เนื้อหาวันที่ : 2008-03-24 12:46:33 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1486 views

หมอเลี้ยบ จี้แก้รธน.ก่อนกลางปีเร่งฟื้นเชื่อมั่นนักลงทุนรับมือศก.สหรัฐ

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญควรจะดำเนินการก่อนกลางปีนี้ เพื่อเร่งเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนให้กลับคืนมาโดยเร็ว เพราะมีการคาดการณ์กันว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะส่งผลกระทบรุนแรงภายในกลางปีนี้

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญควรจะดำเนินการก่อนกลางปีนี้ เพื่อเร่งเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนให้กลับคืนมาโดยเร็ว เพราะมีการคาดการณ์กันว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะส่งผลกระทบรุนแรงภายในกลางปีนี้

.

นพ.สุรพงษ์  กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาการเมืองกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ จึงไม่ใช่เวลาที่จะมารีรอ เพราะหากยิ่งช้าไปก็จะยิ่งสร้างปัญหา จึงต้องเร่งดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เร็วที่สุดเพื่อไม่ให้กระทบกับเศรษฐกิจมากไปกว่านี้ ซึ่งหากสามารถแก้ไขได้ก่อนกลางปี เชื่อว่าจะช่วยรองรับปัญหาได้ ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะเปิดให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งนักการเมือง นักวิชาการ และประชาขน

"6 สัปดาหที่รัฐเข้ามาทำงาน ความเชื่อมั่นเริ่มกลับคืนมาแล้ว แต่หากมีปัญหามากระทบอีกก็กลายเป็นปัจจัยที่คนให้ความเป็นห่วง โดยเฉพาะในเรื่องการเมือง ซึ่งหวังว่าการเมืองจะไม่ขยายวงกว้างไปกระทบความเชื่อมั่น" นพ.สุรพงษ์ กล่าว

.

รมว.คลัง กล่าวว่า การเร่งตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในขณะนี้ มีสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพราะประชาชนนำเงินออกมาใช้จ่ายมาก ดังนั้นรัฐบาลจึงยังจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อฟื้นการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งจะมีผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม

.

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตัวเลขการนำเข้าและการส่งออกล่าสุดในเดือน ก.พ.ซึ่งมีการขาดดุลต่อเนื่องจะเห็นได้ว่ามาจากการนำเข้าสินค้าทุนมากขึ้น เป็นสัญญาณว่าการลงทุนเริ่มขยายตัวแล้ว รัฐบาลจึงไม่ต้องการให้มีเเรื่องอื่นมากระทบกับเศรษฐกิจ โดยพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการสร้างความเชื่อมั่นและฟื้นการลงทุน แต่รัฐบาลทำเองไม่ได้ทั้งหมด ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกส่วน

.

นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับการสร้างความเชื่อมั่นในสายตาชาวต่างชาตินั้น ก็จะมีการเดินหน้าโรดโชว์เพื่อให้ข้อมูลนักลงทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนั้นกระทรวงการคลังจะเซ็นสัญญากู้เงินจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น(เจบิค)ในปลายเดือน มี.ค.นี้ ถือเป็นเรื่องหนึ่งที่จะสร้างความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลยังคงยืนยันเดินหน้าโครงกากร่อสร้างรถไฟฟ้าอย่างแน่นอน