เนื้อหาวันที่ : 2018-03-21 09:17:14 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1733 views

อีตั้น อิเล็คทริค จัดงานโมบายเทคเดย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งแรกในไทย พร้อมเปิดตัว Power Defense™ เครื่องตัดกระแสไฟ รุ่นล่าสุด

อีตั้น อิเล็คทริค บริษัทจัดการพลังงานไฟฟ้าระดับโลก จัดโมบายเทคเดย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia Mobile Techday) ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมทั้งเปิดตัว Power Defense™ เครื่องตัดกระแสไฟแบบห่อหุ้มฉนวนมิดชิด หรือ MCCB (Molded Case Circuit Breakers) โซลูชั่นป้องกันไฟฟ้ารั่วรุ่นใหม่ ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาล่าสุดจากอีตั้น มาพร้อมกับมาตรฐานคุณภาพขั้นสูงในราคาที่เป็นมิตร เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารสูง พร้อมเชื่อมั่นตลาดในภูมิภาคนี้ยังโตต่อเนื่อง

มร.จิมมี่ ยัม รองประธานฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก ส่วนธุรกิจไฟฟ้า บริษัท อีตั้น อิเล็คทริค จำกัด กล่าวว่า อีตั้น อิเล็คทริค เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน ซึ่งก่อตั้งและมีประวัติศาสตร์มายาวนานถึง 107 ปี โดยดำเนินธุรกิจหลัก 2 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้า และ ธุรกิจด้านอุตสาหกรรม มีพนักงานทั้งสิ้นประมาณ 96,000 คน และให้บริการลูกค้าในกว่า 175 ประเทศทั่วโลก

การดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา อีตั้น อิเล็คทริค ได้ซื้อแบรนด์สินค้าระดับโลกที่มีคุณภาพและชื่อเสียง เข้ามาไว้ในกิจการหลายแบรนด์ด้วยกัน อาทิเช่น Moeller, Westinghouse, Cutler-Hammer, HOLEC, SANTAK, Powerware และแบรนด์น้องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งซื้อกิจการเข้ามาเมื่อปี พ.ศ.2555 คือ Cooper ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เสริมให้เรามีบทบาทแข็งแกร่งในธุรกิจน้ำมันและแก๊ส โดยแบรนด์สินค้าเหล่านี้จะกลายเป็น One Brand ภายใต้ชื่อการค้า EATON ซึ่งหากลูกค้าเคยใช้สินค้าเหล่านี้มาก่อน ก็จะสังเกตได้ว่าชื่อของสินค้าจะปรากฎเป็น Series (รุ่น) บนตัวสินค้าแทน

ในส่วนของธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้านั้น เรายังสามารถแบ่งประเภทสินค้าได้เป็น 7 กลุ่ม ได้แก่ Power Distribution & Circuit Protection, Control & Automation, Lighting & Security, Solutions for Harsh & Hazardous Environments, Backup Power Protection, Structural Solutions & Wiring Devices และ Engineering Services ซึ่งสินค้าเหล่านี้จะเข้าไปซัพพอร์ตเซคเมนต์ของภาคอุตสาหกรรมทั้งในส่วนของโรงงานและผู้ประกอบเครื่องจักร, คอมเมอร์เชียล, ดาต้าเซนเตอร์, ระบบสาธารณูปโภค รวมทั้งในกลุ่มของอาคารสำนักงานและที่พักอาศัย

นอกจากนี้ ธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยังมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยมีโรงงานทั้งหมด 17 แห่ง (กระจายอยู่ใน 4 ประเทศคือ จีน อินเดีย ไต้หวัน และฟิลิปปินส์) สำนักงานขาย 38 แห่ง และพนักงานมากกว่า 11,000 คน มีศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) 8 แห่ง ซึ่งมีนักวิจัยประมาณ 500 คน โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อีตั้น อิเล็คทริคใช้งบประมาณในการวิจัยและพัฒนา (R&D) คิดเป็นเงิน 2.8 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ปัจจุบันมีจำนวนสิทธิบัตรทั้งหมด 1,615 สิทธิบัตร

