเทศที่แต่ละปีจะมีมูลค่านำเข้าสูงขึ้น โดยปีนี้คาดว่าจะสูงถึงประมาณ 700,000 ล้านบาท ทางหอการค้าไทยจึงได้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ จัดทำโครงการอนุรักษ์พลังงานแบบมีส่วนร่วมในโรงงานอุตสาหกรรมมีผู้เข้าร่วม 38 โรงงาน ประหยัดได้แล้ว 330 ล้านบาท และการจัดสัมมนาวันนี้ (29 ส.ค.) เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านพลังงานของประเทศ นอกจากนี้ หอการค้าไทยยังมีการจัดตั้งโครงการศูนย์ปรึกษาประหยัดพลังงานที่พร้อมให้คำปรึกษาต่อทุก ๆ หน่วยงาน

.

ด้าน นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการพลังงาน หอการค้าไทย กล่าวว่า การจัดสัมมนามหกรรมพลังงานฯ เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกหน่วยงานรวมทั้งประชาชนทั่วไปรับทราบแนวคิดและวิธีปฏิบัติในการคิดค้นพลังงานทดแทนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในด้านต่าง ๆ รวมทั้งการตระหนักถึงปัญหาด้านพลังงานที่มีราคาสูงขึ้นและเลือกใช้พลังงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน