เนื้อหาวันที่ : 2008-01-18 09:12:05 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1459 views

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มั่นใจโครงการ Trustmark ไทยสู่ตลาดสากล

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สร้างความเชื่อมั่นให้ทั้งผู้บริโภค และผู้ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ดันโครงการ Trustmark ไทยสู่ตลาดสากล หวังตลาดอีคอมเมิร์ซไทยรุ่ง

.

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มั่นใจโครงการ Trustmark ไทยสู่ตลาดสากล สร้างความเชื่อมั่นให้ทั้งผู้บริโภค และผู้ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ดันตลาดอีคอมเมิร์ซรุ่ง พร้อมจัดงานเสวนาวิชาการ หัวข้อ "ทำ e-Commerce อย่างไรให้โดนใจลูกค้า" และจัดพิธีมอบเครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Trustmark) แก่ผู้ประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ปี 2551 หวังกระตุ้นผู้ประกอบธุรกิจตระหนักถึงความสำคัญของการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

.

นายคณิสสร นาวานุเคราะห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า "กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ความสำคัญกับเรื่องพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มาโดยตลอด ซึ่งสิ่งที่ได้ผลักดันคือ การส่งเสริมระบบอีคอมเมิร์ซ และผลักดันเรื่องของอีบิสซิเนส ให้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ และเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมพัฒนาธุรกิจการค้า ครบรอบ 85 ปี จึงจัดเสวนาวิชาการ เรื่อง "ทำ e-Commerce อย่างไรให้โดนใจลูกค้า" เพื่อกระตุ้นผู้ประกอบธุรกิจให้ตระหนักถึงความสำคัญของการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์พร้อมทั้งจัดให้มีพิธีมอบเครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Trustmark) แก่ผู้ประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ปี 2551 จำนวน 10 เว็บไซต์ ได้แก่

ทั้งนี้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce) ถือเป็นกลไกสำคัญประการหนึ่งในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศทั้งในเวทีการค้าภายในประเทศและในเวทีโลก รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยกำหนดให้เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในกรอบนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศระยะ พ.ศ. 2544 - 2553 ของประเทศไทย หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า IT2010 การเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย โดยใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นช่องทางในการประกอบธุรกิจเพื่อการส่งออก การค้าและบริการ และการบริโภคภายในประเทศนั้น จำเป็นจะต้องมีการกระตุ้นให้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นที่ยอมรับใช้งานอย่างแพร่หลาย และเกิดความเชื่อถือระหว่างผู้ซื้อ และผู้ขาย

 .

 ภายหลังจากการเปิดตัวโครงการ Trustmark ไทยสู่ตลาดสากล ซึ่งเป็นโครงการออกเครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เมื่อปีที่ผ่านมานั้น ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สมัครเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก ซึ่งโครงการ Trustmark นั้นจะเป็นประโยชน์ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการ คือ สามารถแสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์นั้นๆ มีความน่าเชื่อถือ และมีแนวปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจที่ดี ผ่านการรับรองจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

 .

และในส่วนของผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์ คือ เมื่อใช้บริการของเว็บไซต์ที่เข้าร่วมโครงการ Trustmark แล้ว สามารถมั่นใจได้ว่าเป็นเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ โดยจะมีเครื่องหมายที่มีสัญลักษณ์คำว่า "Verified" รับรองความน่าเชื่อถือปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นั้นๆ ซึ่งผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ Trustmark จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุไว้ หากมีข้อพิพาท หรือประสบปัญหา ผู้บริโภคสามารถติดต่อหรือร้องเรียนมายังกรมฯ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้

 .

ผู้ประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ Trustmark ผ่านทางเว็บไซต์ www.trustmarkthai.com โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพียงผู้สมัครอัพโหลดเอกสารประกอบการสมัครผ่านหน้าเว็บฯ จากนั้นจะสามารถทราบผลการสมัครทางอีเมล์ภายใน 20 วันทำการ หากเว็บไซต์นั้นมีคุณสมบัติครบถ้วนจะได้รับเครื่องหมายที่มีสัญลักษณ์ “Verified” เพื่อนำไปแสดงบนหน้าเว็บไซต์ และผู้สมัครจะต้องทำการต่ออายุเครื่องหมายทุก ๆ 1 ปี

 .
"สำหรับปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยเติบโตนั้น ประกอบด้วย 1. เรื่องของเทคโนโลยีที่สามารถเพิ่มโอกาสเข้าถึงได้ 2. ปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ ในเรื่องการชำระเงิน และการขนส่ง ถือเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และ 3. ตัวผู้บริโภค จะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคมีความเชื่อถือ คุ้นเคย และปรับพฤติกรรมให้ความไว้วางใจระบบการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ซึ่งกรมฯ เชื่อมั่นว่า โครงการ Trustmark จะเป็นกลไกในการผลักดันให้มูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มมากขึ้น" นายคณิสสรกล่าวสรุป