เนื้อหาวันที่ : 2008-05-12 14:12:00 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1117 views

รัฐ-เอกชนไทย-จีน ลงนามขยายการค้า-ลงทุนมูลค่ากว่า 120 ล.สหรัฐ เชื่อปีนี้ ตัวเลขส่งออกไปจีนพุ่ง

รัฐ-เอกชนระหว่างไทย-จีน ลงนามขยายการค้า-ลงทุนมูลค่ากว่า 120 ล้านเหรียญสหรัฐ เชื่อปีนี้ ตัวเลขส่งออกไปจีนพุ่ง จีบจีนอย่าลืมช้อปปิ้งลำไย เหตุปีนี้มีให้บริโภคจำนวนน้อย

รัฐ-เอกชนระหว่างไทย-จีน ลงนามขยายการค้า-ลงทุนมูลค่ากว่า 120 ล้านเหรียญสหรัฐ เชื่อปีนี้ ตัวเลขส่งออกไปจีนพุ่ง จีบจีนอย่าลืมช้อปปิ้งลำไย เหตุปีนี้มีให้บริโภคจำนวนน้อย          

.

นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่าง มณฑลกว่างสี สาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศไทยว่า ภาครัฐและเอกชนได้ลงนามใน 7 โครงการมูลค่ากว่า 120 ล้านเหรียญสหรัฐ อาทิ กรมส่งเสริมการส่งออกได้ลงนามให้ความช่วยเหลือพื้นที่จัดแสดงสินค้าในงานแสดงสินค้าไซน่า อาเซียน เอ็กโปร์ 2008 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 ตุลาคมนี้ ที่เมืองหน่านหนิง ประเทศจีน ขณะที่นักธุรกิจจีน-ไทย ร่วมลงนาม ศูนย์ธุรกิจไทยของบริษัทไพรมารี การเพาะเลี้ยงสัตว์ทะเล การลงทุนผลิตกระสอบปุ๋ย เป็นต้น ถือเป็นการต่อยอดขยายการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศที่มีความสัมพันธ์มาช้านาน

.

ทั้งนี้ปริมาณการค้าระหว่างสองประเทศในปี 2550 มีมูลค่าการค้ากว่า 31,062 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 23% เมื่อเทียบกับปีก่อน เฉพาะมณฑลกว่างซี แห่งเดียวมีประชากรกว่า 50 ล้านคน มีการค้าขาย-ลงทุนหลายพันล้านเหรียญ จึงถือเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญ ประกอบกับที่ผ่านมาได้มีการลงทุนในธุรกิจของกลุ่มน้ำตาลมิตรผล เครือเจริญโภคภัณฑ์ไปแล้วในหลายธุรกิจ ทำให้คาดว่าปริมาณการค้าระหว่างสองประเทศจะเพิ่มขึ้นอีกมหาศาล

.

"ผมในฐานะประธานกรรมการบริหารจัดการด้านอาหารและพลังงานได้ให้ความมั่นใจกับคณะผู้บริหารระดับสูงของจีนไปว่า ไม่ว่าการจัดงานแสดงสินค้า การอำนวยความสะดวกด้านการค้า การลงทุน พลังงาน สิ่งเหล่านี้ ผมสามารถจัดการเชื่อมโยงกันได้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้กิจกรรมสามารถดำเนินการได้อย่างไม่ติดขัด" นายมิ่งขวัญ กล่าว

.

สำหรับในวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมาคณะมณฑลกว่างซี ได้ตอบตกลงเดินทางไปร่วมเจรจาการซื้อขายผลไม้ลำไยในจ.เชียงใหม่ จำนวน 5 กลุ่ม ที่จะมีการเปิดให้ผู้นำเข้าทั้งในและนอกประเทศเข้าร่วมพบกับผู้ผลิต สหกรณ์ และชุมนุมเกษตรกรตัวจริงโดยตรง ซึ่งจะสามารถตัดทอนราคาคนกลางได้ไม่น้อยกว่า 30% ประกอบกับปีนี้ผลผลิตลำไยมีน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เพียง 4 แสนตัน จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะมี 6 แสนตัน ทำให้จีน ซึ่งเป็นตลาดสำคัญในทุกปีที่ผ่านมา ได้มีโอกาสซื้อลำไยที่เป็นผลไม้มงคลได้บริโภคในราคาไม่สูงเกินไป