เนื้อหาวันที่ : 2008-07-22 08:17:34 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1105 views

พาณิชย์เล็งบีบผู้ผลิตหั่นราคาสินค้านับพันรายการหลังต้นทุนจากน้ำมันลดลง

กรมการค้าภายใน ติดตามและตรวจสอบภาวะต้นทุนราคาสินค้าต่างๆ ว่าเป็นไปตามสภาพที่แท้จริงหรือไม่ โดยเฉพาะสินค้าที่มีต้นทุนจากราคาน้ำมันเพราะขณะนี้ปรับตัวลดลงอย่างมาก ทั้งจากการปรับตัวลดลงตามราคาในตลาดโลก และจากนโยบายของรัฐบาลที่ได้ลดภาษีสรรพสามิตลง ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลให้สินค้าไม่ต่ำกว่า 1,000 รายการต้องปรับลดราคาลงตามต้นทุนน้ำมัน

นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในติดตามและตรวจสอบภาวะต้นทุนราคาสินค้าต่างๆ ว่าเป็นไปตามสภาพที่แท้จริงหรือไม่ โดยเฉพาะสินค้าที่มีต้นทุนจากราคาน้ำมันเพราะขณะนี้ปรับตัวลดลงอย่างมาก ทั้งจากการปรับตัวลดลงตามราคาในตลาดโลก และจากนโยบายของรัฐบาลที่ได้ลดภาษีสรรพสามิตลง ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลให้สินค้าไม่ต่ำกว่า 1,000 รายการต้องปรับลดราคาลงตามต้นทุนน้ำมัน

.

"ตอนนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงเหลือ 128 เหรียญ/บาร์เรล จากที่เคยขึ้นสูงสุด 147 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ในประเทศราคาน้ำมันขายปลีกก็ลดลง และราคากำลังจะลดลงอีกจากการที่รัฐบาลได้ปรับลดภาษีสรรพสามิต ทำให้สินค้าที่มีต้นทุนเกี่ยวข้องกับน้ำมันลดลง ดังนั้นเมื่อต้นทุนลดลง ราคาสินค้าก็ควรจะปรับตัวลดลงด้วย" นายศิริพล กล่าว

.
สำหรับสินค้าที่มีแนวโน้มราคาลดลง เช่น กลุ่มวัสดุก่อสร้าง เช่น เหล็กเส้น, ปูนซีเมนต์ สินค้าเกษตร, สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น
.

นายศิริพล กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนสินค้าควบคุม 35 รายการ ว่ามีรายการใดที่ต้องนำเข้ามาเพิ่มในบัญชีสินค้าควบคุม หรือรายการใดมีการแข่งขันอย่างสมบูรณ์แบบก็อาจนำออกจากบัญชี โดยกลุ่มสินค้าที่จะถูกนำมาเป็นสินค้าควบคุม เช่น กลุ่มที่ผู้ประกอบการอ้างต้นทุนเทียมมาเป็นเหตุผลขอปรับขึ้นราคา หรือไม่ยอมลดราคาลง และกลุ่มสินค้าที่การแข่งขันไม่สมบูรณ์

.
อย่างไรก็ดี หลังจากราคาน้ำมันลดลงและราคาสินค้าลดลงแล้วจะช่วยให้ค่าครองชีพของประชาชนลดลง และส่งผลต่อเงินเฟ้อไม่ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์คาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปีนี้ไม่เกิน 5.0-5.5% ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมัน 125 เหรียญ/บาร์เรล แต่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าแนวโน้มราคาน้ำมันจะปรับขึ้นอีกหรือไม่ ซึ่งจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดก่อนที่จะประเมินคาดการณ์เงินเฟ้ออีกครั้งในเร็วๆ นี้
.

นายศิริพล กล่าวว่า เพื่อให้การติดตามภาวะเงินเฟ้อสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันมากขึ้น ได้มอบหมายให้สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า นำรายการสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพรายการใหม่ๆ เข้ามาคำนวณเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิง เช่น ก๊าซแอลพีจี, ก๊าซเอ็นจีวี และแก๊สโซฮอล์ เพราะขณะนี้ความต้องการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง