ตลาดกระเบื้องเซรามิคส์ปรับทิศรับการแข่งขัน "ดี.พี.เซรามิคส์" ตอกย้ำพัฒนาการที่ไม่หยุดยั้ง ชูความแข็งแกร่งของพันธมิตร ผุด "คอตโต้ ไทล์ส สตูดิโอ" รูปแบบใหม่ ใหญ่และดีกว่า ตอบสนองแฟนพันธุ์แท้คอตโต้ ด้วยผู้เชี่ยวชาญพร้อมระบบออกแบบทันสมัย เจาะไลฟ์สไตล์ได้ครบวงจร คาดจับตลาดคนรุ่นใหม่หัวใจดีไซเนอร์ กระตุ้นยอดขายทะลุ 550 ล้าน เผย 27 ปีแห่งความแข็งแกร่ง สานต่อสู่สาขาใหม่ คุมกรุงเทพเหนือและตะวันออก

นายประสิทธิ์ นพรัตน์นภาลัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ดี.พี. เซรามิคส์ จำกัด ร้านตัวแทนจำหน่ายสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ กระเบื้องเซรามิคส์ และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เปิดเผยว่า ตลาดผลิตภัณฑ์กระเบื้องเซรามิคส์และสินค้าตกแต่งบ้านในปัจจุบัน มีพัฒนาการของสินค้าเพื่อตอบรับความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค ส่งผลให้รูปแบบหรือลวดลายของสินค้า มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคมากขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์หลักที่สำคัญของบริษัทฯ คือ การนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพ หลากหลายรูปแบบ ภายใต้ช่องทางการจำหน่ายที่ทันสมัย ฉับไว และครบวงจร

ล่าสุดบริษัทฯได้ทำการปรับโฉมโชว์รูมสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มแฟนพันธุ์แท้กระเบื้อง “คอตโต้” โดยนำเสนอ “คอตโต้ ไทล์ส สตูดิโอ” ภายใต้แนวความคิด “THE BIGGEST AND THE BEST COTTO IN TOWN” ทั้งนี้ได้ทำการขยายพื้นที่โชว์รูมในส่วนของคอตโต้ จาก 150 ตารางเมตร เป็น 600 ตารางเมตร ซึ่งจะเป็นเป็นโชว์รูมคอตโต้ที่ครบวงจร มาตรฐานเทียบเท่า COTTO LIBERY สาขาอโศก

โดยจะมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย พร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพที่คอยให้บริการอย่างใกล้ชิด รวมทั้งบริการพิเศษออกแบบห้องน้ำด้วยระบบ 3D จากทีมงานดีไซน์ มัณฑณากรมืออาชีพ ซึ่งการปรับโฉมโชว์รูมครั้งนี้ งบประมาณกว่า 7 ล้านบาท โดยคาดว่าจะตอบโจทย์ให้กับคนรุ่นใหม่ ได้อย่างครบถ้วน ทั้งในความหลากหลายของสินค้า,ในเรื่อง DESIGN, ในเรื่อง ได้เห็นภาพเสมือนจริงของ (3 D) ก่อนตัดสินใจและคุณภาพสินค้า ภายใต้แบรนด์คอตโต้

"การปรับโฉมโชว์รูมคอตโต้ในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำศักยภาพของพันธมิตรหลักอย่างคอตโต้ ที่ร่วมงานกับ ดี.พี. มากว่า 20 ปี โดยจะเป็นโชว์รูมที่มีความแตกต่างจากร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วไป จากขนาดที่ใหญ่กว่า และทีมงานดีไซน์ที่พร้อมบริการ แบบ 1 Stop Service พรั่งพร้อมด้วยบริการพิเศษ อาทิ บริการให้คำปรึกษาและข้อมูล การออกแบบด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์,ตรวจสอบสต็อกสินค้าออนไลน์ อีกทั้งยังเป็นผู้นำแฟชั่นในการนำเสนอสินค้าใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด"

ดี.พี.เซรามิค เปิดให้บริการมาถึง 27 ปีและมีพื้นที่รวมทั้งหมด1,300 ตารางเมตร หรือ2 -3ไร่ ซึ่งที่มาผ่านมาได้รับการไว้วางใจจากลูกค้าด้วยดีเสมอมา จากความเชี่ยวชาญในธุรกิจพร้อมทีมงานมีประสบการณ์ มีความรับผิดชอบและบริการที่รวดเร็ว ทั้งนี้หลังจากการปรับโชว์รูมครั้งนี้ จะส่งผลให้สัดส่วนของโชว์รูมคอตโต้มีมากขึ้น บนพื้นที่ 600 ตารางเมตร และพื้นที่ของแบรนด์อื่นๆ 700 ตารางเมตร ได้แก่ สุขภัณฑ์ เช่น KOHLER , KARAT AMERICAN STANDARD ,NAHM กระเบื้อง RCI ,UMI ,ดูราเกรส โสสุโก้ และสินค้านำเข้า

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ดี.พี. เซรามิคส์ ให้ความสำคัญกับการตอบสนองความต้องการใหม่ๆของลูกค้า และมีการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายให้มีความทันสมัยตลอดมา ภายใต้รูปแบบโชว์รูมในสไตล์ TRENDY ที่นำเสนอสินค้ากระเบื้องและสุขภัณฑ์แฟชั่นใหม่ๆ ที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้คาดว่าการปรับโฉมโชว์รูมคอตโต้ในครั้งนี้ จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าคนรุ่นใหม่ และลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยม รวมทั้งสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอีกด้วย

