เนื้อหาวันที่ : 2008-02-08 11:26:40 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2831 views

แนวโน้มของการพัฒนาเครื่องมือวัดและทดสอบ

เครื่องมือวัดและทดสอบ นับเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญมากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี เนื่องจากเทคโนโลยีของการวัดและทดสอบนี้ เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการพัฒนานวัตกรรมทางความคิด

.

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีต่าง ๆ ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ตไร้สาย โทรศัพท์มือถือพร้อมกล้องดิจิตอล อุปกรณ์พีดีเอ รวมทั้งทีวีโฟน ล้วนเป็นนวัตกรรมที่น่าหลงใหลของบรรดาสาธารณชนจำนวนมาก ตรงกันข้ามกับเบื้องหลังที่ไม่เคยมีการป่าวประกาศให้รับรู้ ดูไม่น่าสนใจและไม่น่าตื่นตาตื่นใจ นั่นก็คือเทคโนโลยีของเครื่องมือวัดและทดสอบ ซึ่งถูกมองข้ามไป เทคโนโลยีนี้ไม่เป็นที่ดึงดูดความสนใจและได้รับการตอบสนองจากสังคมส่วนใหญ่น้อยมาก ไม่มีวิศวกรคนใดที่ชอบอ่านงานเขียนในเรื่องของการวัดและทดสอบ เว้นแต่ว่าจะต้องทำงานเกี่ยวข้องกับเครื่องมือเหล่านี้ 

.

ในขณะเดียวกันนั้น เครื่องมือวัดและทดสอบ นับเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญมากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี เนื่องจากเทคโนโลยีของการวัดและทดสอบนี้ เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการพัฒนานวัตกรรมทางความคิด ให้ปรากฏออกมาในรูปของผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคสามารถหาซื้อได้ ตั้งแต่การเริ่มต้นคิดค้น ไปสู่การวิจัยและพัฒนา สร้างเครื่องต้นแบบ นำร่องทดสอบตลาด การนำออกสู่ตลาด การเจริญถึงขีดสุด และเก่าแก่ล้าสมัยไปในที่สุด ซึ่งเป็นวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์นั่นเอง

.

การวัดและทดสอบทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้มีการแผ่ขยายไปสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ การติดต่อสื่อสาร เคมี และอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยเทคโนโลยีเซนเซอร์ทำให้เกิดความก้าวหน้าด้านเครื่องกล ความดัน เคมี และกลุ่มของตัวแปรอื่น ๆ ที่สามารถถูกเปลี่ยนให้เป็นตัวแปรทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สอดคล้องกัน เพื่อสะดวกต่อการเก็บบันทึก การวัดและการวิเคราะห์ โดยเครื่องมือวัดและทดสอบทางอิเล็กทรอนิกส์

.

วิศวกรการวัดและทดสอบ จะต้องไม่เพียงแต่มีความเข้าใจอย่างละเอียด ในการปรากฏขึ้นของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่จะต้องมีการพัฒนาโซลูชัน การวัดและทดสอบที่ดีสำหรับผลิตภัณฑ์ที่จะนำออกสู่ตลาด เพื่อยกระดับของความมีประสิทธิภาพ หน้าที่การทำงาน และความสามารถในการผลิต เพราะสภาพแวดล้อมการแข่งขันในปัจจุบันถูกกำหนดเงื่อนไขในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยระยะเวลาที่น้อยที่สุดในการนำออกสู่ตลาด เหล่านี้คือความต้องการกระบวนการวัดและทดสอบที่รวดเร็วกว่าและสามารถเชื่อถือได้ ซึ่งความเร็ว ความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ และความมีประสิทธิภาพ เป็นประเด็นพื้นฐานสำหรับโซลูชันการวัดทดสอบใด ๆ ก็ตาม

.

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

อิเล็กทรอนิกส์ กลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในชีวิตมนุษย์ ความชาญฉลาดของเทคโนโลยีทำให้การดำเนินชีวิตง่ายและสะดวกสบาย เพื่อให้เทคโนโลยีสามารถเจริญก้าวหน้าต่อไป สุดแท้แต่ข้อจำกัดของตัวมันเอง เครื่องมือวัดและทดสอบจะเป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญ ซึ่งในช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา ก็ได้มีการปฏิวัติความเป็นอัจฉริยะทางด้านเทคนิคของเครื่องมือวัดและทดสอบกันอย่างต่อเนื่อง

.

