เนื้อหาวันที่ : 2008-04-01 15:08:58 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 3253 views

ดิจิตอลคอม กับอนาคต Network Video Surveillance ภายใต้แบรนด์ AXIS

สินค้าเน้นความสำคัญที่การออกแบบ คุณภาพเชื่อถือได้ ส่วนของแนวลึกมองตลาดทรานสปอร์เตชั่น เข้างานโครงการใหญ่ ๆ โดยสินค้าจะมีราคาสูง เมื่อเทียบกับสินค้าจากประเทศไต้หวันหรือจีน แต่คุณภาพแน่นอนกว่า

                          

.

มร.โอที ลี

ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

บริษัท เอ็กซิส คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด

.

ความเป็นมาของ AXIS

บริษัท เอ็กซิส คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 1984 โดยวิศวกรชาวสวีเดนสองท่าน ที่มีความสามารถในเรื่องเน็ตเวิร์ก แต่หลังจากพัฒนาและทำกล้องออกมาจำหน่าย เกิดประสบความสำเร็จอย่างมาก จึงบรรจุกล้องเป็นสินค้าหลักของบริษัทเพื่อตอบสนองตลาด Network Video ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดยปัจจุบัน มีบริษัท ดิจิตอลคอม จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Axis แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย และจำหน่ายมานานกว่า 11 ปี

.

มร.โอที ลี กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์แบรนด์ Axis ในประเทศไทยเหมือนกับตลาดทั่วโลก เนื่องจากสินค้าถูกออกแบบมาเพื่อภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม สำหรับตลาดทั่วไปในเมืองไทย ผลิตภัณฑ์ของ Axis จะอยู่ระดับกลางถึงระดับไฮเอนด์ เพราะสินค้าเน้นความสำคัญที่การออกแบบ คุณภาพเชื่อถือได้ ส่วนของแนวลึกมองตลาดทรานสปอร์เตชั่น เข้างานโครงการใหญ่ ๆ โดยสินค้าจะมีราคาสูง เมื่อเทียบกับสินค้าจากประเทศไต้หวันหรือจีน แต่คุณภาพแน่นอนกว่า

.

ก้าวสู่อันดับหนึ่งด้วยคุณภาพ

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของ Axis เป็นอันดับหนึ่งของโลกในตลาด Network Video Solutions มีสินค้าออกใหม่มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของยอดขาย และมีการติดตั้งใช้งานจริงทั่วโลกกว่า 1,000,000 จุด จากการเริ่มต้นในธุรกิจ Network Camera ในปี 1996

.

เหตุผลสำคัญที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ Axis ก้าวสู่อันดับหนึ่งได้ มร.โอที ลี เผยว่า มีหลายปัจจัย ประการแรกคือ ที่มาของบริษัท เนื่องจากเราเป็นบริษัทสวีเดน ที่มุ่งเน้นทางด้านวิศวกรรม การผลิตสินค้าต้องมีมาตรฐานทางวิศวกรรมรองรับ และมีความแน่นอนในเรื่องของคุณลักษณะของสินค้า บอกร้อยได้ร้อย 

.

ประการที่สองคือ เรามุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนา ทำให้สินค้ามีคุณภาพสูง อย่างกล้องวงจรปิดของ Axis จะมีคุณภาพคมชัดมากเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ เป็นรายแรก ๆ ที่นำเสนอเรื่องโปรเกรสซีพสแกน (Progressive Scan) เพื่อความคมชัด

.

ประการที่สามคือ เปิดโอกาสให้กับพันธมิตรทางธุรกิจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ดูแลตัวแทนขายสินค้าอย่างดี เน้นการสร้างตัวแทน ไม่ขายตรง อีกทั้งยังมีการจัดหลักสูตร Axis Expert ผ่าน Axis Academy เพื่อสร้างทีมงานผู้เชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีผู้ผ่านการอบรมไปแล้วกว่า 3,000 รายภายในสองปีที่ผ่านมา ทำให้ Axis เป็นเบอร์หนึ่งได้ทุกวันนี้ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์แบรนด์อื่น ๆ ที่เขาไม่เปิด ก็จะไม่โต วิธีการนี้ก็จะส่งผลให้ผู้ขาย ผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งสามารถเติบโตตามกันไปได้อย่างยั่งยืน

 

.

 

อนาคตของ Network Video Surveillance

จากภาวะความไม่สงบที่เกิดขึ้นทั่วโลก แม้แต่ในประเทศไทยก็ตาม ทำให้อุตสาหกรรมของกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัยมีบทบาทมากขึ้น และสร้างเม็ดเงินมหาศาลในอนาคต มร.โอที ลี เปิดเผยว่า ปัจจุบันมูลค่าตลาดของกล้องวงจรปิดทั่วโลก แบ่งเป็นกล้องอะนาลอก 5,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ฯ และกล้องดิจิตอล มูลค่า 300 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ฯ สำหรับเมืองไทยน่าจะอยู่ราว 3,000 ล้านบาทและน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในห้าปีข้างหน้า

.

โดยมีกลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ธนาคาร การขนส่ง โรงงานอุตสาหกรรม ธุรกิจค้าปลีก ภาครัฐ และภาคการศึกษา ซึ่งต้องการใช้งานในวัตถุประสงค์หลักคือ เพิ่มความปลอดภัย ตรวจตราความผิดปกติ และตรวจจับคนร้ายได้รวดเร็วเมื่อเกิดเหตุการณ์

 

.