สำหรับยอดขายของอีตั้น อิเล็คทริคในปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2560) มีมูลค่ารวมสูงถึง 20.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มาจากธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้า 12.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และธุรกิจด้านอุตสาหกรรม 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีตลาดหลัก คือ ประเทศจีน คิดเป็นสัดส่วน 64%, อินเดีย 7%, ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ 10% ส่วนที่เหลือ 19% เป็นตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยลูกค้าส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่มของโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภค ผู้ประกอบเครื่องจักร กลุ่มธุรกิจน้ำมันและแก๊ส คอมเมอร์เชียลและอุตสาหกรรม คอนซูเมอร์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีสัดส่วนลูกค้าจากภาคเอกชน 60% และภาครัฐ 40%

ในปีที่ผ่านมา ประเทศที่เติบโตได้มากสุดก็คือ เวียดนาม และ อินโดนีเซีย เนื่องจากจีดีพีในประเทศมีการเติบโต จากการลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภคเป็นหลัก ส่วนการเติบโตในปีนี้ (พ.ศ.2561) คาดว่ายอดขายน่าจะยังคงเติบโตด้วยตัวเลขสองหลักดังเช่นปีที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดในภูมิภาคนี้มีการเติบโตต่อเนื่องในภาคการลงทุนต่าง ๆ เช่น ประเทศมาเลเซีย มีการลงทุนใน High Speed Rail เชื่อมต่อมายังประเทศสิงคโปร์ และ เกาหลีใต้ ซึ่งในปีนี้การเมืองภายในประเทศมีความสงบลง คาดว่าการลงทุนภายในประเทศน่ากลับมาคึกคักขึ้น

ส่วนปัจจัยที่ทำให้ตลาดมีการเติบโตนั้น เป็นผลมาจากตลาดมีการเติบโตด้วยตัวเองจากภาคการลงทุนอีกทั้งอีตั้น อิเล็คทริค อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องกับตลาด นอกจากนี้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เราได้มีการลงทุนทางด้านบุคลากรเพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับลูกค้าได้อย่างเต็มที่มากขึ้น

มร.จิมมี่ ยัม กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา ตลาดประเทศไทยเติบโตด้วยตัวเลขสองหลักสอดคล้องกับตลาดภูมิภาค และเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญเป็นลำดับต้น ๆ ของอีตั้น อิเล็คทริค ด้วยการเติบโตอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่องของธุรกิจระบบไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรมตลอดหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ นโยบายจากภาครัฐในการสร้างและปรับปรุงรางรถไฟ การคมนาคมขนส่งทั้งอากาศและทางน้ำ ซึ่งจะใช้งบประมาณกว่า 18,900 ล้านบาท การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ GDP ของประเทศเติบโตในระดับ 0.3 ถึง 1% ในแต่ละปี และยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการลงทุนจากภาคเอกชนให้สูงขึ้น โครงการพัฒนาระดับมหภาคต่าง ๆ เหล่านี้ จะช่วยต่อยอดและสร้างความเติบโตในหลายภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่ อุตสาหกรรมการก่อสร้าง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ไปจนถึงธุรกิจการบินเชิงพาณิชย์ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจโรงแรมและการขนส่ง”

“อีตั้นครองส่วนแบ่งทางการตลาดที่น่าพอใจในธุรกิจจัดการพลังงานในประเทศไทย นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่สุดก็คือวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชนรวมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น ด้วยนวัตกรรมและโซลูชั่นที่ช่วยให้พลังงานมีความเสถียร มีประสิทธิภาพ ไว้วางใจได้และปลอดภัยแก่ผู้ใช้งาน พร้อมช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ แต่ยังคงประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ” มร.ยัม กล่าวเสริม

นอกจากนี้ ในส่วนภาพใหญ่ของธุรกิจ อีตั้น อิเล็คทริค ยังได้มีการวางแผนงานเพิ่มหน่วยธุรกิจทางด้านรถไฟฟ้าขึ้นมา ภายใต้ชื่อ e-Mobility ด้วยเล็งเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของรถไฟฟ้าที่จะมาแทนรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันในอนาคต ซึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้จะเป็นเทคโนโลยีทางด้านกักเก็บพลังงานไฟฟ้า (Energy Storage) ซึ่งอีตั้น มีความพร้อมทางด้านนี้อยู่แล้ว

