เนื้อหาวันที่ : 2018-10-16 14:16:52 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1544 views

อะโดบีเปิดตัวครีเอทีฟคลาวด์เน็กซ์เจน (Next-Gen of Creative Cloud) ที่งาน MAX 2018

อัพเดตสำคัญสำหรับแอพเรือธง เปิดตัว Premiere Rush CC สำหรับโซเชียลวิดีโอ และพรีวิว Photoshop CC และ Project Gemini บน iPad เร่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเพิ่มมูลค่าบน Creative Cloud

ที่การประชุมด้านครีเอทีฟ Adobe MAX อะโดบี (Nasdaq:ADBE) เปิดตัวอัพเดตสำคัญสำหรับแอพพลิเคชั่น Creative Cloud รวมถึง Photoshop CC, Lightroom CC, Illustrator CC, InDesign CC, Premiere Pro CC และ Adobe XD พร้อมกันนี้ อะโดบียังได้เปิดตัว Adobe Premiere Rush CC ครั้งแรกกับแอพตัดต่อวิดีโอแบบครบวงจรที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้สร้างสรรค์โซเชียลมีเดีย ช่วยเพิ่มความสะดวกในการสร้างและแชร์วิดีโอบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น YouTube และ Instagram  นอกจากนี้ อะโดบียังเปิดพรีวิวเวอร์ชั่นใหม่สำหรับ iPad ในส่วนของแอพ Adobe Photoshop CC และ Project Gemini ซึ่งเป็นแอพวาดรูป นับเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของอะโดบีในการนำเสนอแอพประสิทธิภาพสูงที่ทำงานบนทุกหน้าจอได้อย่างไร้รอยต่อ

 

นายสก็อต เบลสกี้ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์และรองประธานบริหารฝ่าย Creative Cloud ของอะโดบี กล่าวว่า “วันนี้ เราได้เผยโฉมพอร์ตโฟลิโอของเน็กซ์ เจนเนเรชั่นแอพครีเอทีฟที่มอบคุณประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมแก่กลุ่มผู้ใช้ ด้วยการปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ด้านครีเอทีฟบนอุปกรณ์และแพลตฟอร์มที่หลากหลาย  อะโดบีมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องในแอพเรือธงของเรา ควบคู่ไปกับการขยายสู่เซ็กเมนต์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น การออกแบบประสบการณ์ (Experience Design) และการสร้างวิดีโอคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มโซเชียล รวมทั้งบุกเบิกสื่อรูปแบบใหม่ๆ เช่น ระบบสัมผัส เสียงพูด ระบบ 3D และ AR ส่งผลให้ Adobe Creative Cloud เป็นแพลตฟอร์มการสร้างสรรค์สำหรับทุกคนอย่างแท้จริง”

ขยายนวัตกรรมบนแอพพลิเคชั่นและบริการของครีเอทีฟ คลาวด์

อะโดบีเปิดตัวอัพเดตสำคัญสำหรับเดสก์ท็อปแอพพลิเคชั่น เช่น การทำงานของฟีเจอร์ Content-Aware Fill ใน Photoshop CC, การปรับปรุงประสิทธิภาพและเวิร์กโฟลว์บน Lightroom CC และ Lightroom Classic, ความสามารถในการออกแบบโดยใช้โฟโต้เรียลลิสติก, การไล่ระดับสีแบบ Freeform ใน Illustrator CC, ฟีเจอร์ Content-Aware Fit ใน InDesign CC, ความสามารถในการสร้างและทำให้หุ่นเคลื่อนไหวโดยใช้กล้องเว็บแคมและอาร์ตเวิร์กอ้างอิงในส่วน Characterizer ใน Character Animator, เอนจิ้นใหม่สำหรับการเรนเดอร์ ซึ่งช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการพรีวิวภาพเรนเดอร์ใน Dimension CC และฟีเจอร์การค้นหาแบบใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Sensei และคอนเทนต์สุดพิเศษใน Adobe Stock รวมไปถึงไลบรารีคลิปจาก GoPro  นอกจากนั้น อะโดบียังเปิดเผยว่า บริษัทฯ ตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมวิดีโอแอนิเมชั่นด้วยเวิร์กโฟลว์ใหม่ๆ และการผนวกรวมบนแอพต่างๆ เช่น Animate ไปยัง After Effects, Animate ไปยัง Character Animator และ Adobe XD ไปยัง After Effects