กลุ่มลูกค้าของดี.พี.เซรามิคส์ ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าโครงการขนาดใหญ่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์อาทิ เช่น โครงการเดอะพาร์คชิดลม โครงการบ้านแมกโนเลีย โครงการ ศุภาลัยคาซ่าริวา โครงการ ณุษาสิริเอกมัยและโครงการโนเบิ้ลแอมเบียนซ์ร่วมฤดีและสารลิน, หมู่บ้านกฤษดานคร , โครงการในเครือ SC ASSET, โครงการในกลุ่มพร็อพเพอร์ติเพอเฟค ,โครงการนุศาศิริ, โครงการในกลุ่ม TCC CAPITAL เช่น โครงการเอ็มโพริโอทาวเวอร์ , โรงแรมเลอเมอริเดียน,โครงการวิลล่าราชเทวี , วิลล่าสาทร รวมทั้ง โครงการบ้านเอื้ออาทร ทั่วประเทศจำนวน 50,000 หลัง ฯลฯ

ปัจจุบันโชว์รูม ดี.พีเซรามิคส์ เปิดให้บริการ 1 สาขา ณ สาขาตลิ่งชั่น (เยื้องสายใต้ใหม่) และในอนาคตมีแผนการขยายสาขาใหม่ เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าในด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกของกรุงเทพฯ โดยคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า นอกจากนั้นจะทำการขยายตลาดสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีศักยภาพ อาทิ กลุ่มโรงแรมและรีสอร์ท ที่ยังมีอัตราการขยายตัว รวมทั้งเป็นกลุ่มที่มีการปรับปรุงสถานที่หรือการตกแต่งที่แปลกใหม่อยู่เสมอ

ในปี 2551 บริษัทฯ วางงบประมาณทางการตลาดไว้ที่ 10 ล้านบาท แบ่งเป็น Above the Line 70% และ Below the Line 30% รวมทั้งการจัดกิจกรรมตลาดและโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อยอดขายที่เติบโตขึ้น 30% ในครึ่งปีแรกของปีนี้ สำหรับปีที่ผ่านมา บริษัทฯมียอดขาย 450 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 25% และมีส่วนแบ่งจากตลาดโครงการ เป็นอันดับ 3 โดยหลังจากการปรับโฉมโชว์รูมครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลต่อยอดขายที่เติบโตขึ้นประมาณ 25% หรือกว่า 550 ล้านบาท

นอกจากการปรับโฉมร้านใหม่แล้ว บริษัทฯยังมีกลยุทธ์กระตุ้นตลาด โดยการนำเสนอโปรโมชั่น ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 กรกฎาคม 2551 เมื่อซื้อครบ 50,000 บาท รับทันที ไมโครเวฟ ,ซื้อครบ 100,000 บาท รับทันที ตู้เย็น , ซื้อครบ 200,000 บาท รับทันที โฮมเธียร์เตอร์ , ซื้อครบ 300,000 บาท รับทันที LCD TV 32 นิ้ว 1 เครื่อง และของสมนาคุณอื่นๆอีกมากมาย

ด้าน ดร. ปริญญา สายน้ำทิพท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซรามิคส์ อุตสาหกรรมไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดกระเบื้องเซรามิค มีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามอง คือ สถานการณ์การเมือง ราคาน้ำมัน ต้นทุนการก่อสร้าง อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และผลกระทบจากปัญหา Sub –prime ของอเมริกา อีกทั้งยังมีการแข่งขันจากกระเบื้องนำเข้าต่างประเทศโดยเฉพาะกระเบื้องนำเข้าจากจีน แต่ยังมีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ และโครงการก่อสร้าง จากภาครัฐ ช่วยเป็นแรงผลักดันตลาด เช่น โครงการ Mega project เป็นต้น

 ส่วนพฤติกรรมผู้บริโภคในการเลือกซื้อกระเบื้องเซรามิคส์ในปัจจุบัน ประกอบด้วย การเน้นลวดลาย สีสันสวยงาม หลากหลาย ความแข็งแรง ทนทาน ราคาสินค้าที่เหมาะสมกับคุณภาพ สะดวกในการหาซื้อ และความครบถ้วนของสินค้าและการบริการ (Service & Solution)

 แนวโน้มของรูปแบบและสีสันของกระเบื้อง ได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น อาทิ สไตส์ที่ชอบความสงบเรียบง่าย ความสุขท่ามกลางสิ่งแวดล้อม จะเป็นโทนสี อ่อนๆ เช่น เหลืองอ่อน น้ำตาลอ่อน เขียวอ่อน และ สไตส์ Colorful แสดงถึงการเฉลิมฉลอง มีชิวิตชีวา สดใส เป็นต้น

 ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคเริ่มมีพฤติกรรมการใช้กระเบื้องเซรามิคส์เปลี่ยนไป คือ หันมาใช้กระเบื้องที่แผ่นใหญ่แทนที่การใช้แผ่นเล็กเหมือนในอดีต เนื่องจากการใช้กระเบื้องแผ่นใหญ่ในการตกแต่งบ้านจะบ่งบอกฐานะของผู้ใช้ได้เป็นส่วนพฤติกรรมการเลือกซื้อ คือหันมาเลือกกระเบื้องด้วยตัวเองมากขึ้น ทำให้ตัวแทนจำหน่ายต้องหันมาจัดโชว์รูมใหม่ มีการนำเสนอกระเบื้องมาโชว์ในร้านมากขึ้น สต็อกสินค้าเพิ่มากขึ้น มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย และครบวงจรเพื่อรองรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป

"การพัฒนารูปแบบของ ดี.พี. เซรามิคส์ คือมุมมองของการทำธุรกิจแบบคนรุ่นใหม่ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันท่วงที และมีความครบวงจร จึงเชื่อมั่นว่า การปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้จะสร้างความสำเร็จให้กับ ดี.พี.เซรามิคส์ได้เป็นอย่างดี" ดร.ปริญญา กล่าว