เมื่อก่อนเครื่องมือวัด จะประกอบไปด้วยชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่แยกกัน แต่ด้วยการพัฒนาวงจรรวมสำหรับการประยุกต์ใช้ในงานชนิดพิเศษ ASIC (Application Specific Integrated Circuit) อุตสาหกรรมจึงเริ่มมองหาโซลูชันชิปแบบเดี่ยวสำหรับเครื่องมือวัดและทดสอบ การใช้ชิปเดี่ยวไม่เพียงแต่เป็นการลดต้นทุน ขนาดและความสิ้นเปลืองพลังงานเท่านั้น แต่ยังเป็นการปรับปรุงคุณภาพและความน่าเชื่อถือของเครื่องมืออีกด้วย โดยเฉพาะอุปกรณ์ชนิดติดผิวหน้า SMD (Surface Mountable Device) มีคุณสมบัติในการลดขนาดของเครื่องมือลงด้วย

.

ออสซิลโลสโคปชนิดลำแสงแคโทด (Cathode Ray Oscilloscope: CRO) ที่จนบัดนี้ยังถูกมองว่า เป็นเครื่องมือที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับการวิจัยและพัฒนา แต่ด้วยนวัตกรรมใหม่ของออสซิลโลสโคปชนิดดิจิตอลสตอเรจ (Digital Storage Oscilloscope: DSO) ทำให้ออสซิลโลสโคปชนิดลำแสงแคโทดกลายเป็นตัวเลือกที่สองของวิศวกรอย่างช้า ๆ เนื่องจากชนิด DSO มีแบนวิดธ์สูงและอำนวยความสะดวกได้หลายอย่าง ทำให้วิศวกรสามารถที่จะจับรูปคลื่นที่ปรากฏบนหน้าจอ และเก็บบันทึกลงบนอุปกรณ์เก็บข้อมูล อย่างแผ่นฟลอปปี้ดิสก์ที่มีไดรฟ์ฝังติดอยู่ในตัวเครื่องได้

.

เมื่อมีการปรากฏตัวของอุปกรณ์ประมวลผลสัญญาณดิจิตอล (Digital Signal Processing: DSP) เครื่องมือวัดและทดสอบก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่ ตัวกรองสัญญาณ DSP และตัวสังเคราะห์ภาษามีการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันเทียบกันไม่ได้กับเวอร์ชันเก่าที่ใช้ในเครื่องมือวัดและทดสอบ ตัวประมวลสัญญาณดิจิตอลทำให้สามารถพัฒนาฟิลเตอร์ที่อัตราการตอบสนองต่อความถี่ของวงจรสูงมากเกินไปและเสถียรภาพสูง ซึ่งเป็นจุดวิกฤตสำหรับเครื่องมือวัดและทดสอบ

..

ผู้ผลิตอุปกรณ์ DSP ได้แก่ Texas Instrument, Analog Device และ Motorola ได้มีการเปิดตัวชิป DSP สมรรถนะสูง ที่ได้มีการรวมเอาตัวเปลี่ยนสัญญาณอะนาลอกเป็นดิจิตอล (ADC), ตัวเปลี่ยนสัญญาณดิจิตอลเป็นอะนาลอก (DAC), พอร์ตอนุกรม, ตัวควบคุมเครือข่าย (Controller Area Network: CAN) ไว้บนชิป ดังนั้นโซลูชันฝังตัว (Embedded) จึงมีผลในการออกแบบเครื่องมือที่มีขนาดเล็ก สามารถเชื่อถือได้และง่ายต่อการใช้งาน อัลกอริทึม DSP ถูกทำให้สมบูรณ์บนชิป VLSIC(Very Large Scale Integration) จะช่วยทำให้ระบบมีขนาดเล็กมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะเดียวกันก็ให้ความเร็วสูงด้วย

.

เครื่องมือวัดและทดสอบความถี่วิทยุและความถี่ไมโครเวฟ เป็นเทคโนโลยีล่าสุด ซึ่งมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันสามารถหาเครื่องกำเนิดคลื่นไมโครเวฟ ที่ให้ความละเอียดตัวนับต่ำเท่ากับ 0.1 Hz ความสมบูรณ์ของการออกแบบเครื่องมือวัด สามารถพิสูจน์ได้ด้วยการใช้ซอฟต์แวร์เครื่องมือจำลอง โดยเครื่องมือจะจำลองผลกระทบทางด้านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า EMI/EMC บนเครื่องมือวัด และเสนอแนะการวัดที่เป็นการแก้ไขปรับปรุง เพื่อให้ป้องกันในสิ่งที่เกิดขึ้นในแบบเดียวกัน การออกแบบการจัดวางที่ล่อแหลม ก็สามารถใช้เครื่องมือนี้ในการตรวจสอบความถูกต้องได้เช่นกัน

.

