เนื้อหาวันที่ : 2007-12-21 11:45:18 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1686 views

เอสยูเอส สร้างโรงงานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่งแรกในโลก

เอสยูเอส ประเทศไทย ทุ่มสร้างโรงงานด้วยนวัตกรรมใหม่ไร้กำแพง แห่งแรกในโลก กว่า 330 ล้านบาท ใช้ระบบบานเกล็ดอลูมิเนียมขนาดใหญ่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า เตรียมสร้างขึ้นอีกเพื่อการผลิตแบบครบวงจร โดยใช้ชื่ออาณาเขตนี้ว่า "มินั่ม แลนด์" คาดแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2560

.

เอสยูเอส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทในเครือของ เอสยูเอส คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ออกแบบ พัฒนา ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนเครื่องจักร อุปกรณ์ที่ผลิตจากอลูมินั่มสำหรับแฟคตอรี่ ออโตเมชัน (เอฟเอ) นับได้ว่าเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าสูงมากที่สุดของเอสยูเอสในประเทศไทย กว่า 330 ล้านบาท

.

เอสยูเอสคาดว่า การเปิดดำเนินการของโรงงานนี้จะช่วยสร้างยอดขายเป็นจำนวน 200 ล้านบาท ภายในปีแรก และเอสยูเอสวางโครงการที่จะสร้างโรงงานใหม่เพิ่มขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้บนพื้นที่เดียวกันนี้ โดยมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 164 ไร่ เพื่อรวมเอาการผลิตทั้งหมดจากหลายแหล่งที่กระจายตัวมาอยู่รวมไว้ในพื้นที่เดียวกัน โดยอาณาเขตนี้ใช้ชื่อว่า "มินั่ม แลนด์" ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2560 จะคลอบคลุมการผลิตทั้งหมดอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่การผลิตเฟรมอลูมินั่มไปจนถึงการผลิตและประกอบอุปกรณ์เสริมชิ้นส่วนอื่น ๆ

.

เอสยูเอส คอร์ป มองว่าประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางหลักด้านการพัฒนาการค้าต่างประเทศของบริษัทในภูมิภาคเอเชีย และมีต้นทุนค่าแรงต่ำทำให้สามารถดึงดูดบริษัทผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์และเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มจำนวนมากขึ้น เอสยูเอส คอร์ป เริ่มเข้ามาในประเทศไทยในปี พ.ศ.2543 ด้วยการเริ่มสั่งผลิตแหวนสกรูจากโรงงานในไทย และในปี พ.ศ.2544 ได้สร้างโรงงานของตนเอง

.

ปัจจุบันทางบริษัทฯ มีบริษัทในเครือ 3 แห่งในจังหวัดลำพูน ที่ผลิตแหวนสกรูและแป้นหูช้างให้แก่เอฟเอ โดยโรงงานใหม่ที่เริ่มเปิดเดินเครื่อง 4 สายการผลิตนี้ จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มสมรรถภาพเอสยูเอสเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของเอฟเอและชิ้นส่วนต่าง  ๆในเชิงสถาปัตยกรรม

.

เอสยูเอส ประเทศไทย ในปัจจุบันมีการผลิตแหวนกรูเหล็กที่ถูกหลอมขึ้น (ผงสเตนเลส) และจะย้ายการผลิตนี้ไปที่โรงงานแห่งใหม่ ซึ่งได้ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมทำให้สามารถเพิ่มการผลิตแหนวสกรู แป้นหูช้าง ผลิตภัณฑ์พลาสติกขึ้นรูป และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ นอกจากนั้นบริษัทยังมีแผนที่จะย้ายเครื่องจักรจากบริษัทในเครืออีกสองแห่งในประเทศไทยไปที่โรงงานใหม่ในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า ซึ่งจะสามารถเพิ่มความสามารถในการผลิตต่อปีของบริษัทในประเทศไทยได้ถึงสามเท่าเมื่อเทียบกับกำลังการผลิตในปัจจุบัน

.

.

.

สำหรับการเปิดโรงงานแห่งใหม่ในบริเวณเดียวกันนี้ จะรวมเอาสายการผลิตชิ้นส่วนอลูมินั่มและชิ้นส่วนอื่น   เข้ามาอยู่ในบริเวณเดียวกัน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 10 ปี ข้างหน้า และจะครอบคลุมสายการผลิตที่เต็มรูปแบบครบวงจรมากขึ้น ตั้งแต่การผลิตเฟรมอลูมินั่มไปจนถึงการผลิตชิ้นส่วนเสริมอื่น ๆ รวมถึงการดำเนินการด้านการประกอบที่จะมีขึ้นภายใน อลูมินั่ม แลนด์ อีกด้วย

.

โรงงานแห่งใหม่นี้นี้ได้รับการออกแบบตามแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยคำนึงถึงทุกองค์ประกอบเพื่อให้โรงงานมีความเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยมากที่สุด ซึ่รวมทั้งการมีฝนตกชุก ตัวโรงงานมีโครงสร้างที่ออกแบบให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูง และจัดเป็นโรงงานแห่งแรกของโลกซึ่งกำแพงนอกถูกติดตั้งด้วยบานเกล็ดขนาดใหญ่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า

.

.

โรงงานแบบไร้กำแพงแห่งแรกในโลกที่ใช้ระบบบานเกล็ดอลูมินั่มขนาดใหญ่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า โดยติดตั้งไว้กับผนังของอาคารด้านนอก เพื่อช่วยให้การถ่ายเทของความร้อนที่เกิดขึ้นภายในโรงงานและการนำเอาอากาศเย็นจากภายนอกเข้าสู่ตัวอาคารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ วิธีการเปิดและปิดบานเกล็ดเพื่อสร้างความสอดคล้องกับสภาพอากาศ

.

ช่วยให้ปริมาณของแสงแดดและอากาศจากภายนอกสามารถถูกควบคุมได้โดยอิสระและส่งผลต่อให้อุณหภูมิในตัวโรงงานมีความเหมาะสมและสบายต่อการทำงานตลอดทั้งปี บานเกล็ดอลูมินั่มนี้ไม่เพียงได้รับการออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยมแล้ว แต่ยังมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อการผุกร่อนอีกด้วย รวมทั้งสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้โดยง่ายและเป็นวัสดุแบบถึ่งถาวร