มร.จิมมี่ ยัม ยังกล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดในภูมิภาคยุโรปได้ให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานหมุนเวียนเป็นอย่างมาก Energy Storage จึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยกักเก็บพลังงานไฟฟ้า ยกตัวอย่างของบ้านเรือนในยุโรป ได้มีการเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ในช่วงเวลากลางคืน เพื่อนำมาเฉลี่ยใช้ในช่วงกลางวันที่มีการใช้ไฟฟ้าในปริมาณสูง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องของไฟฟ้าไปได้ นอกจากนี้ ในส่วนของอีตั้น ก็ยังได้มีโครงการร่วมกับ สนามฟุตบอลแมนเซสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการนำเอา Energy Storage มาใช้ภายในสนามฟุตบอล ทำให้ประหยัดพลังงานไฟฟ้าไปได้ปริมาณมาก

มร.จิมมี่ ยัม กล่าวถึงการจัดงานโมบายเทคเดย์ฯ ที่ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่จังหวัดภูเก็ตตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคมถึง 14 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมาว่า การจัดงานครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีตั้น ได้มีการออกแบบโมบายเทคเดย์ในรูปแบบ ตู้คอนเทนเนอร์ โดยเปิดโอกาสให้หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ พันธมิตรทางธุรกิจและประชาชนทั่วไปได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ รวมทั้งสัมผัสนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของอีตั้น ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการและสามารถจัดการความท้าทายในการบริหารพลังงานระดับโลกได้เป็นผลสำเร็จ

ภายในตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 11 ตารางเมตร อีตั้นได้มีการติดตั้งผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ช่วยบริหารพลังงานไฟฟ้าซึ่งอีตั้นเป็นผู้ออกแบบวางระบบให้เหมาะกับธุรกิจอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่สำคัญ อาทิ ดาต้าเซ็นเตอร์ อุตสาหกรรมผลิตเครื่องจักร และอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยจะสลับสับเปลี่ยนหรือมีการเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นภายในตู้คอนเทนเนอร์ให้เหมาะสมกับพื้นที่หรือภูมิภาคที่จะนำไปจัดแสดงอีกด้วย

โดยหลังจากจัดแสดงที่ภูเก็ต โมบายเทคเดย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของอีตั้น จะเดินทางไปตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศไทยจนถึงสิ้นเดือนเมษายน อาทิ กรุงเทพฯ สระบุรี สุราษฎร์ธานี หาดใหญ่ และหัวเมืองหลักในภาคเหนือและภาคตะวันออกก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย

พร้อมกันนี้ ภายในงาน โมบายเทคเดย์ฯ อีตั้นยังได้มีนำเสนอ Power Defense™ ซึ่งเป็นเครื่องตัดกระแสไฟแบบห่อหุ้มฉนวนมิดชิด หรือ MCCB (Molded Case Circuit Breakers) ที่มาพร้อมเทคโนโลยีประมวลผลระดับจุลภาค และชุดคำสั่งที่ได้รับการพัฒนาล่าสุดเพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้งานเมื่อระบบจ่ายไฟจำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนตัวเครื่อง นอกจากนี้เครื่องตัดไฟตัวนี้ยังสามารถเก็บข้อมูลและมีระบบแจ้งเตือนผู้ใช้งานให้ควบคุมและสั่งการจากระยะที่ปลอดภัย โดยที่กระแสไฟฟ้ายังสามารถทำงานได้ตามปกติ Power Defense™ มีการรับประกันจากอีตั้นทั่วโลก  โดยผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ จะยังคงมาพร้อมกับมาตรฐานคุณภาพขั้นสูงจากอีตั้น ในราคาที่เป็นมิตรมากขึ้น ซึ่งจะเข้ามาเติมเต็มตลาดกลุ่มลูกค้าระดับกลาง (Mid-Range) สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารสูง

ผลิตภัณฑ์เด่นของอีตั้น ในงานโมบายเทคเดย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เครื่องตัดกระแสไฟฟ้า Power DefenseTM