ความต้องการและการพัฒนาในปัจจุบัน

ความเป็นมิตรกับผู้ใช้ : เป้าหมายของอุตสาหกรรมเครื่องมือวัดและทดสอบ คือการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 2-3% ทุกปี แม้ว่าจะไม่มีส่วนของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ ผ่านเข้ามา เครื่องมือวัดที่ดูเป็นมิตรกับผู้ใช้งานนั้น แผงควบคุมจะถูกพัฒนาให้ดูมีชีวิตชีวา ซึ่งมันสามารถเป็นไปได้ก็เนื่องมาจาก การประยุกต์เอาเทคโนโลยีสมองกลฝังตัว การเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์สำหรับเครื่องมือวัดและทดสอบเข้ามาใช้อย่างมาก

.

จนกลายเป็นมาตรฐานที่ถูกกำหนดขึ้น แผงด้านหน้าของเครื่องมือดูไม่ระเกะระกะและมีสีสันสดใส แมคานิกสวิตช์ที่ใช้ควบคุมกลายเป็นสิ่งที่ผิดปกติ เครื่องมือได้มีการนำเอาจอแสดงผล LFT/TFT ความละเอียดสูงมาใช้มากขึ้น LED ชนิดความสว่างสูงได้ถูกนำมาใช้บนแผงควบคุมและใช้เป็นแสงส่องหลัง (Backlight) และใช้เวลามากขึ้นไปกับการพัฒนาเครื่องมือวัดและทดสอบชนิดพกพา ที่ใช้แหล่งจ่ายไฟขนาดเล็กมากขึ้นเรื่อย ๆ

.

ความสามารถหลากหลาย แต่ต้นทุนต่ำ : เทคนิคเครื่องมือวัดแบบดิจิตอลเป็นสิ่งที่ผู้ใช้คาดว่าจะพบเห็นมากขึ้น สำหรับความสามารถที่มากกว่า โดยการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในไมโครคอนโทรลเลอร์ และเทคโนโลยีอุปกรณ์ติดผิวหน้า ซึ่งมีผลต่อการใช้งานเครื่องมือวัดในขอบเขตที่กว้างมาก บริษัททางด้านเครื่องมือวัดและทดสอบ ที่ทำงานบนผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงและใช้งานง่ายนั้น ได้ใช้ประโยชน์จากพลังและลักษณะที่สามารถยืดหยุ่นได้ของไมโครคอนโทรลเลอร์ โดยการใช้ประโยชน์ทั้งทางด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

.

ในขณะเดียวกันต้นทุนและขนาดของผลิตภัณฑ์นั้นลดลง เครื่องมือวัด/ทดสอบที่ใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ กับการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ จะให้สมรรถนะการผลิตและความคุ้มทุนที่มากกว่าตัวเลือกอื่น นั่นจึงเป็นความต้องการใช้ที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับเครื่องมือที่มีต้นทุนต่ำ ความสามารถอันหลากหลายของการวัดค่าตัวแปรทางไฟฟ้าทั้งหมด และการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์สำหรับการวัด การควบคุมและการเก็บบันทึกข้อมูล

.

ด้วยงบประมาณที่มีน้อย สำหรับการจัดซื้อเครื่องมือวัดและทดสอบ เป็นแรงผลักดันให้องค์กรต้องซื้อเครื่องมือที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ด้วยคุณสมบัติที่มีเพียงอยู่เล็กน้อย ในทำนองเดียวกัน วิศวกรก็ไม่สามารถทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ กับเครื่องมือที่มีสภาพสมบูรณ์ แม่นยำและน่าเชื่อถือ การรักษาสิ่งเหล่านี้ในความคิดคือ วิศวกรที่ทำการวิจัยและพัฒนาเครื่องมือต่างเพ่งเล็งไปที่การพัฒนาเครื่องมือคุณภาพสูงและมีความน่าเชื่อถือ โดยมีคุณสมบัติในระดับ ไฮ-เอนด์ ที่มีราคาถูก

.

เครื่องมือวัดที่มีการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ จะอนุญาตให้มีการเฝ้าระวัง การบันทึกและการควบคุมแบบรวมศูนย์ ที่ข้อมูลการวัดสามารถถูกส่งไปในระยะทางไกล ๆ อุปกรณ์การวัดและทดสอบที่มีมาอย่างยาวนานสามารถหาได้ด้วยการอินเทอร์เฟสแบบอนุกรมและขนาน เพื่อติดต่อซึ่งกันและกันและติดต่อกับคอมพิวเตอร์ รวมทั้ง GPIB บัส ในปัจจุบันเครื่องมือวัดและทดสอบเหล่านี้จะมาพร้อมกับอินเทอร์เฟสที่ถูกปรับปรุงใหม่ อย่างเช่น RS-232, RS-485, LONworks, Ethernet และ USB

.

