"ตราช้าง" ปรับกลยุทธ์ Branding  ดัน "สมาร์ทวูด ตราช้าง" รุกตลาดไม้สังเคราะห์  ตั้งเป้าปีนี้โต 15-20% มั่นใจสูตรใหม่ไม่มีใยหิน เนื้อเหนียวกว่าเดิม สวย ทนทาน ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม 

"ไม้ฝาตราช้าง" ปรับกลยุทธ์ Branding รวบผลิตภัณฑ์ไม้สังเคราะห์ไฟเบอร์ซีเมนต์เข้ากลุ่ม "สมาร์ทวูด ตราช้าง" มั่นใจสูตรใหม่ไม่มีใยหิน ที่มาพร้อมคุณสมบัติเหนียวทนทาน สวยเหมือนไม้จริง   ช่วยผลักดันแบรนด์ "สมาร์ทวูด ตราช้าง" เป็นทางเลือกอันดับหนึ่งของไม้สังเคราะห์ในใจลูกค้า ตั้งเป้าเติบโตอีก 15-20% ในปีนี้

นายธงชัย โสภณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทกระเบื้องกระดาษไทย จำกัด ในธุรกิจผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง  เครือซิเมนต์ไทย (SCG Building Materials) เปิดเผยว่า "ในปี 2550 ที่ผ่านมา ตลาดรวมไม้สังเคราะห์เติบโตขึ้นสวนกระแสเศรษฐกิจ  คาดว่าในปีนี้ หากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับคืนมา น่าจะเติบโตต่อเนื่อง ปัจจุบัน ตราช้างมีส่วนแบ่งในตลาดไม้สังเคราะห์ 20% ยอดขายปีที่แล้วโตขึ้น 8% ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าที่วางไว้ ปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันการเติบโตของธุรกิจ ได้แก่ ความนิยมในการใช้สินค้าทดแทนไม้ ประเภทไฟเบอร์ซีเมนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากไม้จริงมีราคาแพง และกระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เติบโตต่อเนื่อง"

"หลังจากเปิดตัวในตลาดไม้สังเคราะห์มากว่า 7 ปี ตราช้างได้พัฒนาคุณภาพสินค้า ควบคู่ไปกับการเพิ่ม Product line อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ปัจจุบัน มีทั้งไม้ฝา ไม้เชิงชาย ไม้ระแนง  ล่าสุดยังได้เปิดตัว ไม้บัว และไม้รั้ว  และจะมีสินค้าอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต  เพื่อให้ผู้บริโภคจดจำง่ายขึ้น และไม่เกิดความสับสนในการจดจำและเรียกชื่อ  เราจึงได้ปรับกลยุทธ์ด้าน Branding โดยรวมผลิตภัณฑ์ไม้สังเคราะห์กลุ่มนี้ไว้ด้วยกัน และเรียกรวมว่าผลิตภัณฑ์ “สมาร์ทวูด ตราช้าง"

ซึ่งสินค้าทั้งหมดจะเป็นสูตรใหม่ ที่ยกเลิกการใช้ใยหินเป็นส่วนผสม โดยใช้เส้นใยเซลลูโลสแทน จึงได้เนื้อไม้ที่เหนียวขึ้น  ไม่เปราะเหมือนสูตรเดิม  ดัดโค้งได้ง่ายขึ้น  มีความทนทาน ทนน้ำ ทนแดด  ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร นอกจากนี้ ยังโดดเด่นด้วยสีสันและลายไม้ ที่สวยเหมือนไม้จริง เมื่อเปรียบเทียบกับสินค้าอื่นในตลาดปัจจุบัน  เราจึงมั่นใจว่า ลูกค้าที่เลือกใช้ สมาร์ทวูด ตราช้าง จะไม่ประสบกับปัญหาเหมือนไม้สังเคราะห์ทั่วไป เช่น สินค้าเปราะ แตกหักง่าย เกิดความเสียหายในการทำงาน และขนส่ง หรือปัญหาไม้หดตัว ซึ่งมีผลต่อความสวยงามของอาคารบ้านเรือน  เป็นต้น"

"ตราช้าง" นอกจากจะเป็นที่ยอมรับด้านการผลิตสินค้าคุณภาพแล้ว ยังเป็นผู้ผลิตรายแรก และรายเดียวในประเทศไทย ที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยสินค้าหลังคา ฝ้า ผนัง และไม้สังเคราะห์ ไม่มีส่วนผสมของใยหินในกระบวนการผลิต ทั้งยังใช้เทคโนโลยีการผลิตและมาตรฐานความปลอดภัยแบบเดียวกับที่ใช้ในประเทศแถบยุโรป ลูกค้าจึงมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยได้อย่างเต็มที่  

"เราเชื่อว่า การปรับกลยุทธ์ด้าน Branding ประกอบกับคุณภาพที่โดดเด่นของผลิตภัณฑ์  จะช่วยผลักดันให้ สมาร์ทวูด ตราช้าง เป็นทางเลือกอันดับหนึ่งของไม้สังเคราะห์ และเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดไม้สังเคราะห์   ซึ่งน่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้เติบโตได้ถึง 15-20% ภายในสิ้นปี" นายธงชัยกล่าวเพิ่มเติม