ภายหลังการควบรวมกิจการ บริษัทจะเปลี่ยนชื่อเป็น โกอินดัสตรี-โดฟบิด และมีฐานการดำเนินงานใน  22 ประเทศ ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกอันได้แก่ ประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์  ฮ่องกง จีน ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น อินเดีย และออสเตรเลีย โดยการควบรวมกิจการจะช่วยส่งแนวโน้มให้รายได้ของ โกอินดัสตรี-โดฟบิด ในปี 2551 เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และจะเพิ่มความได้เปรียบจากลูกค้าโดยใช้ฐานข้อมูลของบริษัทฯ ที่มีอยู่ทั่วโลก

มร.จอห์น ออลบรู๊ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูง บริษัท โกอินดัสตรี-โดฟบิด กล่าวว่า "การควบรวมกิจการในครั้งนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงก้าวสำคัญของโกอินดัสตรี-โดฟบิดซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ ก้าวขึ้นป็นผู้นำของตลาดทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเซียแปซิฟิก โดยเมื่อควบรวมเป็นหนึ่งเดียว เราจะเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แข็งแกร่งขึ้น และมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการให้บริการเพื่อช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น"

"การเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรมในเอเซียจะช่วยเพิ่มความได้เปรียบของ โกอินดัสตรโดฟบิด" มร. เอเรรียนแปง ผู้บริหารระดับสูง บริษัท โกอินดัสตรี – โดฟบิด เอซีย แปซิฟิกกล่าว" การมีสาขาในแต่ละประเทศทที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และฐารข้อมูลที่ผู้ซื้อและผู้ขายที่มากที่สุดในโลก จะช่วยเพิ่มศักยภาพของ โกอินดัสตรี-โดฟบิด ในการท่ายเทสินทรัพย์ที่ขายทอดผ่านการประมูลสู่แต่และประเทศในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก และจากตะวันตกมาสู่ตะวันออกได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

แผนการในอนาคตของ โกอินดัสตรี-โดฟบิด ยังรวมถึงการพลักดันให้การประมูลสินค้าเครื่องจักรอุตสาหกรรมแบบออนไลน์ของประเทศไทยไปอีกระดับ โดยในเรื่องนี้ มร.เร็ตต์ ชมิดท์ ผู้จัดการประสานงาน บริษัท โกอินดัสตรี-โดฟบิค ประเทศไทย กล่าวว่า การขยายตัวด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร (ICT) รวมถึงโครงการตลาดกลางพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์ของรัฐบาล  (E-procurement) ได้ส่งผลให้ตลาดการประมูลเครื่องจักรอุตสาหกรรมออนไลน์ของ บริษัทฯ ขยายตัวขึ้นด้วย โดยเมื่อปี 2550 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีมูลค่าสินทรัพย์ที่ผ่านเข้ามาในระบบสูงถึง 416 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าปี 2549 มากกว่าเท่าตัว โดยสัดส่วนการขายทรัพย์สิน ในประเทศต่อต่างประเทศอยู่ที่อัตรา 8:2

ในปีนี้ โกอินดัสตรี-โดฟบิด ยังวางหมายที่จะโปรโมทแบรนด์ และการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยให้มากขึ้นทั้งนี้ บริษัทจะนำเสนอเซ็บไซต์ใหท่ จะเป็นฐานสนับสนุนธุรกิจการประมูลเครื่องจักรอุตสาหกรรมมือสองระดับโลกที่มีประสิทธิภาพและโปร่งใส บริษัทฯ ได้ทำการปรับปรุงพัฒนาเซ็บไซต์ทั้งในด้านฟั่งก์ชั่น ความง่ายในการใช้งานและภาษาที่หลากหลาย

นอกจากนี้ การควบรวมของ โกอินดัสตรี-โดฟบิด จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งทางการบริหารด้วย โดย มร. เร็ตต์  ชมิดท์  จะรับผิดชอบด้านการขายที่กว้างขึ้นในทั่วทั้งภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก ในขณะที่คุณศุภนิจ  จัยวัฒน์  จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทโกอินดัสตรี-โดฟบิด

คุณศุภนิจ เป็นผู้ที่มีประสบการที่กว้างขวางด้านการประมูลและการประเมินราคาสินทรัพย์อุตสาหกรรม โดยคุณศุภนิจเป็นผู้บริหารจัดการบริษัท โดฟบิด ประเทศไทย (จดทะเบียนภายในชื่อบริษัท วิคเตอ มอร์ริส จำกัด) มามากว่า 10 ปี นอกจากนี้ ยังดำรงตำแหน่งกรรมการสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย

ลูกค้าของ โกอินดัสตรี – โดฟบิด ในปัจจุบันประกอบไปด้วยบริษัทชั้นนำระดับนานาชาติ และระดับประเทศ อาทิ โตชิบ้า คาลเท็กซ์ เป๊ปซี่ เนสท์เล่ อัลคาเทค การบินไทย และธนาคารแห่งประเทศไทย