เนื้อหาวันที่ : 2008-03-04 09:49:45 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1169 views

GASTECH 2008 เสริมสร้างศักยภาพของประเทศในการเป็นศูนย์กลางด้านพลังงาน

งานประชุมวิชาการและนิทรรศการเกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติเหลว ก๊าซปิโตรเลียมเหลว และก๊าซธรรมชาติ ที่ใหญ่ที่สุดของโลก โอกาสสำคัญที่ประเทศไทยจะได้แสดงศักยภาพอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติในภูมิภาคสู่เวทีโลก

.

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) พลโท หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน GASTECH 2008 ซึ่งกำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 10 – 13 มีนาคม 2551 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) กรุงเทพ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดการประชุมทางวิชาการและนิทรรศการในวันที่ 10 มีนาคม 2551

 .

พลโท หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ ประเทศไทย โดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน GASTECH 2008 หรือ งานประชุมวิชาการและนิทรรศการเกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติเหลว ก๊าซปิโตรเลียมเหลว และก๊าซธรรมชาติ ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยจะได้แสดงศักยภาพการพัฒนาอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติที่โดดเด่นในภูมิภาคเพื่อก้าวสู่เวทีโลก

 .

ทั้งในด้านศักยภาพความพร้อมในการที่จะเป็นหนึ่งในผู้นำในด้านการสำรวจและผลิต จัดหา และการค้าก๊าซธรรมชาติในภูมิภาค ศักยภาพความพร้อมทั้งในด้านการมีโครงสร้างพื้นฐานของระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ โรงแยกก๊าซธรรมชาติ การบริหารจัดการด้านพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และความได้เปรียบในด้านภูมิศาสตร์ของประเทศที่ตั้งอยู่แวดล้อมด้วยกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพในการจัดหาและมีปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มประเทศที่มีการใช้ก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก

 .
นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสอันดีที่จะขยายผลสู่ความร่วมมือทางธุรกิจและการลงทุนด้านพลังงาน เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน เนื่องจากในงาน GASTECH 2008 จะมีผู้นำและบุคคลสำคัญในอุตสาหกรรมพลังงานของโลก ทั้งระดับรัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทน้ำมันแห่งชาติและบริษัทน้ำมันข้ามชาติเข้าร่วมงานจำนวนมาก
 .

กล่าวได้ว่างาน GASTECH 2008 ในครั้งนี้ จึงมิใช่เป็นเพียงเวทีในการจัดประชุมและนิทรรศการเกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีในการนำอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติไทยสู่สากล และยังเป็นโอกาสสำคัญที่จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ และความพร้อมของ ปตท. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านพลังงาน และความพร้อมของประเทศไทยที่จะก้าวสู่เวทีโลก ซึ่งนอกจากจะส่งผลดีต่อการพัฒนา และการลงทุนทั้งอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติและอุตสาหกรรมปิโตรเคมีรวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ แล้ว ยังส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วยอีกด้วย

 .
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงรายละเอียดภายในงาน GASTECH 2008 ว่า ประกอบด้วย งานประชุมวิชาการเกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจะมีบริษัทน้ำมันแห่งชาติ และ บริษัทน้ำมันข้ามชาติ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานจากทั่วโลกมานำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจตลอดเวลา 3 วันของการจัดประชุม ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 1,800 คน จาก 50 ประเทศทั่วโลก จะได้รับฟังการนำเสนอนวัตกรรมความก้าวหน้า การพัฒนาอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นพลังงานที่มีบทบาทเพิ่มขึ้นในการใช้ทดแทนน้ำมัน โดยเฉพาะในปัจจุบันที่น้ำมันมีราคาสูงขึ้นมาก
 .

นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวคิดที่เป็นประโยชน์ด้านอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติอีกด้วย สำหรับในส่วนของนิทรรศการฯ จะมีบริษัทพลังงานชั้นนำกว่า 300 บริษัทจาก 40 ประเทศทั่วโลก มานำเสนอและแสดงผลงานและข้อมูลทางธุรกิจ รวมทั้งความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติเหลว ก๊าซปิโตรเลียมเหลว และก๊าซธรรมชาติ บนพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการรวม 25,400 ตารางเมตร

 .

ประกอบด้วย บริษัทพลังงานแห่งชาติของประเทศต่างๆ อาทิ กาตาร์ บราซิล มาเลเซีย อินโดนีเซีย รัสเซีย และ บริษัทน้ำมันข้ามชาติรายใหญ่ในโลก เช่น Exxon Mobil, Shell, Total, Conoco และ BP รวมถึงบริษัทที่ดำเนินธุรกิจจัดหาก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของโลก อาทิ Gazprom, , Chevron, LNG, Brunei LNG

 .

ดังนั้นการที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน GASTECH 2008 ในครั้งนี้จึงนับเป็นโอกาสอันดีสำหรับประชาชน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่จะสามารถเข้าชมงานนิทรรศการระดับนานาชาติได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งจะได้เห็นถึงเทคโนโลยี ความก้าวหน้า และนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะสามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับองค์กร หน่วยงาน รวมถึงประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 .

จึงใคร่ขอเชิญผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการฯ ได้ระหว่างวันที่ 10 – 13 มีนาคม 2551 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) กรุงเทพ โดยในวันที่ 10 มีนาคม 2551 เข้าชมได้ระหว่างเวลา 13.00 – 17.00 น. และวันที่ 11 – 13 มีนาคม 2551 ระหว่างเวลา 10.00 – 17.00 น.