Power Defense™ เป็นเครื่องตัดกระแสไฟแบบห่อหุ้มฉนวนมิดชิดหรือ MCCB (Molded Case Circuit Breakers) รุ่นใหม่ล่าสุดจากอีตั้น ที่จะช่วยคุ้มครองทรัพย์สินและของมีค่าต่าง ๆ ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ Power Defense™ ได้รับการยอมรับจากมาตรฐานในระดับสากล มอบความมั่นใจให้ทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ฐานการผลิตแห่งใหม่หรือส่วนต่อเติมเพื่อขยายความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่น โรงงานสีเขียวแห่งอนาคตหรืออาคารสูงแห่งใหม่ Power Defense™ จะทำหน้าที่เสมือนผู้ดูแลและคุ้มครองผลงานทางความคิดที่ได้กลายมาเป็นรูปธรรมแล้วของคุณได้อย่างปลอดภัย ระบบควบคุมและลดประกายไฟฟ้า Arc Flash Reduction Maintenance SystemTM มอบความอุ่นใจในการทำงานของผู้ใช้งาน โดยการลดอันตรายและประกายไฟฟ้าที่อาจเกิดขึ้นได้จากระดับแรงดันของกระแสพลังงาน ผู้ใช้งานสามารถเปิดใช้ระบบนี้ได้จากระยะห่างอย่างปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปปรับแก้โดยตรงที่เครื่องตัดกระแสไฟ

 

เครื่องสำรองไฟฟ้าอีตั้น รุ่น 93PR

เครื่องสำรองไฟฟ้าและปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ (UPS) จากอีตั้นรุ่น 93PR เป็น UPS แบบโมดุลระดับชั้นนำมาตรฐานโลกที่สามารถนำไปใส่ทดแทน เสริม และปรับขนาดได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน ให้ประสิทธิภาพสูงสุดในระดับต้นทุนการเป็นเจ้าของที่ต่ำที่สุด ช่วยยกระดับสมรรถภาพ ความปลอดภัย ความยืดหยุ่น และเพิ่มความสามารถในการปรับขนาดไปสู่อีกขั้น โหมด Double Convention จะมอบประสิทธิภาพได้เหนือกว่า 96% ของมาตรฐานขั้นสูงของอุตสาหกรรม และแตะที่ระดับ 99% ได้ด้วยเทคโนโลยี ESS ของอีตั้น นอกจากนี้เมื่อใช้ควบคู่กับซอฟต์แวร์โซลูชั่นเพื่อการควบคุมและระบบจัดการอันชาญฉลาดของอีตั้น คุณจึงมั่นใจได้ว่า Eaton 93PR จะมอบความมั่นใจได้อย่างแน่นอน ว่างานที่สำคัญของคุณจะสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพ

  

Eaton Micro Data Center & PoE (Power over Ethernet)

Micro Data Center ของอีตั้น มอบโซลูชั่นในการจัดเก็บเครื่องมือทางไอทีที่ง่ายต่อการติดตั้ง สำหรับการทำงานในรูปแบบประมวลผลที่ขอบของคลาวด์ (Edge of Cloud) คุณสามารถจัดเรียงตำแหน่งอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการองค์ประกอบและชิ้นส่วนต่าง ๆ มีอยู่ในคลังสินค้าในภูมิภาคเพื่อให้สามารถทำการจัดส่งได้อย่างรวดเร็ว และเริ่มใช้งานได้ทันที โซลูชั่นที่ครบวงจรนี้ไม่เพียงแต่จะประหยัดค่าใช้จ่ายด้านฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ แต่ยังลดความจำเป็นในการติดตั้งเครื่องทำความเย็นไว้ในห้องเซิร์ฟเวอร์ ตลอดจนช่วยเพิ่มระยะเวลาที่เครือข่ายสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ (Network Up-time) ได้สูงสุด

 

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอีตั้น

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ช่วยประหยัดเวลา พื้นที่ และพลังงาน ปัจจัยสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่เป็นตัวกำหนดระดับประสิทธิภาพของ UPS ก็คือ คุณภาพของแบตเตอรี่ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ผลักดันให้อีตั้นคิดค้นและพัฒนาทางเลือกใหม่เพื่อมาทดแทนแบตเตอรี่ VRLA (Valve Regulates Lead Acid) ที่ใช้กันมาอย่างยาวนานจนเป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรม แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนของอีตั้น มอบทางเลือกที่มีความปลอดภัย และมีเสถียรภาพสูงกว่า สำหรับนำไปใช้งานร่วมกับระบบ UPS ประโยชน์ที่ได้จึงมีมหาศาล อาทิ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น น้ำหนักที่เบาลง ใช้พื้นที่น้อยลง และระยะเวลาประกันคุ้มครองที่เพิ่มมากขึ้น