 

ในด้านของเทคโนโลยีของกล้อง นับว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนถ่ายจากระบบอนาลอก ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งราคาถูก เหมาะกับบริเวณที่จำกัด มาเป็นระบบดิจิตอล ซึ่งกล้องจะผนวกเอาหน่วยความจำไว้ที่ตัวกล้อง พร้อมกับระบบสื่อสารแบบเน็ตเวิร์ก กล้องมีความคมชัดระดับ Mega Pixel ทำให้สามารถเห็นรายละเอียดของสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจน พร้อมด้วยระบบโปรเกรสซีพสแกน ที่ให้ความละเอียดสูงทำให้มองเห็นหน้าคน ป้ายทะเบียนรถได้ชัดแม้ขณะเคลื่อนที่ และในอนาคตกล้องแบบเก่าก็จะค่อย ๆ หมดไปจากตลาด และกล้องดิจิตอลจะโตอย่างรวดเร็ว

.

                                 

คุณสุวิทย์ จิตเกษมสุข

กรรมการผู้จัดการ

บริษัท ดิจิตอลคอม จำกัด

.

คุณสุวิทย์ จิตเกษมสุข กรรมการผู้จัดการบริษัท ดิจิตอลคอม จำกัด ในฐานะตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Axis กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันกล้องวงจรปิดกลายเป็นสินค้าไอทีไปแล้ว เพราะมีการใส่เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้าไปที่ตัวกล้อง อย่างบางรุ่นมีหน่วยความจำ บางรุ่นมีความฉลาดมากขึ้น ตรวจจับใบหน้าได้ และมีความคมชัดระดับล้านพิกเซล อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อแบบมีสาย ไร้สายได้ด้วย ทำให้สะดวกต่อการติดตั้งใช้งานมากขึ้น

.

ดังนั้น คำแนะนำในการเลือกซื้อกล้องวงจรปิด ณ วันนี้ ต้องเลือกใช้แบบดิจิตอลเท่านั้น และดูเรื่องบริการหลังการขายด้วยว่าดีหรือไม่ อย่างของ Axis ให้บริการหลังการขายถึงสามปีเต็ม ทำให้ลูกค้าวางใจได้ และที่สำคัญก่อนเลือกซื้อต้องดูให้ดีว่า ระบบกล้องเป็นแบบดิจิตอลอย่างแท้จริง เพราะมีการเอากล้องอะนาลอกมาสวมรอยค่อนข้างมาก ซึ่งคุณภาพจะไม่สามารถเทียบเท่าแบบดิจิตอลได้ และค่าบำรุงรักษาอาจจะสูงกว่า หลังจากใช้งานไปสักระยะ และไม่สามารถขยายเครือข่ายกล้องได้อย่างอิสระเท่ากับแบบดิจิตอล

 

.

ตัวอย่างประเทศที่เจริญแล้วหรือมีปัญหาด้านความสงบค่อนข้างมา พบว่ามีการติดตั้งกล้องจำนวนมาก เช่น ประเทศอังกฤษ ที่ลอนดอนมีการติดมากกว่า 10,000 ตัว ส่วนที่รัสเซีย มีกว่า 90,000 ตัว  ในขณะที่ กรุงเทพมีแค่หลักพันตัว ปัจจัยอยู่ที่ระดับรักษาความปลอดภัยว่าของประเทศไหนสูงกว่ากัน และพื้นฐานความเข้าใจในเทคโนโลยี ปัจจุบัน Axis รักษาการเติบโตที่ประมาณ 40% ทุกปี ต่อเนื่อง 5 ปี จนถึงปี 2010

.

ส่วนโครงการใหญ่ของไทยในขณะนี้ ที่ใช้กล้องของ Axis ประกอบด้วย สุวรรณภูมิ คาร์โก ฟรีโซน มีร้อยกว่าตัว ในเขตเมือง ในกรุงเทพ มีป้ายจราจรอัจฉริยะ ที่ติดตั้งกล้องประเมินจราจร จากนั้นส่งกลับมาดิสเพลย์ แล้วมีกล้องอีกตัวเพื่อตรวจสอบว่ากล้องเสียหรือเปล่า อีกโครงการคือ เทศบาลหาดใหญ่ ผ่านพาร์ทเนอร์ ใช้หลากหลาย มอนิเตอร์จราจร และการจัดระเบียบ คนทำผิด การป้อมปราม และที่ทางดิจิตอลคอมภูมิใจคือ โครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน ทั้ง 18 สถานี ทางผ่านเข้าตัวสถานีจะเป็นกล้องของ Axis ติดตั้งโดยดิจิตอลคอม พร้อมได้งานศูนย์ซ่อมบำรุง Depot ซึ่งค่อนข้างมีความปลอดภัยสูง

.

แนวโน้มรายได้ที่เดิมมาจากตัวกล้อง นับจากนี้ไป จะเริ่มเปลี่ยนมาเป็นบริการหลังการขาย และการบำรุงรักษา จะเป็นรายได้สำคัญ เพราะแนวโน้มราคาตัวกล้องจะลดลง อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีที่ดีขึ้น ทาง Axis มีแผนออกสินค้าใหม่สม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มฟีเจอร์มากขึ้น รองรับความต้องการของลูกค้าที่มีความต้องการหลากหลายขึ้น