เนื้อหาวันที่ : 2008-07-01 11:01:24 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1589 views

ไพลอน โชว์ Backlog ครึ่งปีทะลุ 450 ลบ. มั่นใจปีนี้ปั๊มรายได้ทะลุเป้า 550 ลบ.ได้แน่

ไพลอนคุยได้งานรับเหมาฐานรากเข้ามือเพิ่มอีก 6 โครงการ มูลค่ารวม 139 ลบ. หนุน Backlog ครึ่งปีทะลุ 450 ลบ. เผยครึ่งปีหลังเตรียมเข้าร่วมประมูลงานเพิ่มอีกกว่า 400-500 ลบ. ส่งสัญญาณปีนี้รายได้มีลุ้นทะลุเป้าเดิมที่ 550

 

 .

ไพลอนคุยได้งานรับเหมาฐานรากเข้ามือเพิ่มอีก 6 โครงการ มูลค่ารวม 139 ลบ. หนุน Backlog ครึ่งปีทะลุ 450 ลบ. เผยครึ่งปีหลังเตรียมเข้าร่วมประมูลงานเพิ่มอีกกว่า 400-500 ลบ. ส่งสัญญาณปีนี้รายได้มีลุ้นทะลุเป้าเดิมที่ 550 ลบ. พร้อมเชื่อครึ่งปีหลังภาวะราคาพลังงานพุ่งหนุนโครงการคอนโดฯ-รถไฟฟ้าเดินหน้าเต็มตัว ทำให้งานไหลเข้าตลาดหนาแน่นขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจอย่างชัดเจน

.

นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) PYLON เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้รับการยืนยันการจ้างงานตามโครงการต่างๆ เพิ่มเติมจากที่แจ้งในครั้งก่อนจำนวนทั้งสิ้น 6 โครงการ รวมเป็นจำนวนเงิน 139,289,336 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ได้แก่ โครงการ ไอดีโอ ลาดพร้าว 5 คอนโดมิเนียม เป็นงานเสาเข็มเจาะ สำหรับอาคาร (งานเฉพาะค่าแรง) ของบริษัท วิษณุกรการช่าง จำกัด ระยะเวลาก่อสร้าง 70 วัน

.

นับจากวันที่ส่งมอบพื้นที่ งานของ บมจ. เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการ ไอดีโอ ลาดพร้าว 17 คอนโดมิเนียม เป็นงานเสาเข็มเจาะ สำหรับงานอาคาร (งานเฉพาะค่าแรง) ระยะเวลาก่อสร้าง 60 วัน นับจากวันที่ส่งมอบพื้นที่ และโครงการ ไอดีโอ มิกซ์ พหลโยธินคอนโดมิเนียม เป็นงาน เสาเข็มเจาะ สำหรับงานอาคาร (งานเฉพาะค่าแรง) ระยะเวลาก่อสร้าง 68 วัน นับจากวันที่ส่งมอบพื้นที่

.

โครงการ แบงค์คอก ฮอไรซอน (รามคำแหง 60) เป็นงาน เสาเข็มเจาะ สำหรับงานอาคาร (งานเฉพาะค่าแรง) ของ บริษัท ไทยสยามนครพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ระยะเวลาก่อสร้าง 87 วัน นับวันที่ส่งมอบพื้นที่ โครงการ เลอรัก คอนโดมิเนียม อาคาร B (สกายวอล์ค) เป็นงาน เสาเข็มเจาะ สำหรับงานอาคาร ของบริษัท วรลักษณ์ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ระยะเวลาก่อสร้าง 120 วัน นับจากวันที่ส่งมอบพื้นที่ และ โครงการ เมโทร อเวนิว สุขุมวิท 66 เป็นงาน เสาเข็มเจาะ สำหรับงานอาคาร ของ บมจ. เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ (METRO) ระยะเวลาก่อสร้าง 70 วัน นับวันที่ส่งมอบพื้นที่

.

