นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เผยยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนในปีนี้อาจพลาดเป้าหมายจากที่ตั้งไว้ 6 แสนล้านบาท เหลือเพียง 3 แสนล้านบาท หรือลดลงถึงครึ่งหนึ่งของเป้าหมาย เนื่องจากได้รับผลกระทบอย่างมากจากปัญหาราคาน้ำมันแพง

"ช่วงที่ประมาณการว่ายอดขอส่งเสริมการลงทุนจะสูงถึง 6 แสนล้านบาท เป็นช่วงที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับ 60-70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเท่านั้น แต่ขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจเปลี่ยนไป และราคาน้ำมันก็สูงถึง 140 ดอลลาร์สหรัฐ" ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว

ช่วง 5 เดือนแรกปีนี้(ม.ค.-พ.ค.51) มียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนเพียง 150,000 ล้านบาท เนื่องจากปัจจัยลบ 3 สาเหตุ ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว, สถานการณ์ทางการเมืองขาดเสถียรภาพ และยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนปีก่อนมีอัตราสูงกว่า 5 แสนล้านบาท

ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปีนี้นักลงทุนเริ่มก่อสร้างส่งผลให้ยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนใหม่น้อยลง อย่างไรก็ตาม กระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) จะเร่งส่งเสริมการลงทุนในประเทศ และพยายามไม่ให้เกิดการถอนการลงทุน ถึงแม้บริษัทแม่จะมีปัญหา แต่เชื่อว่าโครงการลงทุนยังคงเดินหน้าต่อ

ก่อนหน้านี้ บีโอไอ รายงานว่าช่วงครึ่งปีแรก(ม.ค.-มิ.ย.51)มียอดการขอรับการส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 640 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนแค่รายเดียว โดยมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 2.037 แสนล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 3 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม ยังมั่นใจว่า ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 6 แสนล้านบาท โดยพยายามปรับเปลี่ยนเกณฑ์การส่งเสริมเพื่อจูงใจนักลงทุนมากขึ้น