เนื้อหาวันที่ : 2008-03-10 16:48:04 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 774 views

ค่ายรถรายใหญ่พร้อมใจร่วมงานซับคอนไทยแลนด์

บีโอไอ เผยค่ายรถยนต์รายใหญ่ของโลก พร้อมใจเข้าร่วมงาน ซับคอนไทยแลนด์ 2008 มั่นใจขยายโอกาสจับคู่ผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย เกิดมูลค่าซื้อขายกว่า 2,000 ล้านบาท

.

นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงความคืบหน้า การจัดงาน ซับคอนไทยแลนด์ 2008 ว่า ขณะนี้มีบริษัทผู้ซื้อชิ้นส่วนทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทรถยนต์รายใหญ่ เช่น บีเอ็มดับบลิว (ประเทศไทย) จำกัด เมอร์ซิเดสเบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด อีซูซุมอเตอร์- (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น

.

ในขณะที่มีผู้ผลิตชิ้นส่วนรายย่อย เช่น กลุ่มคลัสเตอร์แม่พิมพ์ กลุ่มสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย และกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนรายใหญ่ เช่น ซัมมิทออโต้บอดี้ ฟูจิเอเชีย ต้าถุงซิงเกิ้ล-พอยท์พาร์ท เป็นต้นยืนยันที่จะเข้าร่วมงานจัดบูธเพื่อแสดงศักยภาพการผลิตชิ้นส่วนในงานดังกล่าว แล้วจำนวน 225 บูธ

.

"คาดว่างานครั้งนี้ จะสร้างโอกาสให้เกิดการเชื่อมโยงให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยได้เจรจาธุรกิจกับบริษัทผู้ซื้อชั้นนำ และมีการซื้อขายชิ้นส่วนกันในอนาคตไม่ต่ำกว่า 1,500 คู่ธุรกิจ เกิดมูลค่าการซื้อขายชิ้นส่วนกว่า 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ผู้ผลิตรายใหญ่จากต่างประเทศขยายการลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย" นายสาธิต กล่าว

.

นายชนินทร์ ขาวจันทร์ หัวหน้าหน่วยพัฒนาการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม (BUILD: BOI Unit for Industrial Linkage Development) กล่าวว่า ขณะนี้งาน ซับคอนไทยแลนด์ 2008 ได้รับการตอบรับเข้าร่วมงานเป็นอย่างดีจากผู้ผลิตรายใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย เช่น กลุ่มการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ที่มุ่งเน้นการผลิตเพื่อป้อนให้กับโครงการผลิตรถยนต์ประหยัด-พลังงานมาตรฐานสากล (อีโคคาร์) โดยเฉพาะภายหลังจากกลุ่มทาทากรุ๊ป บริษัทผลิตรถยนต์ขนาดเล็กรายใหญ่ของอินเดีย มีความชัดเจนเตรียมให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานในแถบภูมิภาคเอเชีย

.

สำหรับงาน ซับคอนไทยแลนด์ 2008 หรืองาน แสดงนิทรรศการอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิต จะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 14 -17 พฤษภาคม 2551 ที่ ไบเทคบางนา โดยเป็นการจัดงานครั้งที่ 2 หลังจากที่การจัดงานเมื่อปี 2550 ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายโดยมีการจับคู่เจรจาธุรกิจในงาน มากกว่า 1,026 คู่ คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายที่เกิดขึ้นมากกว่า 1,209 ล้านบาท