คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการใช้น้ำมันเบนซินที่มีส่วนผสมของเอทานอลร้อยละ 85 (น้ำมัน E 85)  และรถยนต์นั่งที่สามารถใช้น้ำมัน E85  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่าเนื่องจากราคาน้ำมันในปัจจุบันมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมพลังงานทางเลือกต่าง ๆ ทั้งการใช้ก๊าซธรรมชาติ และการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพที่ใช้วัตถุดิบในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบ  และเพื่อให้มาตรการภาษีในการ

สนับสนุนการใช้น้ำมัน E 85 มีความชัดเจน สอดคล้องกับนโยบาย "ปีแห่งการลงทุน"  และความพร้อมของทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ  กระทรวงการคลังจึงให้การสนับสนุนรถยนต์ E 85 และน้ำมัน E 85  ดังนี้

(1) ยกเว้นอากรขาเข้าชิ้นส่วนสำหรับรถยนต์ E 85 ที่มีลักษณะเฉพาะและเป็นอุปกรณ์หลักเพื่อปรับเปลี่ยนมาใช้น้ำมัน E 85 และไม่มีผลิตในประเทศเป็นการชั่วคราว 3 ปี  (นับตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้) (2) ลดอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ E 85 ลงเหลือร้อยละ 25  30 และ 35 ตามขนาดเครื่องยนต์ คือ ไม่เกิน 2,000 ซีซี  มากกว่า 2,000 - 2,500 ซีซี  และมากกว่า2,500 - 3,000 ซีซี ตามลำดับ ซึ่งเท่ากับอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ E 20 ในปัจจุบัน

(3) ลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน E 85 เหลือ 2.5795 บาทต่อลิตรจาก 3.6850 บาทต่อลิตร  ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเร่งดำเนินการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วต่อไป