แอสเพ็น เทคโนโลยี อิงค์ (Aspen Technology, Inc. (NASDAQ: AZPN) บริษัทผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ (Asset Optimization Software) ประกาศเปิดตัวเปิดตัวซอฟต์แวร์ aspenone® เวอร์ชัน 11 ที่จะเข้ามาช่วยลดช่องว่างของการทำงานในขั้นตอนการวางแผนและการปฏิบัติงานด้วยเทคโนโลยี Aspen GDOT พร้อมรวมการบำรุงรักษาแบบกำหนดล่วงหน้าเข้าไปในการวางแผนและการกำหนดเวลาได้เป็นครั้งแรกระหว่างทีมวิศวกร ผู้วางแผน ผู้วางตารางเวลาการทำงาน และผู้เชี่ยวชาญในด้านการบำรุงรักษา อีกทั้งยังจะช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากผลการวิเคราะห์ต่าง ๆ มาปรับปรุงการดำเนินงานและเพิ่มผลกำไร ลูกค้าจะสามารถรับรู้ถึงประสิทธิภาพและปริมาณงานที่สูงขึ้นได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
ซอฟต์แวร์ aspenone® เวอร์ชัน 11 เป็นนวัตกรรมใหม่จากการผสมผสานของซอฟต์แวร์ aspenONE® ที่ใช้ในการบริหารผลปฏิบัติงานของสินทรัพย์ในองค์กร (Asset Performance Management : APM) รวมกับ aspenONE® Engineering ซอฟต์แวร์ด้านวิศวกรรมและ aspenONE® Manufacturing ซอฟต์แวร์เพื่อการผลิตและชุดซอฟต์แวร์ซัพพลายเชน ซึ่งในโอกาสนี้แอสเพ็นเทคได้แนะนำซอฟต์แวร์ใหม่ Aspen GDOT เป็นเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพแบบไดนามิก ทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตขององค์กรในอุตสาหกรรมพลังงานและอุตสาหกรรมเคมีซึ่งมีสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่ซับซ้อน จึงช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกประหยัดค่าใช้จ่าย
ปีเตอร์ เรโนดส์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท ARC Advisory Group กล่าวว่า “การเพิ่มประสิทธิภาพในหน่วยงานพร้อม ๆ กันหลายแห่งมักจะเป็นเรื่องยากสำหรับองค์กรที่ดำเนินธุรกิจการกลั่นและการปิโตรเคมีหลายแห่งเนื่องจากโมเดลการทำงานมีความซับซ้อนสูง ในขณะที่โซลูชันการประสานการทำงานหลายหน่วยแบบไดนามิกของ Aspen GDOT นี้กลับใช้วิธีการที่เรียบง่ายกว่าด้วยการตรวจสอบข้อมูลแบบไดนามิกและการประมาณค่าพารามิเตอร์ที่จะช่วยให้เจ้าของผู้ประกอบการสามารถลดช่องว่างในการวางแผนและการกำหนดเวลาลงได้”
ชุดซอฟต์แวร์ aspenONE® Asset Performance Management (APM) เวอร์ชัน 11 ประกอบด้วยการทำงานด้านการบำรุงรักษาแบบกำหนดล่วงหน้า (Prescriptive Maintenance) ผสานเข้าไปในขั้นตอนการวางแผน (Planning) และการกำหนดเวลา (Scheduling) เพื่อเตือนถึงปัญหาสภาพของอุปกรณ์ในอนาคตและสภาวะที่สินทรัพย์อาจใช้งานไม่ได้และปัญหาด้านคุณภาพของสินทรัพย์ ทั้งนี้ ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่นี้จะช่วยปรับปรุงการวิเคราะห์ในกระบวนการดำเนินงานที่เป็นประเภทต่อเนื่องและเป็นชุด (Continuous and ฺBatch Operations) เพื่อช่วยระบุกระบวนการต้นทางและความแปรปรวนของคุณภาพที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องเพื่อปรับปรุงการใช้สินทรัพย์ให้คุ้มค่าและดียิ่งขึ้น
สำหรับองค์กรด้านวิศวกรรมและการก่อสร้างนั้น ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่นี้ให้ประโยชน์หลายประการ อันรวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพทางวิศวกรรม การเพิ่มผลกำไร การลดความเสี่ยงของโครงการ รวมถึงศักยภาพในการออกแบบและโครงการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ให้กับลูกค้าได้เร็วขึ้น นอกจากนี้สำหรับลูกค้าในธุรกิจเคมีและพลังงาน ซอฟต์แวร์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในโรงงานในแบบแบบเรียลไทม์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่ไซต์ที่ดีที่สุด ทั้งนี้ ซอฟต์แวร์รุ่น 11 จะช่วยอุตสาหกรรมสารเคมี โพลีเมอร์และยาในการออกแบบการปฏิบัติงานให้ตรงกับความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดี
แอนโทนิโอ ปิทรี ประธานและซีอีโอ บริษัท แอสเพ็นเทค กล่าวว่า “แอสเพ็นเทคมุ่งมั่นที่จะนำเสนอโซลูชันที่สามารถช่วยเพิ่มผลกำไรให้กับลูกค้าของเรามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นวัตกรรมที่อยู่ในโซลูชัน aspenONE 11 นี้จะช่วยเราสร้างคุณค่าที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มประสิทธิภาพหลายด้าน ซึ่งรวมถึงการรวมคุณสมบัติในการพยากรณ์ความผิดพลาดของอุปกรณ์ (Predictive Equipment Failure) เข้าไปในขั้นตอนการวางแผน การกำหนดเวลาการปฏิบัติงาน และการเพิ่มศักยภาพของ aspenONE® Engineering อีกด้วย ลูกค้าของเราล้วนรู้สึกตื่นเต้นกับความศักยภาพใหม่ ๆ ของซอฟต์แวร์ตัวนี้ ซึ่งเป็นการตอกย้ำศักยภาพของแอสเพ็นเทคในการสนับสนุนการปฏิรูปสู่ระบบดิจิทัลและความเป็นเลิศด้านการดำเนินงานของลูกค้าองค์กร”
Thailandindustrycom_official
