เนื้อหาวันที่ : 2008-01-03 11:54:14 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 765 views

โฟกัสผู้ส่งออกไทยกับระบบ GSP สหภาพยุโรป

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดเผยว่า สหภาพยุโรปซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของไทย มีมูลค่าการค้าระหว่างกันปีละประมาณ 20,526 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2550 (เดือนมกราคม ตุลาคม) ไทยและสหภาพยุโรปมีมูลค่าการค้าระหว่างกันประมาณ 29,636 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในส่วนของ การส่งออกสินค้าไทยภายใต้ระบบสิทธิพิเศษ GSP สหภาพยุโรปในช่วง 10 เดือนแรกของปีนั้น

.

กรมฯ ได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า Form A ไปสหภาพยุโรปแล้ว เป็นจำนวนกว่า 162,489 ฉบับ หรือคิดเป็นมูลค่า 5,823.91 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หากพิจารณาเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าพบว่า การส่งออกของไทยภายใต้ Form A ของสหภาพยุโรป มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40.05 สำหรับสินค้าสำคัญที่มีการส่งออกภายใต้ Form A ของสหภาพยุโรปส่วนใหญ่ยังคงเป็นสินค้าในกลุ่มเครื่องปรับอากาศ รองเท้ากีฬา เลนส์แว่นตา สับปะรดกระป๋อง และผลิตภัณฑ์จากยางพารา เป็นต้น

.

นับตั้งแต่ระบบ GSP สหภาพยุโรปโครงการปัจจุบันได้เริ่มมีผลบังคับใช้ (วันที่ 1 มกราคม 2549) การส่งออกด้วย Form A ไปยังสหภาพยุโรปมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก นับเป็นความสำเร็จก้าวแรกของกรมฯ ในการประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้น ตลอดจนสร้างความเข้าใจให้กับผู้ส่งออกสนใจใช้สิทธิฯ เพิ่มขึ้น

.

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2551 กรมฯ จะยังคงผลักดันและส่งเสริมให้ผู้ส่งออกให้สนใจและเข้ามาใช้สิทธิพิเศษด้านภาษีศุลกากรในทุกๆ ระบบให้มากขึ้น เพื่อใช้เป็นแต้มต่อด้านการค้าและการส่งออก โดยกรมฯ จะยังคงดำเนินกิจกรรมประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในเชิงรุก ตลอดจนร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจัดประชุม/สัมมนาและ Workshop ประเด็นน่าสนใจต่างๆ อาทิ เรื่องกฎแหล่งกำเนิดสินค้า และมาตรการที่มิใช่ภาษี (NTBs) เป็นต้น อย่างไรก็ดี หากมีความเคลื่อนไหวหรือการปรับเปลี่ยนสาระสำคัญของการให้สิทธิ GSP สหภาพยุโรปหรือประเด็นอื่นใด ที่เกี่ยวข้องกับการได้สิทธิฯ ของไทยนั้น กรมฯ จะเร่งประชาสัมพันธ์และแจ้งหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ทราบต่อไป