Adobe XD ซึ่งเป็นโซลูชั่น UX/UI แบบครบวงจรสำหรับการออกแบบเว็บไซต์และโมบายล์แอพ ประกอบด้วยความสามารถใหม่ๆ ที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของ Sayspring ซึ่งอะโดบีได้เข้าซื้อกิจการเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งจะช่วยให้นักออกแบบสามารถสร้างชิ้นงานต้นแบบของประสบการณ์และแอพสำหรับอุปกรณ์ที่ขับเคลื่อนด้วยเสียงพูด เช่น Amazon Echo  ความสามารถใหม่ๆ ด้านเสียงพูด รวมถึงการสั่งงานด้วยเสียงพูด และการเล่นเสียงพูด ช่วยให้นักออกแบบสามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ทรงพลัง ด้วยการสร้างต้นแบบหน้าจอและเสียงพูดที่รวมอยู่ในแอพพลิเคชั่นเดียว  ยิ่งไปกว่านั้น นักพัฒนายังสามารถใช้ Adobe XD API เพื่อสร้างปลั๊กอินและผนวกรวมแอพ เพื่อเพิ่มเติมฟีเจอร์ใหม่ๆ สร้างเวิร์กโฟลว์การทำงานแบบอัตโนมัติ และเชื่อมต่อ XD กับเครื่องมือและบริการต่างๆ ที่นักออกแบบใช้งานเป็นประจำ

ปลดปล่อยศักยภาพของผู้สร้างวิดีโอคอนเทนต์บนโซเชียลด้วย Premiere Rush CC

Premiere Rush CC ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับผู้สร้างวิดีโอออนไลน์ โดยผสานรวมการจับภาพ การตัดต่อที่ใช้งานง่าย การปรับแต่งสี เสียง และโมชั่นกราฟิก พร้อมการเผยแพร่อย่างไร้รอยต่อไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลชั้นนำ เช่น YouTube และ Instagram โดยทั้งหมดนี้รวมอยู่ในโซลูชั่นหนึ่งเดียวที่ใช้งานง่าย  ด้วย Premiere Rush CC ผู้สร้างคอนเทนต์ไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญด้านวิดีโอ สี และเสียง เพื่อที่จะเผยแพร่วิดีโอคุณภาพสูงระดับมืออาชีพ  Premiere Rush CC ใช้ประโยชน์จากพลังของ Premiere Pro CC และ After Effects CC พร้อมทั้งรองรับการเข้าถึงเทมเพลต Motion Graphics ที่ออกแบบอย่างมืออาชีพใน Adobe Stock เพื่อเริ่มต้นทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีฟีเจอร์ Auto-duck แบบคลิกเดียว ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Sensei เพื่อปรับแต่งเพลงและปรับระดับเสียง  นอกจากนี้ยังรองรับการเข้าถึงทุกที่ทุกเวลา ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างโปรเจ็กต์วิดีโอที่โดดเด่น ปรับแต่งเป็นพิเศษสำหรับการเผยแพร่บนแพลตฟอร์มโซเชียล โดยอาจสร้างอยู่บนอุปกรณ์เครื่องหนึ่ง และเผยแพร่จากอุปกรณ์อีกเครื่องหนึ่ง ด้วยประสบการณ์การใช้งานที่สอดคล้องกันทั้งบนเครื่องเดสก์ท็อปและโมบายล์

พรีวิวระบบภาพครีเอทีฟและแอพวาดรูปประสิทธิภาพสูงบนทุกอุปกรณ์

อะโดบีเปิดพรีวิวสองโมบายล์แอพรุ่นอนาคตที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อบุกเบิกการสร้างสรรค์ผลงานบนหลากหลายหน้าจอ พร้อมทั้งเสริมสร้างเวิร์กโฟลว์การทำงานบนเดสก์ท็อปแอพพลิเคชั่นเรือธงที่มีอยู่ของอะโดบี:

  • Photoshop CC บน iPad: ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อการใช้งานแบบสัมผัสที่ทันสมัย โดย Photoshop CC บน iPad จะมอบพลังและความแม่นยำของเวอร์ชั่นเดสก์ท็อป และให้ผู้ใช้สามารถเปิดและแก้ไขไฟล์ PSD แบบเนทีฟ โดยใช้เครื่องมือการแก้ไขภาพที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมใน Photoshop และประกอบด้วยแผงเลเยอร์ Photoshop ที่คุ้นเคย ด้วยการใช้ Photoshop CC บนหลากหลายอุปกรณ์ รวมถึงเวอร์ชั่นบน iPad ที่จะเปิดตัวในปี 2562 คุณจะสามารถเริ่มต้นการทำงานบน iPad และแก้ไขชิ้นงานครั้งแล้วครั้งเล่าได้อย่างไร้รอยต่อด้วย Photoshop CC บนเดสก์ท็อป โดยผ่านทาง Creative Cloud
  • Project Gemini: แอพใหม่ที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อเพิ่มความรวดเร็วให้กับเวิร์กโฟลว์การวาดภาพและระบายสีบนอุปกรณ์ต่างๆ โดย Project Gemini ซึ่งจะเปิดตัวเวอร์ชั่น iPad ในปี 2562 ผสานรวมภาพแรสเตอร์ (Raster), เวคเตอร์ (Vector) และพู่กันแบบไดนามิกที่แปลกใหม่เข้าไว้ในแอพเดียว ซึ่งออกแบบมาสำหรับการวาดรูปโดยเฉพาะ ทั้งนี้ Project Gemini จะช่วยให้ศิลปินสามารถใช้และซิงค์พู่กันที่ใช้งานเป็นประจำบน Photoshop และผลงานต่างๆ เข้ากับ Photoshop CC ได้อย่างไร้รอยต่อ

ปรับปรุงประสบการณ์อย่างเหนือชั้นด้วย Adobe Sensei

รีลีส 2019 ของครีเอทีฟ คลาวด์ นำเสนอฟีเจอร์และการปรับปรุงประสิทธิภาพซึ่งขับเคลื่อนด้วย Adobe Sensei โดยพัฒนาต่อยอดจากฟีเจอร์หลายสิบรายการที่ขับเคลื่อนด้วย Sensei และพร้อมใช้งานอยู่ในปัจจุบันสำหรับลูกค้าที่ใช้ Adobe Creative Cloud, Document Cloud และ Experience Cloud โดยฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย Sensei ในรีลีส 2019 มีดังนี้:

  • ขยายขีดความสามารถของฟีเจอร์ Content-Aware Fill ใน Photoshop CC ซึ่งช่วยเพิ่มความแม่นยำและการควบคุม เพื่อให้ผู้ใช้ประหยัดเวลาในการแก้ไขรูปภาพ
  • ฟีเจอร์ใหม่ Content-Aware Fit ใน InDesign CC ซึ่งตรวจจับรูปภาพอย่างชาญฉลาด และครอบตัดหรือปรับขนาดให้พอดีกับเฟรมภาพโดยอัตโนมัติ
  • การไล่ระดับสีแบบฟรีฟอร์ม (Freeform Gradients) ใน Illustrator CC ซึ่งรองรับการไล่ระดับสีอย่างเป็นธรรมชาติ
  • เครื่องมือใหม่ใน Character Animator CC นั่นคือ Characterizer ซึ่งปรับเปลี่ยนภาพบุคคลในสไตล์ต่างๆ ให้กลายเป็นตัวละครการ์ตูนที่มีชีวิตชีวา

ครีเอทีฟ คลาวด์รีลีสปี 2019 ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อให้ครีเอทีฟเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและประสบความสำเร็จได้มากขึ้น โดยมีการปรับปรุงประสิทธิภาพและประโยชน์ใช้สอยอย่างเป็นรูปธรรม รองรับการผนวกรวมแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพิ่มมากขึ้น พร้อมฟีเจอร์การประสานงานร่วมกันที่ใช้งานง่าย และการเข้าถึงไฟล์แอสเซ็ทและบริการต่างๆ อย่างรวดเร็วมากขึ้น  นอกเหนือจากฟีเจอร์ใหม่ๆ แล้ว อะโดบียังปรับปรุงการเริ่มต้น (Start) ภายในแอพ เพื่อให้ลูกค้าเริ่มต้นใช้งานแอพใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และค้นหาฟีเจอร์และความสามารถใหม่ๆ ของผลิตภัณฑ์ได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

