เนื้อหาวันที่ : 2008-08-05 09:57:20 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 3091 views

ภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ไตรมาส 2 ปี 2551 และแนวโน้มไตรมาส 3 ปี 2551

ภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ ไตรมาสที่ 2 ปี 2551 ขยายตัว โดยด้านอุปทานขยายตัวดีตามผลผลิต และราคาพืชผลสำคัญที่ขยายตัวดี รวมทั้งการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวเช่นกัน ด้านอุปสงค์ การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนชะลอตัว ขณะที่การส่งออก และการเบิกจ่ายงบประมาณขยายตัว พร้อมกันนั้นการลงทุนปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการก่อสร้าง

ภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ ไตรมาสที่ 2 ปี 2551 ขยายตัว โดยด้านอุปทานขยายตัวดีตามผลผลิต  และราคาพืชผลสำคัญที่ขยายตัวดี  รวมทั้งการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวเช่นกัน ด้านอุปสงค์ การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนชะลอตัว ขณะที่การส่งออก และการเบิกจ่ายงบประมาณขยายตัว  พร้อมกันนั้นการลงทุนปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการก่อสร้าง

.
รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ปี 2551 มีดังนี้
.

1.  ภาคเกษตร รายได้จากการขายพืชผลสำคัญของเกษตรกรขยายตัว ร้อยละ 53.8 ตาม  ปริมาณและราคาผลผลิตสำคัญที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.4 และ 22.8 ตามลำดับ  โดยยางพาราปริมาณผลผลิตและ  ราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 และ 23.2 ตามลำดับ ส่วนปาล์มน้ำมัน ปริมาณผลผลิตและราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 93.1   และ 19.2 ตามลำดับ ด้านการประมง ปริมาณและมูลค่าสัตว์น้ำนำขึ้นที่ท่าเทียบเรือในภาคใต้ในไตรมาสนี้ลดลง  จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 13.7  และร้อยละ 15.4 ตามลำดับ  ด้วยผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้น ส่วน  การเพาะเลี้ยงกุ้ง เกษตรกรบางส่วนชะลอการเพาะเลี้ยงเนื่องจากประสบปัญหาต้นทุนการเลี้ยงสูงขึ้น กอปรกับ  ราคากุ้งที่ตกต่ำ ทำให้ผลผลิตกุ้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนลดลงร้อยละ 24.8 ด้านราคาปรับตัวสูงขึ้น โดย  กุ้งขาวขนาด 50 ตัวต่อกิโลกรัม ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 119.87 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3

.

2.  ภาคอุตสาหกรรม   ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 14.2 เร่งตัวขึ้นจาก ไตรมาสก่อน  ตามการส่งอออกและวัตถุดิบ  โดยอุตสาหกรรมยางมีปริมาณส่งออก 544,166.9 เมตริกตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 4.4  อุตสาหกรรมอาหารทะเลแช่เย็นแช่แข็งมีปริมาณการส่งออก   31,145.1เมตริกตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 ตามการเพิ่มขึ้นของการส่งออกกุ้งแปรรูปไปตลาดญี่ปุ่น  และอาหารบรรจุ  กระป๋องส่งออก 34,503.5 เมตริกตันเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.7 เป็นการขยายตัวในตลาดตะวันออกกลาง  ส่วน  ผลผลิตน้ำมันปาล์มดิบมีจำนวน 446,190.5 เมตริกตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 92.8

.

3.  การท่องเที่ยว ภาวะท่องเที่ยวขยายตัว โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางผ่านด่าน  ตรวจคนเข้าเมืองในภาคใต้  776,177 คน  เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 29.1 จากการเพิ่มขึ้นของ  นักท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน โดยจังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.9 และภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา  เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.7  เนื่องจากรัฐและภาคเอกชนร่วมกันจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวมีความมั่นใจ ในความปลอดภัย

.

4.  การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ชะลอตัว โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้น  ร้อยละ 0.6 ชะลอลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 2.0   เนื่องจากราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นตามต้นทุน  ที่เพิ่มขึ้นทั้งราคาน้ำมันและอาหาร รวมทั้งความไม่มั่นใจในสถานการณ์ด้านการเมือง ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวัง ในการใช้จ่ายมากขึ้น  โดยภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ปี 2543 จัดเก็บได้เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.4 และการใช้  ไฟฟ้าที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 ชะลอลงจากไตรมาสก่อน  ส่วนดัชนีหมวดยานยนต์ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง  เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 20.9

.

