ปตท. สามารถประกาศข่าวดีลดราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลงให้แก่ผู้บริโภคได้ 50 สตางค์ต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (22 มี.ค. 51) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป
|
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกอยู่ในทิศทางสูงต่อเนื่อง ซึ่ง ปตท. ได้ทำหน้าที่ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติ โดยพยายามชะลอการปรับขึ้นราคาและปรับขึ้นเป็นรายหลังสุด ส่งผลให้ ปตท. แบกรักภาระที่เพิ่มขึ้นแทนผู้บริโภคในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท นั้น |
| . |
|
ล่าสุดในช่วง 2 — 3 วันที่ผ่านมาราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลดลงมาบ้าง ล่าสุดวันนี้ (21 มี.ค. 51) น้ำมันดิบดูไบ ลงมาอยู่ที่ระดับ 94 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และสำเร็จรูปเบนซิน 95 ลงมาอยู่ที่ระดับ 104.26 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งมีปัจจัยจากแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ และนักลงทุนมีการเทขายทำกำไรในตลาดซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า และปริมาณสำรองน้ำมันดิบและเบนซินของสหรัฐฯ อยู่ในระดับสูง อีกทั้งโรงกลั่น Cilacap ของอินโดนีเชียกลับมาดำเนินการได้หลังปิดฉุกเฉินชั่วคราว |
| . |
|
ด้วยเหตุนี้ราคาน้ำมันตลาดโลกจึงได้อ่อนตัวลง ทำให้ ปตท. สามารถประกาศข่าวดีลดราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลงให้แก่ผู้บริโภคได้ 50 สตางค์ต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (22 มี.ค. 51) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขตกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล เป็นดังนี้ |
| . |
|
หน่วย : บาท/ลิตร
|
| . |
|
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับในส่วนของน้ำมันดีเซลนั้น ยังไม่สามารถปรับลดราคาขายปลีกลงได้เนื่องจาก ปตท. ยังคงรับภาระขาดทุนอยู่ แต่อย่างไรก็ดีราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลของ ปตท. ยังมีราคาถูกกว่าของผู้ค้าน้ำมันรายอื่นถึง 50 สตางค์/ลิตร อนึ่งราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงผันผวนตามปัจจัยรอบโลก อาทิ สภาพเศรษฐกิจและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง |
| . |
|
รวมทั้งสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศผู้ผลิตน้ำมันยังคงยืดเยื้อ ดังนั้นจึงขอให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้พลังงานและประหยัดพลังงานอย่างจริงจังต่อไป เพราะประเทศไทยยังต้องนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศเป็นหลัก// จบข่าว |
Thailandindustrycom_official
