เนื้อหาวันที่ : 2007-12-12 09:49:38 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1642 views

โกลว์ พลังงาน ชนะการประมูลโรงไฟฟ้าอิสระ มูลค่า 40,000 ล้านบาท

โกลว์ พลังงาน ชนะการประมูลโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน กำลังการผลิต 660 เมกกะวัตต์ ภายใต้โครงการประมูลโรงไฟฟ้าอิสระรอบใหม่สำหรับปี 2555

โกลว์ พลังงาน ชนะการประมูลโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน กำลังการผลิต 660 เมกกะวัตต์ ภายใต้โครงการประมูลโรงไฟฟ้าอิสระรอบใหม่สำหรับปี 2555 โดยบริษัทดังกล่าวมีกลุ่มบริษัทโกลว์เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 65 และ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) เป็นถือหุ้นร้อยละ 35

.

นายปีเตอร์ เทอร์โมท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโกลว์ กล่าวว่า "บริษัทรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นโรงไฟฟ้าอิสระแห่งแรกที่จะเริ่มดำเนินการในโครงการประมูลรอบนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวจะเพิ่มความหลากหลายของการใช้พลังงานในประเทศอันจะนำไปสู่ราคาค่าไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพและถูกลง

.

ซึ่งประชาชนชาวไทยจะได้รับประโยชน์จากอัตราค่าไฟที่ลดลงดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาน้ำมันสูงกว่า 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ดังนั้นความหลากหลายของการใช้พลังงานจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับประเทศไทยในขณะนี้"

 

โครงการดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนประมาณ 40,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณกลางปีหน้าและเปิดดำเนินการราวสิ้นปี 2554 โรงไฟฟ้าแห่งนี้จะตั้งอยู่ที่บริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งเปิดดำเนินการมากว่า 15 ปี และเป็นพื้นที่ที่ถูกกำหนดไว้ใช้ประกอบกิจกรรมของอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะ

.

ดังนั้นโครงการดังกล่าวจึงไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการดำเนินชีวิตของชุมชนที่อยู่อาศัยในบริเวณนั้นเพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริเวณดังกล่าวยังประกอบไปด้วยระบบสาธารณูปโภคหลายประเภท (อาทิเช่น ท่าเรือขนถ่ายถ่านหิน และระบบรับส่งน้ำ) ซึ่งจะเป็นการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรอบ และเป็นการสร้างประโยชน์ร่วมกันให้เกิดขึ้น

..

บริษัทเชื่อว่าโครงการของบริษัทจะได้รับการสนับสนุนและยอมรับจากประชาชนชาวไทยโดยทั่วไป เนื่องจากในด้านสิ่งแวดล้อมโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าถ่านหินที่สะอาดที่สุดในโลก ซึ่งไม่เพียงแต่จะมีระดับการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SOX) และก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NOX) ที่มีปริมาณต่ำกว่าระดับที่ธนาคารโลกและระเบียบของประเทศไทยกำหนดไว้อย่างมากแล้ว โครงการดังกล่าวยังผ่านเกณฑ์การปล่อยมลสารตามมาตรฐานนานาชาติที่เข้มงวดที่สุดสำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินอย่างเช่นเกณฑ์มาตรฐานของสหภาพยุโรป

.

นอกจากนี้โครงการดังกล่าวจะต้องทำสัญญาด้านการจัดสรรงบประมาณ โดยมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อเพิ่มพูนระดับการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นสำหรับชุมชนโดยรอบ อันได้แก่ การพัฒนาการศึกษา สุขอนามัย การพัฒนาอาชีพ การปรับปรุงคุณภาพชีวิต และการพัฒนาสังคม ซึ่งคาดว่าจะต้องสมทบทุนในกองทุนดังกล่าวราว 100 ล้านบาทต่อปี

.

และท้ายที่สุดเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบและข้อบังคับทางกฎหมายในการขอใบอนุญาตตามแผนการขยายกำลังการผลิตในส่วนของโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ ทางกลุ่มบริษัทยังต้องมีการลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อยมลสารจากโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันลง โดยปริมาณการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SOX) และก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NOX) จะลดลงต่ำกว่าระดับปัจจุบันอีกภายหลังการเปิดดำเนินการของโรงไฟฟ้าถ่านหินโรงใหม่

.

นอกเหนือจากโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกัน ซึ่งคาดว่าจะมีกำลังการผลิตประมาณ 250 – 350 เมกกะวัตต์ โดยจะเริ่มเปิดดำเนินการในเดือนกันยายน 2554 และใช้เงินลงทุนประมาณ 11,000 – 16,000 ล้านบาท

.

นายปีเตอร์ เทอร์โมท ยังกล่าวต่อไปว่า "กลุ่มปิโตรเคมีระยะที่ 3 จะก่อให้เกิดการขยายตัวและการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในบริเวณมาบตาพุด ซึ่งการขยายธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกันดังกล่าวจะสอดคล้องกับความต้องการไอน้ำและไฟฟ้าที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นของกลุ่มลูกค้าปิโตรเคมีของบริษัท ซึ่งอาจรวมถึงโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายย่อยจำนวน 1 หรือ 2 โครงการ ซึ่งจำหน่ายให้แก่ กฟผ. ที่มีกำลังการผลิตเท่ากับ 74 และ 90 เมกกะวัตต์"