ขนาดที่เล็กและการเชื่อมต่อง่าย : แนวโน้มของเครื่องมือวัด/ทดสอบ จะเป็นไปในทิศทางที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ โดยมีโซลูชันคอมพิวเตอร์เป็นพื้นฐาน แบบอย่างที่น่าสนใจเช่นแลปทอปและปาล์มทอป เป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้ บอร์ดเครื่องมือจะถูกติดอยู่บนตัวมันมากขึ้น อินเทอร์เฟสอนุกรมกับ RS-232 โปรโตคอล จะยอมให้การเก็บบันทึกและการวิเคราะห์ข้อมูลทำได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับซอฟต์แวร์ชั้นสูง การวิเคราะห์จะมีความน่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ

.

ดิจิตอลมัลติมิเตอร์

ดิจิตอลมัลติมิเตอร์ ได้มีการพัฒนาจากเครื่องมือวัดที่อยู่บนพื้นฐาน ADC ไปเป็นเครื่องมืออันชาญฉลาดที่อยู่บนพื้นฐานของไมโครโปรเซสเซอร์ มิเตอร์มือถือเหล่านี้ปัจจุบันได้ถูกออกแบบให้อ่านค่าได้ถึง 120,000 ตัวนับ และสามารถปฏิบัติการฟังก์ชันที่สลับซับซ้อนต่าง ๆ ซึ่งตรงกันข้ามกับเครื่องมือที่ราคาแพงมากในอดีตที่ผ่านมา ยกตัวอย่างเช่น มิเตอร์ที่มีคุณลักษณะจอ LCD 2 ช่อง (เหมือนกับออสซิลโลสโคปแชนแนลคู่)

.

สามารถวัดแรงดัน AC, แบนวิดธ์ 200 kHz, เก็บบันทึกค่าการอ่านได้มากกว่า 10,000 ค่า, ติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่าน RS-232, การอ่านค่า TRMS, ตอบสนองด้วยความเร็วสูง, ความแม่นยำ DC  ที่ ±0.02 %, กราฟแท่ง, ปิดเครื่องเองอัตโมัติ, ไทเมอร์สำหรับการวัด และความสามารถในการวัดค่าตัวแปรทางไฟฟ้าและทางกายภาพต่าง ๆ การวิจัยเป็นการมุ่งเน้นที่การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี DSP ที่มีการปรับปรุงความน่าเชื่อถือ นำมาซึ่งราคาที่ต่ำลงของดิจิตอลมัลติมิเตอร์ เหลือเพียงหนึ่งในสี่ของราคาเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา พร้อมกับการปรับปรุงฟังก์ชันต่าง ๆ

.

การสร้างและใช้งานจริง

เมื่อก่อนชุดเครื่องมือวัดและทดสอบ ประกอบไปด้วยชุดของชั้นเครื่องมือที่วางซ้อนกันหลายชั้น แต่ในที่สุดเครื่องมือวัดที่มีความสลับซับซ้อนมาก แต่หลักการพื้นฐานยังคงเหมือนเดิม เครื่องมือวัดและทดสอบแบบสแตนอโลนเริ่มหายไป แท้ที่จริงแล้วเครื่องมือเหล่านี้ยังคงทำงานอยู่ แต่ที่ปลายของสายโทรศัพท์จากวิศวกรทดสอบ ผู้ซึ่งทำหน้าที่ติดต่อโดยตรงหรือผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะทำงานได้ดีกับผู้รับช่วงการผลิต โดยที่ผู้ออกแบบ OEM สามารถตรวจสอบการผลิต และทดสอบตัวแปรต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกของผู้รับช่วงในแบบเรียลไทม์ อย่างที่ต้องคำนึงถึงการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

.