นายบดินทร์กล่าวอีกว่า หลังจากบริษัทฯ ได้รับงานชุดดังกล่าวทำให้ปัจจุบันมี Backlog ในมือรอรับรู้เป็นรายได้แล้วกว่า 450 ลบ. ทำได้เกินกว่า50 % ของเป้าหมายรายได้ในปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 550 ลบ. ซึ่งคาดว่างานที่มีอยู่ในมือทั้งหมดจะรับรู้เป็นรายได้ภายในไตรมาสที่ 4/2551 นอกจากนั้น ในครึ่งปีหลังบริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเข้าประมูลโครงการภาครัฐและเอกชน คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 400-500 ล้านบาท ซึ่งหากได้รับงานในโครงการจะกล่าว จะทยอยรับรู้ตั้งแต่ไตรมาส 3/51เป็นต้นไป

.

"ถ้าดูจากปริมาณงานที่เริ่มทยอยเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งปริมาณงานที่บริษัทฯ คาดว่าจะประมูลได้ในปีนี้ ก็มีความเป็นไปได้ที่รายได้ในปีนี้จะเติบโตเกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้เบื้องต้นที่ 550 ล้านบาท แต่ก็ยังคงเป้าหมายไว้ที่ระดับเดิม เนื่องจากยังมีตัวแปรอื่นที่อาจกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจได้อีก โดยเฉพาะความเสี่ยงทางด้านการเมือง ที่เริ่มร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง

.

ในขณะที่ส่วนแบ่งทางการตลาดคาดว่าจะผลักดันให้เพิ่มขึ้นจาก 15% มาอยู่ที่ระดับ 20% ได้สำเร็จ ส่วนความสามารถในการหางานที่ปรับตัวดีขึ้น สังเกตได้จากBacklog ที่เพิ่มสูงขึ้นมากจากปีก่อน และการแข่งขันที่เริ่มจะลดลง ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะทำให้ผลกำไรในปีนี้สูงกว่าที่ประมาณการไว้ด้วย"

.

สำหรับแนวโน้มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในครึ่งปีหลัง เชื่อว่าน่าจะยังทรงตัวจากครึ่งปีแรก หรือมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องได้ หากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐโดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ เกิดขึ้นได้เร็วในช่วงครึ่งหลังของปี เพราะจะทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ตามแนวรถไฟฟ้าเปิดตัวมากขึ้นด้วยเช่นกัน

 .

เนื่องจากการที่ราคาน้ำมันสูงขึ้นมากทำให้ผู้ที่จะซื้อบ้านจะหันมาเลือกคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจก่อสร้างงานฐานรากสำหรับโครงการรถไฟฟ้าและคอนโดมิเนียมต่อเนื่องไปอีกหลายปี

 .

ส่วนราคาวัตถุดิบ อาทิ เหล็กเส้น และน้ำมัน เชื่อว่ายังคงมีแนวโน้มผันผวนต่อเนื่องในครึ่งปีหลังนี้ แต่เนื่องจากธุรกิจหลักของบริษัทคืองานฐานรากซึ่งใช้ระยะเวลาก่อสร้างสั้น ๆ เพียง2-3เดือน และบริษัทใช้นโยบายซื้อเหล็กเส้นทั้งหมดเมื่อเซ็นสัญญางานเพื่อล็อคต้นทุนไว้ ทำให้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวไม่มากนัก เมื่อสิ้นสุดโครงการเดิมและเริ่มงานใหม่ก็สามารถปรับราคาใหม่ให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้

 .

นอกจากนั้น งานฐานรากยังเป็นงานต้นน้ำซึ่งมีความเสี่ยงในการไม่ได้รับชำระเงินค่อนข้างต่ำ ดังนั้นบริษัทจะยังคงรักษานโยบายในการขยายธุรกิจด้านงานฐานรากต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางธุรกิจที่อาจจะเกิดขึ้นได้ บริษัทจึงมุ่งขยายธุรกิจอย่างรอบคอบและระมัดระวังในการรับงานมากขึ้น