เนื้อหาวันที่ : 2006-08-25 17:45:49 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1457 views

ไอร์ออนพอร์ต ซิสเต็มส์ เร่งสปีดขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ไอร์ออนพอร์ต ซิสเต็มส์ เปิดสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคในสิงคโปร์ ผู้นำทางด้านเกตเวย์รักษาความปลอดภัย เร่งขยายฐานธุรกิจให้เติบโตเร็วที่สุดในภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ไอร์ออนพอร์ต ซิสเต็มส์  เปิดสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคในสิงคโปร์ ผู้นำทางด้านเกตเวย์รักษาความปลอดภัย เร่งขยายฐานธุรกิจในภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุด  และแต่งตั้งผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนใหม่

.

ไอร์ออนพอร์ต ซิสเต็มส์ อิงค์ (IronPort Systems Inc.) ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านเกตเวย์สำหรับรักษาความปลอดภัย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคขึ้น  ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยในระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ให้ความสนใจและทุ่มเทการลงทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างต่อเนื่อง จนสามารถสร้างพันธมิตรที่เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้มากกว่า 200 ราย รวมถึงการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา และศูนย์บริการต่าง ๆ ในประเทศจีนและอินเดีย ตลอดจนการเปิดสำนักงานในเมืองใหญ่ ๆ ของเอเชียแปซิฟิกทั้งหมด ซึ่งได้แก่ สิงคโปร์ กรุงเทพฯ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ มุมไบ โซล ไทเป ฮ่องกง และเมลเบิร์น  นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเปิดสายให้บริการโทรฟรีตลอดเวลาโดยไม่มีวันหยุดในประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหมดอีกด้วย

.

จอย โกช ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของไอร์ออนพอร์ต กล่าวว่า เอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลก ในช่วงเวลา 3 ปีที่ไอร์ออนพอร์ตเข้ามาลงทุนในภูมิภาคนี้ ปรากฏว่ามีลูกค้ากว่า 500 รายที่เลือกใช้ไอร์ออนพอร์ตเป็นเกตเวย์รักษาความปลอดภัยในระบบไอที นอกจากนี้เรายังมีรากฐานที่แข็งแกร่งในแวดวงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต สื่อสารโทรคมนาคม และอุตสาหกรรมเฉพาะด้านต่าง ๆ ในระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์ของทุกประเทศในภูมิภาคนี้อีกด้วย การเปิดตัวสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคในครั้งนี้มีความสำคัญมาก โดยสะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทและมุ่งมั่นที่มีให้กับตลาดที่เติบโตเร็วแห่งนี้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ เรายังได้ขยายระดับการลงทุนในภูมิภาคนี้โดยการตั้งทีมผู้บริหารหลัก ๆ เพิ่มขึ้น รวมถึงการเปิดตัวโปรแกรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับบริษัทช่องทางการจัดจำหน่ายของเรา และเริ่มก่อตั้งศูนย์บริการหลายแห่งขึ้นในภูมิภาคนี้ จากการลงทุนต่าง  ๆ ดังกล่าว ทำให้เรามองเห็นถึงผลสำเร็จในอนาคตได้อย่างชัดเจน และนี่เป็นสิ่งที่ทำให้เราตื่นเต้นมากทีเดียว

.

ปัจจุบัน ไอร์ออนพอร์ตได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำในระบบการตรวจจับสแปม ด้วยการพัฒนาระบบตรวจจับสแปมที่มีระดับความผิดพลาดเพียงหนึ่งในล้านเท่านั้น  ระบบ SenderBase® ซึ่งเป็นระบบตรวจสอบอีเมลที่ขึ้นชื่อของบริษัทฯ เป็นระบบฐานข้อมูลแบบ reputation-bases ตัวแรกของโลกที่สามารถติดตามไอพีทั้งหมดกว่า 20 ล้านแห่งได้ด้วยการทำงานแบบเรียลไทม์  สเตฟานี บู ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนใหม่ของไอร์ออนพอร์ต กล่าวว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวทำให้ไอร์ออนพอร์ตสามารถตรวจสอบความหนาแน่นในระบบการรับส่งอีเมลได้เกินกว่าที่คาดไว้ถึงร้อยละ 25 จากพารามิเตอร์ที่เรากำหนดมากกว่า 105 รายการ  ฟิลเตอร์แบบ reputation-based ของเรานั้นเพิ่มอัตราการตรวจจับสแปมได้มากขึ้นอย่างชัดเจน โดยคำนวณจากคะแนนที่กำหนดไว้แบบเรียลไทม์สำหรับผู้ส่ง อีเมลแต่ละคน ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การมีระบบฟิลเตอร์ข้อมูลและระดับความสัมพันธ์เพียงอย่างเดียวแบบเดิมนั้นเริ่มไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว

.

ผลิตภัณฑ์ของไอร์ออนพอร์ตทั้งหมดทำงานด้วยระบบปฏิบัติการพิเศษ AsyncOS™ ซึ่งเป็นดีไซน์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไอร์ออนพอร์ต ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการรักษาความปลอดภัยสูงสุด กล่าวคือ สามารถรองรับกับความต้องการในการตรวจสอบอีเมลที่เข้าออกในระบบพื้นฐานของอีเมลที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้  นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ของไอร์ออนพอร์ตยังมีคุณสมบัติที่ล้ำหน้าสำหรับการส่งอีเมลอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นระบบการจัดคิวอย่างมีประสิทธิภาพ การรับมือกับเมลที่ถูกตีกลับ และการบริหารการเชื่อมต่อในระบบ ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบพื้นฐานของอีเมลนั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เกิดปัญหาใด ๆ แม้ในช่วงที่มีการแพร่กระจายของไวรัสหรือการโจมตีของสแปมก็ตาม จึงช่วยให้องค์กรประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์ พื้นที่บนแร็ก พลังงานที่ใช้ รวมถึงประหยัดเวลาของผู้ดูแลระบบไอทีอีกด้วย

.

