เนื้อหาวันที่ : 2008-01-18 10:03:21 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 719 views

ก.พลังงาน แถลงผลการประชุมตามติดภาวะราคาน้ำมันแพง

ก.พลังงาน แถลงผลการประชุมผู้บริหารประจำสัปดาห์ ตามติดภาวะราคาน้ำมันแพง รับทราบภาพรวมการใช้น้ำมันในสัปดาห์แรกของปี 51 ลดลง 3.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ระบุการรองรับการใช้พลังงานในหน้าร้อน คาดการใช้ไฟฟ้าสูงสุดระดับ 13,500 ล้านหน่วยในช่วงเดือน มี.ค. หรือ พ.ค. และการใช้น้ำมันสูงขึ้น ช่วงสงกรานต์ เตรียมกิจกรรม ลดใช้แอร์หน้าร้อน ตรวจสอบความพร้อมก่อนการท่องเที่ยวเพื่อประหยัดพลังงานย้ำประกาศเตือนประชาชน การนำก๊าซหุงต้ม มาดัดแปลงใช้ในรถยนต์ และมอเตอร์ไซด์เอง ผิดกฎหมาย และอาจมีอันตรายถึงชีวิต

.

ดร. ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ ในฐานะรองโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลัง การประชุมผู้บริหารประจำสัปดาห์ของกระทรวงพลังงาน (16 ม.ค. 51) ว่า ที่ประชุมผู้บริหาร ฯ ได้รับทราบข้อมูลการใช้น้ำมันในประเทศ ในช่วงสัปดาห์แรกของปี 2551 (ระหว่างวันที่ 112 ม.ค.) โดยพบว่าภาพรวมการใช้น้ำมันของประเทศทั้งเบนซินและดีเซล ลดลง 3.5 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

.

โดยการใช้เบนซิน ลดลงเหลือ 19.16 ล้านลิตรต่อวัน และดีเซล ลดลงเหลือ 50.9 ล้านลิตรต่อวัน ส่วนการใช้แก๊สโซฮอล์ ยังอยู่ที่ระดับ 6.7 ล้านลิตรต่อวัน แบ่งเป็นแก๊สโซฮอล์ 95 5.3 ล้านลิตรต่อวัน แก๊สโซฮอล์ 91 1.4 ล้านลิตรต่อวัน และแก๊สโซฮอล์ E 20 5,000 ลิตรต่อวัน โดยสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังอยู่ในระดับสูง มากกว่า 90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แม้ว่าระดับราคาเริ่มส่งสัญญาณที่อ่อนตัวลงบ้าง

.

ทั้งนี้ ยังได้เตรียมการรองรับการใช้พลังงานในช่วงหน้าร้อน โดยคาดว่าการใช้ไฟฟ้าสูงสุดหรือ Peck จะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม หรือสองสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม โดยจะมีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดประมาณ 13,500 ล้านหน่วย รวมทั้งภาพรวมการใช้น้ำมันของประเทศ จะเริ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ไปจนถึงเทศกาลสงกรานต์ โดยจะมีการใช้ในระดับเท่ากับปีที่แล้วคือ น้ำมันเบนซิน ประมาณ 2021 ล้านลิตรต่อวัน และดีเซล ประมาณ 5051 ล้านลิตรต่อวัน

.

โดยกระทรวงพลังงาน ได้เตรียมมาตรการรณรงค์เพื่อลดการใช้พลังงาน ได้แก่ กิจกรรมลดใช้แอร์ในหน้าร้อน กิจกรรมตรวจสอบความพร้อมก่อนการท่องเที่ยวเพื่อประหยัดพลังงาน โดยจะเน้นส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน อาทิ แก๊สโซฮอล์ ไบโอดีเซล และ NGV รวมทั้งวิธีการประหยัดพลังงานในการขับรถยนต์ เป็นต้น

.

ดร. ทวารัฐ กล่าวเพิ่มว่า กระทรวงพลังงาน จะขอประกาศเตือนประชาชน ถึงการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ ที่ปัจจุบัน ประชาชนได้นิยมนำก๊าซหุงต้ม มาติดตั้งทั้งในรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ โดยการกระทำดังกล่าว ถึงเป็นการผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก มาตรา 7883 มีโทษปรับ 50,000 บาท รวมทั้งจะก่อให้เกิดอันตรายตามมา ที่จะต้องสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน หากมีการติดตั้งที่ไมได้มาตรฐาน ซึ่งกระทรวงพลังงานไม่แนะนำให้ประชาชนติดตั้งระบบก๊าซหุงต้มในเครื่องยนต์