การครอบครองเครื่องมือวัดที่แท้จริง ไม่ใช่เครื่องมือวัดแบบสแตนอโลนของพวกเขาเองที่มีการถูกเปลี่ยนแปลง ฟังก์ชันที่มีความสามารถวัดและทดสอบในปัจจุบัน พำนักอยู่อย่างถาวรบนแผ่นวงจรพิมพ์ ซึ่งในการเปลี่ยนแปลงก็คือการถูกเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิม, การอินเทอร์เฟสกับอุปกรณ์ที่อยู่ภายใต้การทดสอบ ผ่านอินพุต/เอาต์พุตของบอร์ด การทำงานเป็นการถูกเลียนแบบในซอฟต์แวร์ ที่ประกอบด้วยแผงด้านหน้าในแบบดั้งเดิม ดังตัวอย่างเช่นเช่น LabView ของเนชันแนล อินสทรูเมนต์, Vcc ของเอจิเลนท์ และ ATEasy ของ Geotest ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่นิยมใช้

.

ด้วยเครื่องมือวัดและทดสอบแบบสังเคราะห์ใหม่ล่าสุด ชิ้นส่วนทั่วไปของฮาร์ดแวร์เครื่องมือวัดกับ ADC และ DAC ความเร็วสูง ที่เป็นหลักของมันถูกควบคุมอยู่อย่างครบถ้วน โดยซอฟต์แวร์ฟังชันก์การทดสอบเฉพาะ ชิ้นส่วนของฮาร์ดแวร์อาจจะทำงานเป็นโวลต์มิเตอร์ชั่วขณะหนึ่ง แล้วเปลี่ยนเป็นสเปกตรัมอะนาไลเซอร์ในเวลาต่อมา และเป็นเพาเวอร์มิเตอร์หลังจากนั้น ซึ่งเป็นการลอกเลียนแบบชุดเครื่องมือวัดทดสอบในแบบสแตนอโลนราคาแพง นวัตกรรมนี้ได้ชื่อว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากที่สุด ของเครื่องมือวัดและทดสอบอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่มีการแนะนำให้รู้จัก ATE

.

บริษัท เนชั่นแนล อินสทรูเมนต์ ได้สร้างคำใหม่ในสโลแกนที่ว่า ซอฟต์แวร์ก็คือเครื่องมือซึ่ง Janes Truchard ผู้บริหารระดับสูง ได้จินตนาการถึงการหายไปของฮาร์ดแวร์เครื่องมือวัด อย่างน้อยที่สุดก็จากทัศนะของผู้ใช้ สิ่งเหล่านี้สามารถยืดหยุ่นได้, ฮาร์ดแวร์แบบโปร่งใสไม่มีแผงด้านหน้า จะปฏิบัติงานภายใต้การควบคุมของซอฟต์แวร์ อย่างเช่น LabView ที่ทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์, PDA และอื่น ๆ

.

ชุดทดสอบอัตโนมัติของเอจิเลนท์ ได้รวมทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ที่ช่วยลดเวลาลงได้ประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อปฏิบัติการกับกลุ่มของความจำเป็น  และงานที่ไม่น่าสนใจนั้นในปัจจุบันสิ้นเปลืองเวลาโดยเฉลี่ยเป็น 100 ชั่วโมง สิ่งนี้จะช่วยลดเวลาในการพัฒนาการทดสอบลง 99% ชุดเครื่องมือจะโหลดไดรเวอร์ซอฟต์แวร์, ลักษณะเฉพาะอย่างอัตโนมัติ และยังตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องมือที่นิยมใช้ได้อีกมากมาย

.

โดยสนับสนุนทั้งโวลต์มิเตอร์, ฟังก์ชันเจเนอเรเตอร์, เคาน์เตอร์, เพาเวอร์ซัพพลาย, ออสซิลโลสโคป และอุปกรณ์สวิตชิ่งสัญญาณ ชุดเครื่องมือยังประกอบด้วยคอนเวอร์เตอร์ USB-IEEE488, ซอฟต์แวร์ทดสอบด่วน, โมดูลทดสอบ, สายควบคุม, 200 โปรแกรมตัวอย่าง และการสนทนาทางโทรศัพท์อีก 2 ชั่วโมง ที่สามารถกำหนดแผนงานกับผู้เชี่ยวชาญระบบได้

.

โดยสนับสนุนทั้งโวลต์มิเตอร์, ฟังก์ชันเจเนอเรเตอร์, เคาน์เตอร์, เพาเวอร์ซัพพลาย, ออสซิลโลสโคป และอุปกรณ์สวิตชิ่งสัญญาณ ชุดเครื่องมือยังประกอบด้วยคอนเวอร์เตอร์ USB-IEEE488, ซอฟต์แวร์ทดสอบด่วน, โมดูลทดสอบ, สายควบคุม, 200 โปรแกรมตัวอย่าง และการสนทนาทางโทรศัพท์อีก 2 ชั่วโมง ที่สามารถกำหนดแผนงานกับผู้เชี่ยวชาญระบบได้