การปรับปรุงเวิร์กโฟลว์เพิ่มเติมครอบคลุมถึงแผงคุณสมบัติ (Properties Panel) ที่สอดคล้องตามบริบทใน InDesign CC ซึ่งจะแสดงตัวเลือกตามวัตถุที่เลือก  นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เลิกทำ (Undo) และการปรับขนาดอัตโนมัติใน Photoshop CC, แถบเครื่องมือที่ปรับแต่งได้ใน Illustrator CC และ UI ที่ทันสมัยใน Bridge CC พร้อมด้วยความสามารถในการอัพโหลดไลบรารีจำนวนมาก และสมาชิก ครีเอทีฟ คลาวด์ ยังได้รับ Adobe Acrobat DC รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งรองรับการแชร์ผลงานในรูปแบบที่แปลกใหม่ รวมถึงการตรวจสอบแก้ไขและการอนุมัติผลงาน โดยไม่จำเป็นต้องส่งไฟล์แนบทางอีเมล หรือจัดการการควบคุมเวอร์ชั่น

เต็มอิ่มกับการพรีวิวอนาคตของงานดีไซน์

อะโดบีเปิดพรีวิว Project Aero ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้าง AR บนอุปกรณ์ที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้สร้างสามารถออกแบบประสบการณ์ Augmented Reality ได้อย่างเหนือชั้น  Project Aero เป็นแอพ AR รุ่นแรกที่สร้างขึ้นสำหรับนักออกแบบและศิลปิน และเปิดให้ชมตัวอย่างเป็นครั้งแรกบนเวทีการประชุมนักพัฒนาทั่วโลกของแอปเปิล ซึ่งจัดขึ้นเมื่อช่วงต้นปีนี้  Project Aero รองรับการนำเสนอประสบการณ์ AR ที่ยอดเยี่ยม ช่วยให้ครีเอทีฟสามารถวางดิจิทัลคอนเทนต์ไว้ในโลกแห่งความเป็นจริง  ในการประชุม Adobe MAX อะโดบีได้จัดแสดงร้านค้าปลีกแห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AR ซึ่งเผยให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าสนใจของประสบการณ์ด้านงานดีไซน์ที่ชวนดื่มด่ำ

เสริมสร้างขีดความสามารถให้กับลูกค้าองค์กร

อะโดบีเปิดเผยเกี่ยวกับการบูรณาการที่ลึกซึ้งมากขึ้นระหว่าง Creative Cloud และ Adobe Experience Cloud ซึ่งผสานรวมเวิร์กโฟลว์การทำงานของครีเอทีฟและนักการตลาดเข้าด้วยกัน โดยการผนวกรวมระบบดังกล่าวจะช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าถึงแอสเซ็ทใน Experience Manager ภายในแอพ Creative Cloud ได้อย่างง่ายดาย และสามารถใช้งานรูปภาพจาก Adobe Stock ได้ใน Experience Manager ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนคอนเทนต์ 3D ที่ออกแบบด้วย Dimension CC ได้ใน Experience Manager และเผยแพร่เป็นแอสเซ็ทด้านการตลาด

สำหรับข้อมูลสรุปเกี่ยวกับฟีเจอร์ทั้งหมด และภาพรวมของนวัตกรรมและฟีเจอร์ใหม่ๆ ใน Creative Cloud โปรดดูที่:

ราคาและการวางจำหน่าย

อัพเดตสำหรับซอฟต์แวร์เดสก์ท็อป Creative Cloud พร้อมใช้งานแล้วสำหรับสมาชิกทั้งหมดที่ใช้ Creative Cloud รวมถึงสมาชิกที่เป็นผู้ใช้ทั่วไป นักศึกษา ทีมงาน สถานศึกษา หน่วยงานราชการ และองค์กรธุรกิจ  ส่วนโมบายล์แอพของอะโดบีสามารถดาวน์โหลดได้จาก iOS App Store และ Google Play

Photoshop CC บน iPad, Project Aero และ Project Gemini บน iPad จะพร้อมใช้งานในปี 2562  ส่วน Spark Post บน Android ซึ่งก่อนหน้านี้เปิดให้ใช้งานรุ่นเบต้าแก่บุคคลทั่วไป ตอนนี้พร้อมใช้งานแล้วในรูปแบบของแอพเวอร์ชั่น 1.0 ใน Google Play store

