เนื้อหาวันที่ : 2022-11-24 12:09:42 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 794 views

แลนเซสส์พึงพอใจผลประกอบการดีเยี่ยมในไตรมาส 3 ของปีการเงิน 2565

  • ยอดขายในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 2.185 พันล้านยูโรเพิ่มขึ้น 38.2 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว
  • ทุกกลุ่มธุรกิจมียอดขายเติบโตขึ้น –โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลผู้บริโภคแข็งแกร่งขึ้นเป็นพิเศษ
  • EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ 240 ล้านยูโรเพิ่มขึ้น 4.8 เปอร์เซ็นต์เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว
  • แลนเซสส์สามารถปรับราคาขายขึ้นชดเชยราคาวัตถุดิบและพลังงานที่เพิ่มขึ้นได้
  • คาดการณ์ผลประกอบการทั้งปีการเงิน 2565 จะมี EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติอยู่ระหว่าง 900 ล้านยูโรถึง 950 ล้านยูโร

ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ท้าทายด้วยต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัท แลนเซสส์ (LANXESS) บริษัทผู้นำในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษจากประเทศเยอรมนี ยังคงมีผลประกอบการที่ดีในไตรมาสที่สามของปี 2565 โดยยอดขายไตรมาสนี้ทำได้ถึง 2.185 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้นถึง 38.2 เปอร์เซ็นต์เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ทำได้ 1.581 พันล้านยูโร และ EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติสูงถึง 240 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 4.8 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับตัวเลข 229 ล้านยูโรของปีที่แล้ว (EBITDA คือกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย)

นอกจากกลุ่มธุรกิจสารเติมแต่งชนิดพิเศษจะมียอดขายที่ดีขึ้นแล้ว กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลผู้บริโภคซึ่งแลนเซสส์เพิ่งสร้างขึ้นตามแผนกลยุทธ์ในช่วงไม่กี่ปีนี้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเป็นพิเศษอย่างโดดเด่นเช่นกัน โดยกลุ่มธุรกิจนี้ได้รวมหน่วยธุรกิจควบคุมเชื้อจุลินทรีย์ (Microbial Control Business) ที่เพิ่งควบรวมมาจากบริษัท International Flavours & Fragrances (IFF) ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 และหลาย ๆ หน่วยธุรกิจของ Emerald Kalama Chemical ที่ได้ควบรวมเข้ามาเมื่อปี 2564 ทั้งสองหน่วยธุรกิจมีส่วนสนับสนุนอย่างมีนัยสำคัญต่อรายได้ที่ดีของกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลผู้บริโภค อีกทั้งกลุ่มบริษัทแลนเซสส์ยังสามารถชดเชยต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นด้วยการปรับราคาขายให้สูงขึ้นได้ และอัตราแลกเปลี่ยนยังส่งผลดีต่อรายได้ในทุกกลุ่มธุรกิจขณะที่อุปสงค์ลดลงในบางอุตสาหกรรม อย่างเช่น การก่อสร้าง ในส่วนของ EBITDA Margin จากการดำเนินงานตามปกติลดลงเหลือร้อยละ 11.0 ในไตรมาสที่สาม เทียบกับร้อยละ 14.5 ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (EBITDA Margin คืออัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย)

Matthias Zachert ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท LANXESS AG กล่าวว่า “ตัวเลขที่ดีนี้แสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์ของเรากำลังพาเราไปในทิศทางที่ถูกต้อง ในช่วงเวลาที่ผันผวนเรากลับมีเสถียรภาพมากกว่าเดิมเนื่องจากเราให้ความสำคัญลดลงกับสารเคมีชนิดพิเศษที่ความต้องการขึ้นลงเป็นวัฏจักร ช่วงกลางปีที่ผ่านมาเราได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลผู้บริโภคของเราอีกครั้งโดยการซื้อหน่วยธุรกิจควบคุมจุลินทรีย์จาก IFF และได้รับผลตอบแทนที่ดีในไตรมาสสามที่ผ่านมานี้ อย่างไรก็ตามเราได้เห็นความต้องการที่ลดลงแล้วในบางภูมิภาคและปริมาณการขายโดยรวมที่ลดลง ในไตรมาสที่สี่ความท้าทายจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเนื่องจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นอีกและภัยคุกคามจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย”


Matthias Zachert ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท LANXESS AG

