เนื้อหาวันที่ : 2006-08-07 09:14:19 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1759 views

แอลพีเอ็น เพลทมิล เผยยอดส่งออกเหล็กแผ่นรีดร้อนเกรดพิเศษทะลุเป้า

บริษัท แอลพีเอ็น เพลทมิล จำกัด (มหาชน) เผยการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนส่งออกต่างประเทศโดยไตรมาสที่ 1-2 ของปี 2549 มียอดการส่งออกต่างประเทศสูงกว่าที่คาดกาณ์ไว้ร้อยละ 40

บริษัท แอลพีเอ็น เพลทมิล จำกัด (มหาชน) เผยความคืนหน้าการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนเพื่อส่งออกต่างประเทศภายหลังแถลงเป้าหมายการเป็นผู้นำในตลาดเหล็กเกรดพิเศษ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยไตรมาสที่ 1-2 ของปี 2549 มียอดการส่งออกต่างประเทศสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ร้อยละ 40ขานรับปัจจัยราคาเหล็กในตลาด พร้อมโชว์ศักยภาพกลางเดือนหน้า

.

นายพิพัฒน์ ปรีดาวิภาด ประธานกรรมการบริษัท กล่าวถึงปรากฎการณ์ควบรวบกิจการของบริษัทในอุตสาหกรรมเหล็กทั้งในและต่างประเทศว่าเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะภายใต้สถานการณ์ในการเปิดตลาดเสรี สำหรับผู้ประกอบการไทยจะช่วยให้การบริหารจัดการต้นทุนจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นซึ่งในขณะนี้บริษัทยังไม่ได้พิจารณาแนวทางควบรวมกิจการ  เนื่องจากบริษัทให้ความสำคัญกับนโยบายทางการตลาดอย่างสูง หลังจากที่แถลงนโยบายการรุกตลาดเหล็กแผ่นรีดร้อนเกรดคุณภาพสูงและเพิ่มยอดการส่งออกต่างประเทศไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ได้รับการติดต่อจากลูกค้าใหม่หลายราย จึงค่อนข้างมั่นใจว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้มียอดการจำหน่ายเติบโตขึ้นในอัตราสูงโดยเฉพาะจากลูกค้าในต่างประเทศ ทำให้มั่นใจได้ว่าในปีนี้ จะสามารถส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศได้มากกว่าเป้าที่ได้มีการคาดการณ์เอาไว้ในช่วงต้นปี จำนวน 5000 ตันอย่างแน่นอน

.

จากปี 2548 ซึ่งยังไม่มียอดการส่งออกไปยังต่างประเทศแต่เมื่อปรับนโยบายการตลาดมาเน้นเหล็กเกรดพิเศษซึ่งมีมาร์จินสูงพบว่ามีลูกค้าต่างประเทศสนใจและสั่งซื้อเหล็กเกรดพิเศษ สะท้อนให้เห็นว่าตลาดยังมีความต้องการ และเราก็ชูนโยบายว่าสินค้าเราสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดี โดยแอลพีเอ็น เพลทมิล เป็นบริษัทในอุตสาหกรรมเหล็กรายแรกของประเทศที่หันมารุกตลาดเหล็กคุณภาพสูง สำหรับปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบต่อการทำตลาดในไตรมาสที่ 3-4 ของปีนี้ คาดว่าเป็นเรื่องของราคาเหล็กซึ่งมีน่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และส่งผลดีต่อทั้งภาพอุตสาหกรรมเหล็กโดยรวม

.

ส่วนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ในประเทศนอกจากโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ ซึ่งได้มีการลงนามกับบริษัท ช.การช่าง เมื่อปี 2548 ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างใกล้เสร็จแล้ว ล่าสุดบริษัทยังได้ลงนามสัญญาผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนจำนวนกว่า 4,5000 ตัน มูลค่าทั้งสิ้น 2,600,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ให้กับบริษัท เอส เค เอนจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น บริษัทก่อสร้างยักษใหญ่สัญชาติเกาหลีซึ่งรับสัมปทานก่อสร้างโรงงานผลิตสารเคมีประเภทไฮโดรคาร์บอน ให้กับบริษัทไทยอะโรเมติกส์ โดยกำหนดการส่งเหล็กแผ่นรีดร้อนครั้งแรกราวต้นเดือนกรกฎาคม จำนวน 1,200 ตัน และจะทยอยส่งเหล็กทั้งหมดภายในสิ้นเดือนสิงหาคม