โปรแกรมใหม่ Premiere Rush CC พร้อมใช้งานแล้วบน Windows และ macOS และผ่านทาง iOS App Store (จะพร้อมใช้งานใน Google Play store ในปี 2562) ภายใต้แผนบริการที่หลากหลาย ซึ่งปรับแต่งตามความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้า

  • Premiere Rush CC เปิดให้ใช้งานในราคา $9.99/เดือนสำหรับบุคคลทั่วไป, $19.99/เดือนสำหรับทีมงาน และ $29.99/เดือนสำหรับลูกค้าองค์กร นอกจากนี้ Premiere Rush CC ยังรวมเป็นส่วนหนึ่งของแผนบริการแบบทุกแอพ, สำหรับนักศึกษา และ Premiere Pro CC เพียงแอพเดียว และมาพร้อมกับที่เก็บข้อมูลบน CC ขนาด 100 GB โดยสามารถซื้อบริการที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติมสูงสุดถึง 10 เทราไบต์ (terabyte)
  • Premiere Rush CC Starter Plan: เปิดให้ใช้งานฟรี โดยจะให้ลูกค้าสามารถเข้าใช้งานฟีเจอร์ทั้งหมดของ Premiere Rush CC และใช้แอพบนเดสก์ท็อปและโมบายล์ ทั้งยังสามารถสร้างโปรเจ็กต์จำนวนไม่จำกัด และส่งออกได้ฟรีไม่เกิน 3 โปรเจ็กต์

เกี่ยวกับ Adobe MAX

การประชุม Adobe MAX รวบรวมมืออาชีพด้านครีเอทีฟ ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรม และคนดังระดับโลก  ผู้กล่าวสุนทรพจน์และผู้บรรยายในการประชุม MAX 2018 ประกอบด้วย รอน โฮเวิร์ด ผู้กำกับภาพยนตร์ที่เคยได้รับรางวัลออสการ์, นิโคลา สก็อต ศิลปินนักวาดการ์ตูนชื่อดัง, อัลเบิร์ต วัตสัน หนึ่งในช่างภาพที่มีผลงานโดดเด่นที่สุด และทิฟฟานี่ แฮดดิช นักแสดงตลกซึ่งทำหน้าที่เป็นพิธีกรในช่วง MAX Sneaks ซึ่งเป็นช่วงพรีวิวนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโดยฝ่ายวิจัยของอะโดบี  นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมการประชุม MAX จะได้สัมผัสพรีวิวตัวอย่างภาพยนตร์แอนิเมชั่นสไปเดอร์แมนของโซนี่ พร้อมการปรากฏตัวของ Questlove และลิลลี่ ซิงห์  นอกจากนี้ การประชุม MAX ยังรวบรวมบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างเช่น HP, CDW, เดลล์, กูเกิล, ซัมซุง และอินเทล รวมไปถึงแบรนด์ครีเอทีฟที่นำเสนอดีไซน์ล้ำสมัยอย่างเช่นอาดิดาส และโซนี่  สามารถรับชมไลฟ์สตรีมสำหรับการบรรยายพิเศษในการประชุม Adobe MAX ได้ที่นี่

เกี่ยวกับ Adobe Sensei

Adobe Sensei เป็นกรอบโครงสร้างและชุดบริการอัจฉริยะที่รวมอยู่ใน Adobe Cloud Platform ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการออกแบบและนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ  Adobe Sensei ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรข้อมูลและเนื้อหาคอนเทนต์จำนวนมหาศาลของอะโดบี รวมไปถึงความเชี่ยวชาญที่ลึกซึ้งของอะโดบีในด้านครีเอทีฟ การตลาด และเอกสาร ภายในกรอบโครงสร้างของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์/การเรียนรู้ของเครื่อง (Artificial Intelligence/Machine Learning) ที่ผสานรวมเข้าด้วยกัน  หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกไปที่ adobe.com/go/sensei

เกี่ยวกับอะโดบี

อะโดบีเปลี่ยนโลกผ่านประสบการณ์ด้านดิจิทัล รายละเอียดเพิ่มเติม www.adobe.com/sea

ติดตามอะโดบีผ่านเฟสบุ๊กที่ https://www.facebook.com/AdobeSEA/