5.  การลงทุนภาคเอกชน  โดยรวมอยู่ในภาวะดีขึ้น  พื้นที่ก่อสร้างที่ได้รับอนุญาตในเขต  เทศบาลมีจำนวน 494,835  ตารางเมตร  เพิ่มขึ้นร้อยละ 43.5 และยอดจำหน่าย ปูนซิเมนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.7  ขณะเดียวกันการจดทะเบียนธุรกิจนิติบุคคล จำนวนรายและเงินทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 และ 11.5  ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นการจดทะเบียนในจังหวัดภูเก็ต  สุราษฎร์ธานี และสงขลา กิจการที่มีการจดทะเบียน  มากเป็นกิจการรับเหมาก่อสร้าง  อสังหาริมทรัพย์  และโรงแรม ภัตตาคารร้านอาหาร ส่วนโครงการลงทุนที่ได้รับ  ส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ลดลงทั้งจำนวนรายและเงินลงทุน

.

6.  การจ้างงาน  เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จะเห็นได้จากยอดการบรรจุงาน 13,625 อัตรา ตำแหน่งงาน  ว่าง 16,208 อัตรา และผู้สมัครงาน 17,321 คน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 44.2 - 58.6 และ 7.3  ตามลำดับ  ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต สงขลา และสุราษฎร์ธานี  ด้านจำนวนผู้ประกันตนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 โดยภาคใต้ตอนบนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8  เพิ่มขึ้นมากในจังหวัดภูเก็ต กระบี่และพังงา ส่วนภาคใต้ตอนล่างลดลง  ร้อยละ 3.8  ตามการลดลงของจังหวัดสงขลาเป็นสำคัญ    ซึ่งในไตรมาสนี้ลดลงจากไตรมาสดียวกันปีก่อนร้อยละ 6.4

.

7.  ระดับราคา อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของภาคใต้ในไตรมาสนี้อยู่ที่ร้อยละ 8.5  เร่งตัวขึ้นจาก ไตรมาสก่อน  โดยดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9  เป็นการเพิ่มขึ้นของราคาข้าว แป้ง  ผลิตภัณฑ์จากแป้งร้อยละ 30.3 และเนื้อสัตว์ ร้อยละ 27.5  ขณะเดียวกันดัชนีราคาหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหาร  และเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2  โดยหมวดยานพาหนะ  น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ร้อยละ 18.5 และหมวดยาสูบ  เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8  สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน  เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8

.

8.  การค้าต่างประเทศ  มูลค่าการค้าต่างประเทศผ่านด่านศุลกากรในภาคใต้มีจำนวนทั้งสิ้น  4,876.1ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 32.9 แยกเป็นมูลค่าการส่งออกจำนวน  3,267.5  ล้านดอลลาร์ สรอ.  เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 31.0 เนื่องจากมูลค่าสินค้าส่งออกที่สำคัญ  ได้แก่  ยางพาราเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.0  ไม้ยางพาราแปรรูปและเฟอร์นิเจอร์เพิ่มขึ้นร้อยละ 74.7 และอาหารบรรจุกระป๋อง  เพิ่มขึ้นร้อยละ 54.4 นอกจากนี้ มูลค่าการส่งออกน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าตัว  ส่วนการนำเข้า มีมูลค่าทั้งสิ้น   1,608.7 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 36.9  จากมูลค่าการนำเข้าสัตว์น้ำแช่แข็ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 65.8 และเครื่องจักรอุปกรณ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.3

.

9.  ภาคการคลัง การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการต่าง ๆ ในภาคใต้ มีจำนวน   36,260.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 16.9  ตามการเพิ่มขึ้นของการเบิกจ่ายเงิน  งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ส่วนทางด้านภาษีจัดจัดเก็บได้ทั้งสิ้น 8,403.4 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.8 โดยภาษีสรรพากรเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 แต่ชะลอลงจากร้อยละ 4.6 ในไตรมาสที่ 1 เนื่องจากการขยายวงเงินการยกเว้นภาษีและเพดานการหักลดหย่อน ส่วนภาษีสรรพสามิต  เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9  ขณะที่ภาษีศุลกากรลดลงร้อยละ 12.2

.

10.  การเงิน  ในไตรมาสนี้ธนาคารพาณิชย์ได้ปรับอัตราดอกเบี้นเงินฝากขึ้นเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง   คาดว่า เงินฝากจะขยายตัวร้อยละ 8.1  ส่วนสินเชื่อขยายตัวประมาณร้อยละ 14.2 ตามการขยายตัวของสินเชื่อ  เพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล เป็นสำคัญ

.

 แนวโน้มไตรมาส 3 ปี 2551  ภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ไตรมาส 3 ปี 2551 คาดว่าจะชะลอตัว ถึงแม้รายได้ของเกษตรกรจะเพิ่มขึ้น  จากราคาสินค้าเกษตรสำคัญโดยเฉพาะยางพารา  และปาล์มน้ำมัน จะทรงตัวอยู่ในระดับสูง  และมีมาตรการ  กระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน  แต่มีปัจจัยเสี่ยงคือค่าครองชีพที่สูงขึ้น จาก  ราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ตามแรงกดดันของราคาน้ำมัน ประกอบกับความไม่แน่นอนด้านการเมือง ตลอดจนความ  เชื่อมั่นของนักลงทุนและประชาชนที่ต่ำลง

.
ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย