สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน สำหรับคอลัมน์ Special Report ฉบับนี้ เรามาไกลกันถึงฮ่องกงเลยทีเดียว อันเนื่องมาจากทางวารสารของเราได้รับเกียรติจากทาง สภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council) เชิญให้ไปเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นงานยิ่งใหญ่ระดับเอเชีย ที่มีชื่อว่า Hong Kong Electronics Fair จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 14-17 เมษายน 2549 โดยประเทศฮ่องกงจะมีการจัดงานนี้ขึ้นทุกปี ซึ่งช่วง 2-3 ปีหลังมานี้จะจัดปีละสองครั้ง ครั้งแรกจะจัดเป็น Spring Edition (ประมาณเดือนเมษายน) และอีกช่วงจะเป็น Autumn Edition (ประมาณเดือนตุลาคม) ของทุกปี

สำหรับงาน Hong Kong Electronics Fair (Spring Edition) ในปีนี้จัดขึ้นที่ Hong Kong Convention & Exhibition Centre โดยได้จัดขึ้นเต็มพื้นที่ ซึ่งสินค้าหลัก ๆ ที่นำมาแสดงในงานนี้นั้นส่วนใหญ่จะเป็นประเภทของสินค้ามัลติมีเดียทั้งหลาย เช่น เครื่องเล่น MP3, MP4, เครื่องเล่น DVD, อุปกรณ์ประเภท Audio & Visual สินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีภาพและเสียง, อุปกรณ์ถ่ายภาพที่เป็น Digital Imaging, Home Appliances, Office Automation, Healthcare Electronics, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, สินค้าประเภทแสงสว่าง, ผลิตภัณฑ์ทางด้านความปลอดภัย, อุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ และนอกจากนี้ยังรวมไปถึงบริษัทซึ่งให้บริการทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Manufacturing Services: EMS) อีกด้วย ในงานเดียวที่คุณจะสามารถสัมผัสได้กับสินค้าอันหลากหลายซึ่งมาพร้อมกับความทันสมัยและเทคโนโลยีต่าง ๆ อย่างครบครัน

 ร่วมแสดงความยินดีกับพิธีเปิดอันยิ่งใหญ่

โดยไฮไลต์ของงานในปีนี้จะแบ่งเป็น 3 ส่วนด้วยกันคือ ส่วนของ Hall of Fame โซนนี้จะรวมเอาสินค้าเด่น ๆ ไว้ด้วยกันอย่างมากมาย ผู้ออ กบ ูธในส่วนนี้ประมาณ 150 บริษัท พื้นที่ของ Hall of Fame นี้จะเป็นทำเลที่ดีเลิศ โดยผู้จัดจะกำหนดให้เป็นพื้นที่เพื่อใช้ในการแสดงผลิตภัณฑ์หรือผลงานในอดีตหรือจากการจัดงานที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง จึงไม่แปลกเมื่อท่านเดินเข้ามาในโซนนี้ ท่านจะพบกับความตื่นตาตื่นใจกับการตกแต่งบูธที่ยิ่งใหญ่อลังการ สินค้าแบรนด์ระดับพรีเมียม รวมทั้งรูปแบบและฟังก์ชั่นการใช้งานของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง

 ผู้สนใจลงทะเบียนเข้าชมงานกันอย่างคับคั่ง

Lighting Section โซนนี้ถือว่าเป็นน้องใหม่ของงานในปีนี้ซึ่งถูกจับแยกมาอย่างเป็นสัดส่วนเพื่อรองรับการเติบโตและพัฒนาขึ้นของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการให้แสงสว่าง โซนนี้ท่านจะได้พบกับผลิตภัณฑ์ระบบแสงสว่างที่ใช้ในงานทั่วไป แสงสว่างสำหรับอุตสาหกรรม ไฟสำหรับเทศกาลคริสต์มาส ตกแต่ง ระบบแสงสว่างสำหรับฉุกเฉินและความปลอดภัย ผลิตภัณฑ์แสงสว่างต่าง ๆ เช่น หลอดไฟ โคมไฟ รวมถึงเทคโนโลยีและระบบที่เกี่ยวกับแสงสว่างทั้งหมด

ICT Pavilion เต็มพื้นที่ของ Hall 5 ทั้งหมด เป็นแหล่งรวมของผลิตภัณฑ์ทางด้าน ICT มากมายอาทิเช่น ซอฟต์แวร์และโซลูชั่นต่าง ๆ ทั้งซอฟต์แวร์เพื่อการศึกษา หรือแม้แต่ซอฟต์แวร์เพื่อการบริหารองค์กร อุปกรณ์ทางด้านเน็ตเวิร์ก ระบบที่เป็นเทคโนโลยีเกี่ยวกับ E-Logistics & Retail, Digital Living หรือแม้แต่นวัตกรรมในอนาคต ที่จะมารองรับกับการเจริญเติบโตทางด้านการสื่อสารและเทคโนโลยี

บรรยากาศทั่วไปของแต่ละบูธ

ไฮไลต์อื่น ๆ ที่นอกเหนือจากที่กล่าวมานั้นก็คงจะเป็นเรื่องของการสัมมนา ที่จัดให้มีขึ้นภายในงานนี้อย่างหลากหลายหัวข้อซึ่งน่าสนใจทีเดียว อาทิเช่น Opportunities & Trend of Digital AV ที่กล่าวถึงในเรื่องของโอกาสและเทรนด์ของอุปกรณ์ประเภท AV ในรูปแบบของดิจิตอลในอนาคต, Pan-PRD Linuk/Open Source Development, Hong Kong-Korea ICT ซึ่งเป็นหลักสูตรสัมมนาเกี่ยวกับ ICT ระหว่างฮ่องกงและเกาหลี, EPC RFID Forum ที่พูดถึงแนวโน้ม การใช้งานและความเป็นไปได้ในอนาคตของ RFID เป็นต้น

ส่วนอีกหนึ่งไฮไลต์ในงานนี้ได้แก่ Metal Parts & Components Pavilion ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมการค้าเหล็กของฮ่องกง ในส่วนนี้ได้แสดงให้เห็นถึงผลิตภัณฑ์เหล็กในรูปแบบของชิ้นส่วน เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ใช้ รวมถึงการพัฒนาเพื่อรองรับกับการเติบโตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต

ตัวอย่างสินค้าประเภท MP3, MP4 และจอแสดงผลภาพ

สินค้าส่วนใหญ่ที่นำมาแสดงในงานนี้นั้นจะมาจากฝั่งประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี สวิตเซอร์แลนด์และสิงคโปร์ แต่ในส่วนของ ICT Pavilion นอกจากฮ่องกงเจ้าภาพแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ รวมถึงซอฟต์แวร์และโซลูชั่นจากหลายประเทศมาโชว์อย่างมากมาย เช่น จากออสเตรเลีย แคนาดา จีนแผ่นดินใหญ่ อินเดีย ไอร์แลนด์ เกาหลี มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ไต้หวัน อังกฤษหรือแม้แต่ไทย ก็เข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย

ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ยังคงมาแรงในปีนี้นั้น ก็คงจะหนีไม่พ้น เครื่องเล่น MP3 และ MP4 แต่ปีนี้นั้น เท่าที่สังเกตจะพบว่าผู้ผลิตบางเจ้าได้ฉีกรูปแบบเดิม ๆ ที่มีแค่การดูหนังฟังเพลงได้ภายในเครื่องเดียวมาเป็นการเพิ่มฟังก์ชั่นในรูปแบบของดิจิตอลมากขึ้น เช่น สามารถถ่ายภาพเป็นดิจิตอลไฟล์ได้ด้วย หรืออยู่ในรูปแบบใหม่ เช่น หมวกกันน็อก แว่นตา หรือนาฬิกาที่สามารถฟังเพลงจากไฟล์ MP3 ได้ อีกทั้งรูปแบบการดีไซน์ก็ทันสมัยลงตัวมากขึ้น มาพร้อมกับราคาที่ถูกลง สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น เป็นต้น 

จอแสดงผล ที่นำมาแสดงในงานนี้ ยังคงมาแรงไม่แพ้กัน ซึ่งจะมีทั้งแบบพลาสมาและแอลซีดีขนาดใหญ่ ให้ความละเอียดในการรองรับสัญญาณภาพสูง รูปลักษณ์การออกแบบที่ทันสมัยลงตัวเลยทีเดียว มาพร้อมกับราคาที่ถูกลง โดยเป้าหมายการตลาดของสินค้าประเภทนี้จะอยู่ในแถบอเมริกาและยุโรปเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งถ้าไม่ดูยี่ห้อ ผู้อ่านคงนึกถึงจอพลาสม่าแบรนด์ดัง ๆ จากแถบอเมริกาหรือยุโรปเป็นแน่แท้ ซึ่งก็ไม่แปลกครับ เพราะผู้ผลิตบางรายที่นำมาแสดงในงานนี้ก็ผลิตจำหน่ายให้อเมริกาและยุโรปอยู่แล้ว

USB หรือ Flash Driveทั้งที่เป็นผลิตภัณฑ์ของมันเอง หรือแม้แต่เป็นช่องเสียบที่อยู่ในผลิตภัณฑ์อื่นก็มีมากขึ้น เช่น เครื่องเล่น MP3 ในรถยนต์ อยู่ในเครื่องเล่นดีวีดี หรือโฮมเธียเตอร์ ก็หาดูได้ทั่วไปในงานนี้

เครื่องเสียง ทั้งเครื่องเสียงบ้าน โฮมเธียเตอร์ และเครื่องเสียงรถยนต์ รูปแบบของผลิตภัณฑ์ในปีนี้จะดูหลากหลายขึ้น ทันสมัยมากขึ้น แถมยังมีข้อเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เข้ามาเสริมให้ได้รับความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น เช่น มีช่องเสียบการ์ดสำหรับ MP3 ที่สามารถเสียบแล้วสามารถเลือกฟังก์ชั่นการฟังเพลงได้เลย ส่วนเครื่องเสียงรถยนต์ในงานนี้หลัก ๆ ก็ยังเป็นผลิตภัณฑ์จำพวกเฮดยูนิต เช่น วิดีโอซีดี เครื่องเล่น DVD ลำโพง และเพาเวอร์แอมป์

ตัวอย่างสินค้าประเภท เครื่องเสียง, DVD และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเรือน

สินค้าประเภท Home Appliance ก็มีให้เห็นกันมากมายในงานนี้ อาทิเช่น เครื่องดูดฝุ่น หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เตารีดทั้งแบบไอน้ำและธรรมดา พัดลมแบบธรรมดาและแบบไอน้ำ เครื่องปรับอากาศ กาต้มน้ำร้อน น้ำชากาแฟ เตาปิ้งบาร์บีคิว เครื่องปิ้งขนมปัง เครื่องปั่นน้ำผลไม้ เครื่องทำช็อกโกแลต ฯลฯ

สินค้าประเภท Healthcare Electronics ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ก็มีให้เห็นหลายเจ้าด้วยกัน อาจจะเป็นกระแสของการรักษาสุขภาพจะมีมากขึ้นก็เป็นไปได้ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้แก่ เครื่องวัดอุณหภูมิของร่างกายทั้งแบบสัมผัส และไม่สัมผัส เครื่องตรวจจับสภาพดินฟ้าอากาศ หรือแม้แต่ผ้าห่มให้ความอบอุ่นที่สามารถปรับความร้อนของฮีตเตอร์ได้ เป็นต้น

นอกจากสินค้าที่กล่าวมาแล้วนั้น ยังมีส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้องกับทางด้านอิเล็กทรอนิกส์เข้าร่วมงานด้วย เช่น ผู้ประกอบชิ้นส่วนทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ ผู้จัดทำบอร์ดอิเล็กทรอนิกส์ แกนเหล็ก ขดลวด คาปาซิเตอร์ ระบบปฏิบัติหรือแสดงผล เครื่องมือวัดและทดสอบต่าง ๆ อุปกรณ์ตรวจจับหรือเซนเซอร์ หรือแม้แต่อุปกรณ์หรือชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ก็มีให้เลือกชมกันอย่างจุใจ

  ตัวอย่างอื่น ๆ ที่น่าสนใจในงาน

นอกเหนือจากที่กล่าวมานั้น ยังมีสินค้าอีกมากมายครับที่เข้าร่วมแสดงในงานฮ่องกงอิเล็กทรอนิกส์ในครั้งนี้ ทั้งผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการสื่อสาร เช่น โทรศัพท์ทั้งมือถือและโทรศัพท์บ้าน ระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง อุปกรณ์บลูทูธ กล้อง

ดิจิตอล อุปกรณ์ตกแต่งที่เป็นเครื่องประดับแต่ทำด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สายไฟแบบเรืองแสง หรือแม้แต่ของกิ๊ฟช้อปต่าง ๆ ราคาไม่แพงมากนักก็มีให้เลือกชมเลือกหากันครับ

นอกจากการจัดงานแสดงสินค้าทางด้านอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ส่วนของงานสัมมนาก็เป็นอีกทางเลือก หนึ่ง ของผู้ที่เข้าร่วมชมงานจะได้รับความรู้และข่าวสารต่าง ๆ ในแวดวงหรือแนวโน้มของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต ในครั้งนี้หัวข้อที่โดดเด่นนั้นเน้นไปยังหัวข้อที่เกี่ยวกับ ICT เป็นส่วนใหญ่ อย่างเช่นในเรื่องของ RFID, ความร่วมมือกันทางด้าน ICT ระหว่างฮ่องกงและเกาหลี การพัฒนาของระบบซอฟต์แวร์ต่าง ๆ โอกาสและเทรนด์ของผลิตภัณฑ์ AV ในรูปแบบดิจิตอล หรือแม้แต่การเพิ่มมูลค่าธุรกิจด้วยการค้าแบบดิจิตอลและส่งผ่านระบบเน็ตเวิร์กทำได้อย่างไร เป็นต้น

บรรยากาศของการสัมมนา

จากการสังเกตและเยี่ยมชมงานในครั้งนี้ สินค้าส่วนใหญ่ที่ได้พบเห็นนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักชื่อมากนักในบ้านเรา แต่ถ้าสังเกตดี ๆ แล้วจะเห็นว่ารูปร่างหน้าตา การออกแบบหรือฟังก์ชั่นการใช้งานนั้น จะมีลักษณะที่เหมือนกับสินค้าแบรนด์ดัง ๆ ที่มาจากฝั่งยุโรปหรือญี่ปุ่นเลยทีเดียว ไม่แปลกครับ เพราะเนื่องจากปัจจุบันบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้ ทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตให้กับหลาย ๆ บริษัทในแถบยุโรป การถ่ายทอดเทคโนโลยีมาสู่ผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อของตนเองจึงมีอย่างหลากหลาย ข้อสำคัญก็คือ คุณภาพ ซึ่งหลายท่านในบ้านเราจะยึดติดกับสินค้าแบรนด์ดัง ๆ ที่มาจากฝั่งยุโรปหรือญี่ปุ่นทั้งที่มีแหล่งผลิตเดียวกันจากจีน ซึ่งคุณภาพก็ดีเหมือนกัน เหล่านี้เป็นต้น

ส่วนในเรื่องของมาตรฐานสินค้าที่ผลิตและจำหน่ายนั้น จะเห็นได้ว่าในปีนี้แต่ละเจ้า รวมถึงผู้จัดงานเองก็ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในเรื่องของมาตรฐานข้อกำหนดสินค้าปลอดสารอันตรายและซากขยะจากชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

(RoHS และ WEEE) ในส่วนของโรงงานผู้ผลิตบางรายได้มีการปรับเปลี่ยนสายการผลิตเพื่อรองรับกับข้อกำหนดเหล่านี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน แน่นอนว่า เมื่อมีการปรับเปลี่ยนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งจากทางฝั่งจีนหรือแม้แต่ฮ่องกงเองก็ตาม ความได้เปรียบในการแข่งขันก็มีมากเช่นเดียวกัน ในการที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดสากลในอนาคต

กลับมาดูปริมาณของผู้เข้าชมงานกันครับว่า แนวโน้มความสนใจของผู้ชมจะลดลงหรือไม่ จากรายงานการสรุปผลหลังจากสิ้นสุดการจัดงานในครั้งนี้นั้นโดยรวมแล้วมีผู้ให้ความสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมชมงานกว่า 50,000 คน ซึ่งมากขึ้นกว่าปีที่แล้วถึง 8.88% โดยสรุปอันดับผู้ให้ความสนใจเข้าชมงาน 10 อันดับนั้น คือ จีน ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา เกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อินเดีย ตุรกี สิงคโปร์ และอังกฤษ ตามลำดับ ซึ่งจากจำนวนและความเพิ่มขึ้นของผู้เข้าร่วมชมงานในครั้งนี้นั้น สามารถเป็นปัจจัยบ่งบอกได้ว่า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของเอเชียยังคงเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคอยู่เสมอ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของราคาที่ถูกลง ฟังก์ชั่นการใช้งานและเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น หรือแม้แต่มาตรฐานของตัวผลิตภัณฑ์เองที่ก้าวสู่ความทัดเทียมในตลาดสากลกันมากขึ้นก็เป็นไปได้

ภาพบรรยากาศเจรจาทางการค้า

จากรายงานพิเศษที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นแค่เพียงส่วน หนึ่ง ของงานเท่านั้นครับ สินค้าต่าง ๆ ที่นำมาแสดงในงานนั้นส่วนใหญ่จะนำหน้าบ้านเราอยู่ช่วงระยะเวลา หนึ่ง มาตรฐานของผลิตภัณฑ์ที่เป็นสากลมากขึ้น หรือแม้แต่ศักยภาพทางด้านเทคโนโลยีหรือการผลิตสินค้าต่าง ๆ นับวันจะมีคุณภาพสูงขึ้น ฮ่องกงมีศักยภาพค่อนข้างสูงในด้านเทคโนโลยี การค้าการลงทุน การขนส่งที่ทันสมัย การเดินทางสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งปัจจัยเอื้อเหล่านี้บางท่านอาจจะมองเห็นหนทางในการที่จะเข้าไปแสวงหาโอกาสเพื่อทำธุรกิจร่วมกันได้ครับ

ท่านใดสนใจเกี่ยวกับงานฮ่องกงอิเล็กทรอนิกส์ในครั้งนี้ สามารถคลิกเข้าไปได้ที่ http://hkelectronicsfairse.com หรือ http://www.tdctradefairs.com ซึ่งในเว็บไซต์นี้จะบอกรายละเอียดกับท่านเกี่ยวกับงานแสดงสินค้าของประเทศฮ่องกงครับ

ขอขอบคุณ