คอนวูด เดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศ ล่าสุดจับมือเป็นพันธมิตรกับ Ever Stone บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างและวัสดุตกแต่งบ้านชั้นนำของเวียดนาม เพื่อกระจายผลิตภัณฑ์คอนวูดเข้าสู่ตลาดเวียดนาม มั่นใจเวียดนามมีกำลังซื้อสูงและมีศักยภาพที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
"คอนวูด" เดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศ ล่าสุดจับมือเป็นพันธมิตรกับ Ever Stone บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างและวัสดุตกแต่งบ้านชั้นนำของเวียดนาม เพื่อกระจายผลิตภัณฑ์คอนวูดเข้าสู่ตลาดเวียดนาม ‘ผู้บริหาร’ มั่นใจเวียดนามมีกำลังซื้อสูงและมีศักยภาพที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมชูกลยุทธ์การตลาด เน้นสร้างการรับรู้แบรนด์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อสอดคล้องกับเป้าหมายที่จะเป็น Business Partner กับกลุ่มลูกค้าโครงการ |
|
นายสุทธิพันธ์ วัชโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนวูด จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์วัสดุทดแทนไม้ชั้นนำของประเทศไทย ในเครือบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ กับบริษัท Ever Stone Ornament Corporation ประเทศเวียดนาม ในการแต่งตั้ง Ever Stone เป็นตัวแทนจัดจำหน่าย (Distributor) เพื่อกระจายผลิตภัณฑ์คอนวูดเข้าสู่ตลาดเวียดนาม ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่บริษัทฯ จะขยายตลาดต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ |
|
"ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดมาจากการที่คอนวูดไปร่วมออกบูธในงาน VIETBUILD 2007 งานมหกรรมเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ที่เน้นวัสดุก่อสร้าง ที่ประเทศเวียดนาม โดยบริษัทฯ มองว่าเวียดนามเป็นตลาดที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อสูงมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคาดว่าจะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้บริษัทฯ เห็นว่า Ever Stone เป็นบริษัทหนึ่ง ใน 5 บริษัทใหญ่ได้มาตรฐานของเวียดนามที่ทำธุรกิจเป็นผู้ผลิต จัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และวัสดุตกแต่งบ้าน จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ทำธุรกิจร่วมกัน" นายสุทธิพันธ์ กล่าว |
|
ปัจจุบัน สินค้าของคอนวูด แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก คือ ไม้เชิงชาย ไม้ระแนง ไม้บัวพื้น และไม้ผนังบังใบ รวมถึงกลุ่มสินค้าใหม่สำหรับตกแต่งภายในภายนอกบ้านและอาคาร อาทิเช่น ไม้บังตา ไม้บัวพื้น ไม้บัวร้อยสายไฟ และไม้รั้วแบบพฤกษา ซึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มหลังนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงนวัตกรรมใหม่ ที่เหมือนไม้ธรรมชาติพร้อมใช้งานได้หลากหลาย ไม่มีขีดจำกัด |
|
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คอนวูด กล่าวอีกว่า บริษัทฯ คงไม่ได้หวังจะได้กำไรในทันที แต่เรามุ่งหวังที่จะมีพันธมิตรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ร่วมกันพัฒนาตลาดให้เติบโตไปด้วยกัน ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะเวียตนามมีความพร้อม มีสารธารณูปโภคด้านการสื่อสารสะดวกครบครัน พร้อมทั้งมีความต้องการของผู้บริโภคด้านที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นมาก ตามความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ |
|
"ความร่วมมือครั้งนี้ นับเป็นนิมิตหมายที่ดีของบริษัทฯ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่คอนวูดได้เริ่มขยายฐานช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังตลาดต่างประเทศ เพราะที่ผ่านมาคอนวูดจะเน้นขายในประเทศผ่านตัวแทนจำหน่าย 95% ประมาณ 250 ราย และจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด ในรูปของโฮมเซ็นเตอร์ ประมาณอีก5% เป็นหลัก" นายสุทธิพันธ์ กล่าว |
|
ในส่วนของกลยุทธ์ส่งเสริมการตลาดนั้น บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นกับการสร้าง แบรนด์สินค้าคอนวูดต่อไป โดยแผนธุรกิจของคอนวูด จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ |
|
1.แผนการสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มลูกค้าเดิม เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดวัสดุทดแทนไม้ 2.แผนขยายตลาด เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย 3.แผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และประยุกต์ใช้สินค้าที่มีอยู่แล้วในรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างจากเดิม และ 4.พัฒนาบุคลากรทางการตลาดและการขายให้มีศักยภาพมากขึ้น |
|
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คอนวูด กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการสื่อสารเรื่องความเป็นเลิศด้านคุณภาพของไม้คอนวูด ซึ่งเราถือว่าเป็นคุณค่าผลิตภัณฑ์ เป็นหลัก รวมถึงการสร้างกิตติศัพท์ชื่อเสียงขององค์กรควบคู่ไปด้วย พร้อมกันนั้นเรายังได้เร่งรัดการเสริมสร้างความรู้ทางด้านเทคนิคของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้กับบุคลากรทุกคน อีกทั้งยังได้ค้นคว้าวิจัย เพื่อหาทางปรับปรุงคุณภาพ รูปลักษณ์ ของผลิตภัณฑ์ ทั้งขนาด สี และรูปแบบการนำไปใช้งาน ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าอยู่ตลอดเวลา |
|
"ลูกค้าโครงการเชื่อมั่นในคอนวูดมาก นับว่าเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ อยู่แล้ว ดังนั้นเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดทดแทนไม้ คอนวูดได้พัฒนาศักยะภาพทีมงาน .ให้เป็น Solution Team อย่างสมบูณณ์ เข้าไปวางสเปคและให้คำปรึกษางานในโครงการ ต่างๆ ทีมงานนี้ประกอบไปด้วย สถาปนิก วิศวกร นักออกแบบผลิตภัณฑ์และนักการตลาด เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของเจ้าของโครงการ สถาปนิก ผู้รับเหมาได้อย่างดีและรวดเร็ว โดยวางเป้าหมายไว้ว่าในอนาคตคอนวูดจะไม่ใช่เพียงบริษัท Supplier สำหรับงานโครงการอีกต่อไป แต่จะก้าวเข้าสู่ความเป็น Business partner อย่างเต็มตัว" นายสุทธิพันธ์ กล่าว |