เนื้อหาวันที่ : 2008-05-27 11:44:12 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2160 views

ราชบุรีโฮลดิ้ง ไตรมาสแรกปีนี้ฟันกำไร 1,704 ล้านบาท พร้อมขยายโครงการลงทุนสร้างความเติบโต

บมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง ย้ำทิศทางธุรกิจเน้นสร้างความเติบโตต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ เผยผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยไตรมาสแรก ประจำปี 2551 กำไรสุทธิ 1,703.85 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.18 บาท

บมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง ย้ำทิศทางธุรกิจเน้นสร้างความเติบโตต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ เผยผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยไตรมาสแรก ประจำปี 2551 กำไรสุทธิ 1,703.85 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.18 บาท

.

นายณรงค์ สีตสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง แถลงความคืบหน้าโครงการลงทุน โดยกล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นแสวงหาโครงการลงทุนที่มีศักยภาพทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่องไปพร้อมกับการเร่งพัฒนาโครงการที่มีอยู่แล้วให้สามารถเข้าระบบได้ตามกำหนด

.

โดยที่ผ่านมาโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมราชบุรีเพาเวอร์ ชุดที่ 1 กำลังผลิต 700 เมกะวัตต์ ได้เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วตามกำหนดเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ชุดที่ 2 กำลังผลิต 700 เมกะวัตต์ มีกำหนดจะเครื่องเชิงพาณิชย์ในเดือนมิถุนายนศกนี้

.

ในส่วนของโครงการลงทุนในต่างประเทศของบริษัทฯที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คือโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ - น้ำงึม 2 ใน สปป.ลาว มีความคืบหน้าในการก่อสร้างร้อยละ 50.5 ของโครงการ (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2551) สำหรับความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนหงสา ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้

.

นอกจากนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำบาก กำลังผลิตรวม 140 เมกะวัตต์ ใน สปป.ลาว ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ เนื่องจากบริษัท เซาท์อีสต์ เอเชีย เอนเนอร์จี้ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ร้อยละ 25 ได้รับสิทธิในการพัฒนาโครงการจากรัฐบาล สปป.ลาว โดยคาดว่าบริษัทฯจะมีสัดส่วนการลงทุนในโครงการน้ำบาก ร้อยละ 25

.

ปัจจุบัน บริษัทฯมีเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 10,974.63 ล้านบาท และมีกำไรสะสมจากการดำเนินงานเท่ากับ 23,343.71 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่มั่นคงและความพร้อมรองรับการขยายโครงการลงทุนที่มีศักยภาพในอนาคต"

.
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ประจำปี 2551 ฉบับสอบทานโดยผู้สอบบัญชีนั้น บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 1,703.85 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 344.89 ล้านบาทหรือร้อยละ 16.83 มีสาเหตุหลักมาจากรายได้ค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าราชบุรี (Availability Payment) จำนวน 2,872.84 ล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาสที่ 1 ปี 2550 เป็นจำนวน 440.89 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 13.30
.

เนื่องจากอัตราค่าความพร้อมจ่ายในปี 2551 ต่ำกว่าปี 2550 ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ประกอบกับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนราชบุรี เครื่องที่ 2 ได้หยุดเดินเครื่องเพื่อซ่อมแซมอุปกรณ์โรงไฟฟ้า โดยได้เดินเครื่องตามปกติแล้วเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา

.

นอกจากนั้นบริษัท ฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 11,589.34 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้จากการขายจำนวน 10,982.84 ล้านบาท ดอกเบี้ยรับจำนวน 111.51 ล้านบาท รายได้ค่าบริการและรายได้อื่นๆ รวม 44.81 ล้านบาท นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรในกิจการร่วมค้า จำนวน 450.17 ล้านบาท

.

ขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 9,885.49 ประกอบด้วย ต้นทุนขายจำนวน 9,398 ล้านบาท (ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วเนื่องจากในไตรมาสนี้ มีค่าซ่อมอุปกรณ์โรงไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมราชบุรี ชุดที่ 3) ค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 129.78 ล้านบาท ค่าตอบแทนกรรมการจำนวน 7.02 ล้านบาท ขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายเท่ากับ 323.95 ล้านบาท และภาษีเงินได้เท่ากับ 26.74 ล้านบาท

.

ส่วนสินทรัพย์ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2551 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 71,502.41 ล้านบาท แบ่งเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนทั้งสิ้น 21,297.29 ล้านบาท และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนจำนวน 50,205.12 ล้านบาท ในด้านหนี้สินนั้น บริษัทฯ มีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 32,126.92 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2.12 เมื่อเทียบกับงวด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550

.

โดยแบ่งเป็นหนี้สินหมุนเวียนทั้งสิ้น 10,155.94 ล้านบาท และหนี้สินไม่หมุนเวียนทั้งสิ้น 21,970.98 ล้านบาท ทั้งนี้มีส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 39,375.49 ล้านบาท สำหรับอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ระดับ 0.82 เท่า และอัตราส่วนแสดงความสามารถในการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยจ่าย (DSCR) อยู่ที่ระดับ 2.26 เท่า