สเตฟานี ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า เซิร์ฟเวอร์ของไอร์ออนพอร์ตช่วยให้การปฏิบัติงานนั้นง่ายขึ้นมาก กล่าวคือ หลังจากตั้งค่าของระบบแล้วก็สามารถทำงานได้เลยโดยไม่มีปัญหา จึงช่วยลดเวลาการทำงานของผู้ดูแลระบบลงไปได้กว่าร้อยละ 80 เลยทีเดียว นอกจากนี้เทคโนโลยี Virus Outbreak  Filter ของบริษัทฯ ยังมีการบันทึกข้อมูลซึ่งยืนยันได้ว่าในปี 2548 นั้น การแพร่กระจายของไวรัสกว่าร้อยละ 99 ถูกหยุดยั้งเอาไว้ได้ในอัตราเฉลี่ยประมาณ 14 ชั่วโมงก่อนที่จะมี signature ออกมารองรับเสียอีก

.
นักวิเคราะห์และภาพรวมของตลาดทั่วโลก

ไอดีซีได้มีการประเมินว่า รายได้จากการจำหน่ายอุปกรณ์ด้านการรักษาความปลอดภัยสำหรับแมสเสจทั่วโลกในปี 2549 มีมูลค่าประมาณหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ และจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2552  สำหรับตลาดของเกตเวย์สำหรับเว็บนั้น ไอดีซีกล่าวว่าอัตราการเติบโตประจำปีโดยรวม (Compound Annual Growth Rate - CAGR) ระหว่างปี 2549 – 2551 ของ anti-spyware จะอยู่ที่ร้อยละ 105  ส่วน CAGR ของการฟิลเตอร์ URL จะอยู่ที่ร้อยละ 71  ทั้งนี้ การเติบโตของตลาดโดยรวมในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นจะมีมูลค่าประมาณ 170-424 ล้านเหรียญสหรัฐ

.

ทางด้านของผลประกอบการนั้น ไอร์ออนพอร์ตยังคงมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและสูงเกินความคาดหมายของบริษัทฯ ที่วางไว้ กล่าวคือ เมื่อสิ้นสุดไตรมาสที่สองของปี 2549 บริษัทฯ สามารถทำรายได้สูงกว่า 25 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับเป็นไตรมาสที่มียอดขายสูงที่สุด และสูงกว่าร้อยละ 89 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สองของปี 2548

.

ไอร์ออนพอร์ต ยังคงมีบทบาทสำคัญสำหรับองค์กรของลูกค้าในระดับเอ็นเตอร์ไพรส์และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ปัจจุบัน ไอร์ออนพอร์ต ได้เข้าไปช่วยปกป้องระบบรักษาความปลอดภัยให้กับองค์กรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกมากถึง 38 แห่งจากทั้งหมดที่มีอยู่ 100 แห่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ที่สุดของโลกอีก 8 รายจากทั้งหมดที่มีอยู่ 10 ราย และบริษัทรักษาความปลอดภัยขนาดใหญ่ระดับโลก อีก 3 ราย  

.

สก็อตต์ ไวซ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งไอร์ออนพอร์ต กล่าวว่า หลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของไอร์ออนพอร์ต ได้แก่ การที่บริษัทผู้พัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยและเทคโนโลยีสำหรับเครือข่ายส่วนใหญ่นั้นต่างหันมาเลือกใช้ไอร์ออนพอร์ตเพื่อปกป้องเครือข่ายในระบบของตนทั้งสิ้น  บริษัทชั้นนำต่าง ๆ เหล่านี้ยังรวมถึง ซิสโก้ ซีสเต็มส์ และเดลล์ อีกด้วย  สำหรับกรณีของเดลล์นั้น นำไอร์ออนพอร์ตไปใช้เพื่อป้องกันเมสเสจที่มีเข้ามาในปริมาณที่มากกว่า 29 ล้านข้อความต่อวัน

.

ผลประกอบการที่โดดเด่นในไตรมาสที่สองของปี 2549 ยังรวมถึงยอดขายนอกสหรัฐอเมริกาที่    ไอร์ออนพอร์ตสามารถทำได้สูงถึงร้อยละ 42 ของยอดขายทั้งหมดในไตรมาสนี้ โดยมีติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมดกว่า 300 ล้านจุด และมีอัตราการเพิ่มขึ้นของลูกค้าใหม่ถึงหนึ่งเท่าตัว ทั้งนี้ ไวซ์  ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า อนาคตของไอร์ออนพอร์ตนั้นมีความสดใสเนื่องจากในอุตสาหกรรมมีความต้องการ และยังกล่าวอีกว่า ในขณะที่บริษัทรายอื่นกำลังสนใจอยู่กับการรวมหลาย ๆ ผลิตภัณฑ์เข้าด้วยกัน มีปัญหาในเรื่องต่าง ๆ ขององค์กร หรือมัวแต่วุ่นวายอยู่กับการจัดการด้านความคาดหวังของนักวิเคราะห์  แต่สำหรับไอร์ออนพอร์ต เรามุ่งเน้นในเรื่องของการพัฒนาโซลูชันการรักษาความปลอดภัยสำหรับเว็บและอีเมลให้ดีที่สุดอย่างเต็มร้อยดังที่เคยปฏิบัติมา