เนื้อหาวันที่ : 2008-03-12 09:47:54 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1376 views

ถิรไทย ออเดอร์ทะลักกว่า 1,900 ล้านบาท เร่งผลิตหม้อแปลงส่งออกเพิ่ม

ถิรไทย หวังก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ของประเทศอย่างครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง มีความสามารถหลากหลาย และเป็นที่ยอมรับในระดับชาติ และระดับสากล

.

ถิรไทย หรือ TRT ปี 51 พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ของประเทศ หลังมียอดรับคำสั่งซื้อจากรายใหญ่ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 51 ที่จะส่งมอบงานในปี 51 แล้วกว่า 1,900 ล้านบาท หวังเป้ารายได้ปีนี้รวมกว่า 2,300 ล้านบาท โดยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 18 % จากมูลค่าตลาดรวมหม้อแปลงไฟฟ้าในประเทศ ประมาณ 7,310 ล้านบาท พร้อมขยับส่งออกเพิ่มเป็น 40 % จาก 35 % ในปีที่ผ่านมา

.

นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้ผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดเล็กไปถึงขนาดใหญ่ เปิดเผยว่าในปี 2551 บริษัทฯ สามารถก้าวเป็นผู้นำตลาดหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังของประเทศได้โดยเป็นบริษัทคนไทยเพียงแห่งเดียว ซึ่งบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดในประเทศประมาณ 18 % จากมูลค่าตลาดรวมหม้อแปลงไฟฟ้ากว่า 7,310 ล้านบาท และเพิ่มการส่งออกจาก 35 % เป็น 40 % และคาดว่าบริษัทจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้า แห่งภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ในอนาคตอันใกล้

.

สำหรับทิศทางธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2551 นั้น บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายรายได้รวมกว่า 2,300 ล้านบาท โดยแยกตามประเภทลูกค้าหน่วยงานราชการ 800 ล้านบาท หน่วยงานเอกชน 550 ล้านบาท และส่งออก 950 ล้านบาท และตามประเภทสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังมีมูลค่า 1,450 ล้านบาท และหม้อแปลงไฟฟ้าจำหน่าย 850 ล้านบาท

.

"และ ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 บริษัทฯ มียอดรับคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่ สำหรับส่งมอบงานในปี 2551 นี้แล้วรวมมูลค่างานกว่า 1,900 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น การไฟฟ้านครหลวง 240 ล้านบาท, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 239 ล้านบาท, SPPMB 135 ล้านบาท, HITECH 148 ล้านบาท, SIMENS 117 ล้านบาท, SAMSUNG 150 ล้านบาท" นายสัมพันธ์กล่าว

.

สำหรับมูลค่าตลาดรวมหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายในประเทศปี 2551 คาดว่ามีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 5,010 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 12 % โดยแบ่งเป็น กฟน.1,600 ล้านบาท บริษัทฯ มีมูลค่างาน 220 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14 % และ กฟภ. 1,500 ล้านบาท บริษัทฯ มีมูลค่างาน 150 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10 % และ กฟผ. 10 ล้านบาท บริษัทฯ มีมูลค่างาน 5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50 % และภาคเอกชน 1,500 ล้านบาท บริษัทฯ มีมูลค่างาน 50 ล้านบาท หรือ 3 % และภาคเอกชนในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าตลาดรวม 400 ล้านบาท บริษัทฯ มีส่วนแบ่งมูลค่างาน 190 ล้านบาท หรือ 48 %

.

นายสัมพันธ์กล่าวต่อว่า "โครงสร้างรายได้ของบริษัทฯ ในปีนี้ จะแบ่งเป็นจำหน่ายในประเทศ 60 % และส่งออก 40 % โดยแบ่งเป็นหน่วยงานราชการ 35 % และหน่วยงานภาคเอกชน 25 %  โดยมีรายได้จากหม้อแปลงไฟฟ้ากำลัง 62 % เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอยู่ 45 % และรายได้จากหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่าย 35 % และอื่น ๆ อีก 3 % ทั้งนี้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังนั้นเนื่องจากมีคู่แข่งน้อยราย และถิรไทยเป็นเพียงบริษัทฯ คนไทยเพียงแห่งเดียวที่สามารถผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังได้

.

"ในปีนี้บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้ประกอบการที่ให้บริการด้านหม้อแปลงไฟฟ้าอย่างครบวงจร สามารถผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าได้ครบถ้วนทุกขนาด และสามารถออกแบบหม้อแปลงไฟฟ้าพิเศษ รวมถึงบริการซ่อมบำรุง ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง มีความสามารถหลากหลาย และเป็นที่ยอมรับในระดับชาติ และระดับสากล ทั้งยังมีศักยภาพและขีดความสามารถในการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังเพื่อรองรับการขยายตัวของความต้องการพลังงานไฟฟ้าของประเทศและภูมิภาคเอเชียได้ทุกระดับ รวมทั้งสามารถผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าพิเศษ เช่น หม้อแปลงสำหรับระบบรถไฟฟ้า" นายสัมพันธ์กล่าวปิดท้าย