นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ(BBL) กล่าวว่า การพิจารณาระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เหมาะสมในขณะนี้เป็นเรื่องที่ยากต่อการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ ไม่ได้ชัดเจนพอที่จะชี้ทิศทางได้ดีเหมือนกับในอดีต รวมทั้งมีหลายองค์ประกอบที่ต้องคำนึงถึง และยังมีความเห็นจากฝ่ายต่าง ๆ ที่แตกต่างกันมาก

ประเด็นสำคัญในการตัดสินใจขณะนี้คือ คนส่วนใหญ่จะถูกกระทบอย่างไรบ้าง โดยมองว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในระดับ 5-6% ในปีนี้เป็นระดับที่ยอมรับได้ แต่อัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงมากมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยค่อนข้างมาก และปัญหาเงินเฟ้อในหลายประเทศก็ลุกลามไปทั่วโลกแล้ว ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังปัญหาเงินเฟ้อก็ยิ่งน่าเป็นห่วง

สำหรับกิจการของธนาคารพาณิชย์ ขณะนี้แม้ว่าสินเชื่อยังขยายตัวได้ดี แต่อีกด้านหนึ่งเงินออมปรับตัวลดลง เพราะดอกเบี้ยที่แท้จริงติดลบ

นายโฆสิต กล่าวว่า ทุกฝ่ายจะต้องปรับตัวเพื่อรับสภาพที่เกิดขึ้น รวมทั้งผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(SME)ต้องปรับตัวด้วยเพื่อรับมือปัญหาต้นทุนที่ปรับสูงขึ้น แต่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง แต่ในปีนี้สินเชื่อ SME ของ BBL ยังน่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย 25% โดยครึ่งปีแรกเติบโตต่อเนื่อง สิ้นไตรมาส 2/51 ขยายตัว 15% จากฐาน 3.8 แสนล้านบาท ณ สิ้นมี.ค.51 ซึ่งไตรมาส 1/51 เติบโตประมาณ 3.5-3.8%

ส่วนในด้านปัญหาหนี้เสีย(NPL)แม้ว่าเงินเฟ้ออาจกระทบทำให้ NPL เพิ่มขึ้น แต่คงจะไม่เพิ่มมากเหมือนในอดีตที่ NPL ของ BBL เคยขึ้นไปสูงถึง 7% โดยครึ่งแรกของปีนี้อยู่ที่ระดับ 3-4% ธนาคารเองก็พยายามทำงานเชิงคุณภาพมากขึ้น