เนื้อหาวันที่ : 2018-09-11 14:20:02 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1303 views

ไบโอเทค-สวทช. จับมือนครพนม เดินหน้า Plant Factory มุ่งสร้างเศรษฐกิจจากฐานทรัพยากรชีวภาพ ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และ จังหวัดนครพนม ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการสร้างมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจสมุนไพรไทย ส่งเสริมสังคมคุณภาพ และเตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุ”

การลงนามในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสร้างเครือข่ายในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาระบบการผลิตสมุนไพรคุณภาพด้วย Plant Factory รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตสมุนไพรแบบชีวอนามัยและการใช้สมุนไพรครบวงจร เพื่อการสร้างมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจสมุนไพรไทย  นอกจากนี้เป็นการส่งเสริมสังคมสุขภาพ และเตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ ที่สอดคล้องกับบริบทและชุมชนในพื้นที่บนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับประเทศ

ดร.สมวงษ์ ตระกูลรุ่ง ผู้อำนวยการศูนย์ไบโอเทค สวทช. กล่าวว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการจัดทำแผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย พ.ศ. 2560 - 2564 มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาการผลิตและใช้ประโยชน์สมุนไพรไทยอย่างมีคุณภาพ เต็มประสิทธิภาพ และครบวงจร จากความได้เปรียบของประเทศไทย จึงนำมาสู่การใช้และส่งออกสมุนไพรและผลิตภัณฑ์แปรรูป มูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านบาท ในปี 2558 ส่งผลให้อุตสาหกรรมสมุนไพร เป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงที่สามารถช่วยให้ประเทศไทยพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจฐานชีวภาพ ในการสนับสนุนอุตสาหกรรม Biocosmetics และ Biopharmaceutical ของประเทศ สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงบริบทที่คาดการณ์ว่าจะส่งผลต่อความยั่งยืนของระบบเศรษฐกิจและสังคมในอนาคตทั้งในส่วนของลักษณะการเจ็บป่วย และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ ส่งผลให้มีแนวคิดในการใช้สมุนไพรเพื่อเป็นทางเลือกในการรักษาโรคและเสริมสร้างสุขภาพ ซึ่งช่วยสร้างความมั่นคงทางด้านสุขภาพ และการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพอีกทางหนึ่งด้วย อย่างไรก็ตามการผลิตสมุนไพรจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงคุณภาพของวัตถุดิบสมุนไพร เพื่อให้มีคุณภาพที่ผ่านมาตรฐาน ไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ สารหนู โลหะหนัก และสารเคมีการเกษตร

“Plant Factory มีข้อดีในเรื่องของความสามารถผลิตพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงทั้งด้านอัตราการผลิต และการใช้ทรัพยากรในการผลิต และสามารถเพิ่มคุณภาพของพืชเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของผลผลิต เช่น การเพิ่มวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ สารสกัดที่ใช้เป็นยารักษาโรค หลายประเทศจึงมีการลงทุน Plant Factory เพื่อใช้สำหรับการผลิตพืชสมุนไพรมูลค่าสูง ไบโอเทค - สวทช. จึงมีแนวคิดในการนำ Plant Factory มาใช้ในการผลิตพืชสมุนไพร โดยการนำเทคโนโลยี Plant Factory มาใช้ในจังหวัดนครพนมนี้ ช่วยพัฒนาระบบการผลิตสมุนไพรของจังหวัดนครพนม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางสาธารณสุขจังหวัดนครพนม โดยโรงพยาบาลเรณูนคร ที่มีความโดดเด่นและเข้มแข็งในการใช้สมุนไพร เพื่อใช้ในโรงพยาบาลและกระจายในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลของจังหวัดนครพนม อยู่แล้ว ดังนั้นการใช้เทคโนโลยี Plant Factory ดังกล่าวนี้จะช่วยในการพัฒนาการผลิตวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพ และสามารถใช้ประโยชน์สมุนไพรไทยให้มีคุณภาพได้อย่างเต็มประสิทธิภาพครบวงจรมากยิ่งขึ้น เพื่อการสร้างมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจสมุนไพรไทย และเป็นการสร้างอาชีพแก่กลุ่มผู้สูงอายุจากโรงเรียนผู้สูงอายุนาราชควาย ที่จะเข้ามาร่วมมีบทบาทในโครงการนี้ด้วย ซึ่งถือเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ ที่สอดคล้องกับบริบทและชุมชนในพื้นที่บนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับประเทศ ตอบโจทย์ประเทศไทย 4.0” ผู้อำนวยการศูนย์ไบโอเทค สวทช. กล่าว

นายสมชาย วิทย์ดำรง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่เหมาะสมในการทำการเกษตร ส่งผลให้มีพืชสมุนไพรท้องถิ่นที่มีประโยชน์ เกิดภูมิปัญญาด้านการแพทย์พื้นบ้านที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้สมุนไพรรักษาโรค โดยจังหวัดได้มีการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้ามาใช้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจสมุนไพร ด้วยการส่งเสริมการพัฒนาสมุนไพรอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง สนับสนุนให้ชุมชนมีส่วนร่วม เพื่อสร้างโอกาสด้านอาชีพแก่ผู้สูงอายุ ด้วยกิจกรรมให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในการปลูกพืชสมุนไพร โดยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการสร้างมูลค่าเพิ่ม ปัจจุบันมีการส่งสมุนไพรให้กับผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน รวมถึงส่งให้กับโรงพยาบาลเรณูนคร ซึ่งเป็นแหล่งผลิตยาสมุนไพรให้แก่สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งภายในจังหวัดนครพนมกว่า 163 แห่ง และจังหวัดใกล้เคียง ด้านการแปรรูป ได้มีการส่งเสริมโรงงานแปรรูปสมุนไพรที่ได้มาตรฐาน GMP ที่โรงพยาบาลเรณูนคร มีมูลค่าการใช้ยาสมุนไพรในหน่วยบริการสาธารณสุขในปี 2561 ทั้งสิ้น 17,060,654 บาท และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ยาขมิ้นชัน  ฟ้าทะลายโจร ไพล รางจืด เป็นต้น

นายแพทย์พรพจน์ สารทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเรณูนคร กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลได้ผลิตสมุนไพรใช้เองในโรงพยาบาลและกระจายในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลของจังหวัดนครพนม มาเป็นเวลามากกว่า 20 ปี มีการส่งเสริมการปลูกและแปรรูปในท้องถิ่น เพื่อป้อนโรงผลิต และโรงพยาบาลได้ประกาศใช้ยาสมุนไพรทดแทนยาแผนปัจจุบัน โดยมุ่งผลิตยาสมุนไพรทดแทนยาแผนปัจจุบันตามประกาศบัญชียาหลัก เพื่อจะลดการนำเข้ายาแผนปัจจุบัน นอกจากนี้มีความต้องการขยายเป็นแหล่งผลิตสมุนไพรกระจายไปยังภาคอีสานและทั่วประเทศอีกด้วย โดยมีมูลค่าการใช้ยาสมุนไพรของโรงพยาบาล ปี 2561 ประมาณ 1,500,000 บาท สำหรับมาตรฐานวัตถุดิบสมุนไพรที่นำมาป้อนใช้ในโรงผลิตสมุนไพร ของ รพ.เรณูนคร นี้ ต้องได้มาตรฐานการปลูกที่ดี GAP (Good Agricultural Practice) แต่เนื่องจากในปัจจุบันมีความต้องการใช้วัตถุดิบสมุนไพรในปริมาณมาก ประกอบกับวัตถุดิบในชุมชนที่ผ่านมาตรฐาน GAP มีปริมาณน้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการของโรงผลิต จึงจำเป็นต้องรับซื้อจากบริษัทเอกชนรายใหญ่

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์สมุนไพรของโรงพยาบาลเรณูนคร จ.นครพนม