เนื้อหาวันที่ : 2008-06-27 16:01:02 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1095 views

คลัง เผยยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้น เม.ย.51 อยู่ที่ 36.11% ของ GDP

การเพิ่มขึ้นสุทธิของหนี้สาธารณะคงค้างเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ในประเทศที่รัฐบาลกู้โดยตรง โดยเพิ่มขึ้นสุทธิ 39,943 ล้านบาท เนื่องจากการออกพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 23,550 ล้านบาท พันธบัตรออมทรัพย์วงเงิน 12,393 ล้านบาท และตั๋วเงินคลังวงเงิน 4,000 ล้านบาท เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ

กระทรวงการคลัง เผยยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 เม.ย.51 มีจำนวน 3,401,403 ล้านบาท คิดเป็น 36.11% ของ GDP ซึ่งมียอดหนี้สาธารณะคงค้างเพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 มี.ค.51 ที่มีจำนวน 3,374,966 ล้านบาท หรือ 36.85% ของ GDP

.

โดยยอดหนี้สาธารณะคงค้างดังกล่าว แยกเป็น หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,178,065 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 949,567 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 92,442 ล้านบาท หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 160,360 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 20,969 ล้านบาท

.

"เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 25,750 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้น 37,563 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินลดลง 2,646 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินลดลง 3,155 ล้านบาท และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 6,012 ล้านบาท" เอกสารเผยแพร่ ระบุ

.

การเพิ่มขึ้นสุทธิของหนี้สาธารณะคงค้างเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ในประเทศที่รัฐบาลกู้โดยตรง โดยเพิ่มขึ้นสุทธิ 39,943 ล้านบาท เนื่องจากการออกพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 23,550 ล้านบาท พันธบัตรออมทรัพย์วงเงิน 12,393 ล้านบาท และตั๋วเงินคลังวงเงิน 4,000 ล้านบาท เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ

.

สำหรับหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้นสุทธิ 13,948 ล้านบาท ได้แก่ การออกพันธบัตรขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) และการเคหะแห่งชาติ(กคช.) วงเงิน 4,000 ล้านบาท และ 1,000 ล้านบาท ตามลำดับ, การกู้เงินระยะยาวของ กคช. และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) วงเงิน 8,100 ล้านบาท และ 1,577 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่หนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันลดลง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสุทธิของหนี้ต่างประเทศในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อแปลงเป็นเงินบาทลดลง 5,560 ล้านบาท

.

ส่วนหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันลดลงสุทธิ 9,455 ล้านบาท ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)ไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนดวงเงิน 1,230 ล้านบาท และ กคช.ชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะยาว วงเงิน 8,004 ล้านบาท ขณะที่หนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ลดลงสุทธิ 6,012 ล้านบาท จากการซื้อคืนพันธบัตรกองทุนที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันจำนวน 6,000 ล้านบาท

.

ทั้งนี้ หนี้สาธารณะ 3,401,403 ล้านบาท แยกออกเป็น หนี้ต่างประเทศ 396,045 ล้านบาท หรือ 11.64% และหนี้ในประเทศ 3,005,358 ล้านบาท หรือ 88.36% ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง โดยเป็นหนี้ระยะยาว 3,186,931 ล้านบาท หรือ 93.69% และหนี้ระยะสั้น 214,472 ล้านบาท หรือ 6.31% ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง