เนื้อหาวันที่ : 2008-04-01 11:48:45 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1430 views

USTR อ้างไทยกีดกันการค้า-ลงทุน เชื่อคอรัปชั่นไม่มีวันหมด

สำนักงานตัวแทนการค้าสหรัฐฯ ระบุไทยมีข้อจำกัดอยู่มากเรื่องการลงทุนด้านโทรคมนาคม ขณะที่ภาคการเงิน แม้จะยอมให้ต่างชาติลงทุนในธนาคารพาณิชย์ได้มากกว่า 49% แต่ก็ยังจำกัดการขยายสาขา จำกัดการถือเงินบาทในครอบครองต้องไม่เกินกว่า 125 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สำนักงานตัวแทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) นำเสนอรายงานการประเมินปัญหาและอุปสรรคทางการค้าของประเทศคู่ค้าสหรัฐฯประจำปี 51 ต่อสภาคองเกรสและประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้ลงนามเห็นชอบแล้ว โดยในรายงานส่วนที่ระบุถึงประเทศไทยนั้น ระบุว่าสหรัฐฯ กำลังติดตามพัฒนาการทางการเมืองของไทยหลังการจัดตั้งรัฐบาลเมื่อเดือนก.พ.51 เพื่อใช้เป็นก้าวต่อไปในการสานสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน

.

นอกจากนี้ USTR ยังได้รายงานถึงนโยบายของไทยที่เป็นอุปสรรคทางการค้า เช่น นโยบายการนำเข้าที่รัฐบาลไทยเน้นปกป้องผู้ประกอบการในประเทศ ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูง ซึ่งเป็นการปิดกั้นการเข้าสู่ตลาดของสินค้าสหรัฐฯ ในไทย, นโยบายการจัดซื้อโดยรัฐที่ขาดความโปร่งใส, การป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่ขาดประสิทธิภาพไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง          

.

ส่วนภาคบริการนั้นในรายงานของ UTR ระบุว่าไทยยังมีข้อจำกัดอยู่มากในเรื่องของการลงทุนด้านโทรคมนาคม ขณะที่ภาคการเงิน แม้จะยอมให้ต่างชาติลงทุนในธนาคารพาณิชย์ได้มากกว่า 49% แต่ก็ยังจำกัดการขยายสาขา จำกัดการถือเงินบาทในครอบครองต้องไม่เกินกว่า 125 ล้านบาท

.

ทั้งนี้ แม้รัฐบาลไทยได้พยายามแก้ไขปัญหาการคอรัปชั่นในประเทศ โดยกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญปี 50 แต่สหรัฐฯ เชื่อว่าการขาดความโปร่งใสในการบริหารประเทศจะทำให้ปัญหาการคอรัปชั่นไม่หมดไปอย่างแน่นอน

.

ปัจจุบันไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 27 ของสหรัฐฯ โดยในปี 50 สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าจากไทยสูงถึง 14,300 ล้านเหรียญสหรัฐ เท่ากับปี 49 โดยสหรัฐฯ นำเข้าสินค้าจากไทย 22,800 ล้านเหรียญ แต่ส่งออกมาไทยเพียง 8,400 ล้านเหรียญเท่านั้น