แลนเซสส์ได้คาดการณ์ผลประกอบการตลอดทั้งปีการเงิน 2565 ว่า EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติจะอยู่ระหว่าง 900 ล้านยูโรถึง 950 ล้านยูโร ซึ่งสูงกว่าระดับ 815 ล้านยูโรของปีก่อนหลังจากมีการปรับปรุงรายการทางบัญชีแล้ว ก่อนหน้านี้ทั้งกลุ่มบริษัทเคยคาดการณ์ว่า EBITDA จะอยู่ระหว่าง 900 ล้านยูโรถึง 1 พันล้านยูโร รายได้สุทธิ (Net Income) หรือกำไรสุทธิจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 84 ล้านยูโรในไตรมาสที่สามนี้เทียบกับ 40 ล้านยูโรในช่วงเดียวกันของปีก่อน

ตัวเลขที่สำคัญของทั้งกลุ่มบริษัทแลนเซสส์สำหรับไตรมาสที่ ปีการเงิน 2565

ภาพของแต่ละกลุ่มธุรกิจ : ยอดขายได้แรงหนุนจากราคาขายที่เพิ่มขึ้น
กลุ่มธุรกิจสารตัวกลางขั้นสูง (Advanced Intermediates) เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแลนเซสส์จึงต้องปรับราคาขายในกลุ่มธุรกิจนี้ให้สูงขึ้นตาม ทำให้ยอดขายสูงขึ้นในไตรมาสที่สามของปีนี้ ยอดขายจึงเพิ่มขึ้น 30.5 เปอร์เซ็นต์จาก 492 ล้านยูโรเป็น 642 ล้านยูโร การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนยังส่งผลดีต่อยอดขายอีกด้วย EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติของกลุ่มธุรกิจนี้อยู่ที่ 65 ล้านยูโร ลดลง 18.8 เปอร์เซ็นต์จากตัวเลข 80 ล้านยูโรของปีที่แล้ว กลุ่มบริษัทแลนเซสส์สามารถส่งต่อราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นอย่างมากให้กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ส่วนราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะในเยอรมนีไม่สามารถส่งต่อได้ทั้งหมด นอกจากนี้ปริมาณการขายที่ลดลงเนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลงและค่าขนส่งที่สูงขึ้นได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อกำไร ดังนั้น EBITDA Margin จากการดำเนินงานปกติจึงลดลงเหลือ 10.1 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับ 16.3 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
กลุ่มธุรกิจสารเติมแต่งพิเศษ (Specialty Additives) กลุ่มธุรกิจนี้ได้รับประโยชน์จากราคาขายที่สูงขึ้น เนื่องจากแลนเซสส์สามารถส่งต่อต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่เพิ่มขึ้นได้เต็มจำนวน การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนมีผลในเชิงบวกเช่นกัน ขณะที่ปริมาณการขายต่ำกว่าระดับที่ดีของปีที่แล้วเล็กน้อย ยอดขายในไตรมาสที่สามของปี 2565 เพิ่มขึ้น 30.9 เปอร์เซ็นต์ จาก 605 ล้านยูโรเป็น 792 ล้านยูโร ส่วน EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.6 จาก 102 ล้านยูโรในปีที่แล้วเป็น 121 ล้านยูโร และ EBITDA Margin จากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ 15.3 เปอร์เซ็นต์ ลดลงเล็กน้อยจาก 16.9 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว
กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลผู้บริโภค (Consumer Protection) ยอดขายและผลกำไรของกลุ่มธุรกิจนี้พัฒนาขึ้นในเชิงบวกโดยเฉพาะในไตรมาสที่สามของปี 2565 หน่วยธุรกิจ Microbial Control ที่ควบรวมเข้ามาใหม่จาก IFF และหน่วยธุรกิจอื่น ๆ ของ Emerald Kalama Chemical มีส่วนสำคัญอย่างชัดเจน ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 60.7 เปอร์เซ็นต์เป็น 662 ล้านยูโร เทียบกับ 412 ล้านยูโรในปีที่แล้ว สำหรับ EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติของกลุ่มธุรกิจอยู่ที่ 110 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 66.7 เปอร์เซ็นต์จากตัวเลข 66 ล้านยูโรของปีที่แล้ว และ EBITDA Margin จากการดำเนินงานตามปกติสูงถึง 16.6 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับ 16.0 เปอร์เซ็นต์ในปีก่อนหน้า