เนื้อหาวันที่ : 2017-10-17 15:51:49 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1392 views

AddVentures โดยเอสซีจีลงทุนต่อเนื่อง หนุน “Vertex Ventures” ต่อยอดสตาร์ทอัปศักยภาพอาเซียนปั้นธุรกิจใหม่เอสซีจี

AddVentures โดยเอสซีจีเดินหน้ Fund of Funds ต่อเนื่อง ลงทุนใน “Vertex Ventures” กองทุนระดับเวิลด์คลาสในอาเซียน หวังคัดกรองการลงทุนสตาร์ทอัปศักยภาพเพื่อต่อยอดสร้างธุรกิจใหม่เอสซีจี พร้อมช่วยยกระดับสตาร์ทอัปอีโคซิสเต็มในภูมิภาค

ดร.จาชชัว แพส กรรมการผู้จัดการ AddVentures ปิดเผยว่า AddVentures ได้เดินหน้าการลงทุนในลักษณะ Fund of Funds อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกำลังอยู่ระหว่างเข้าลงทุนใน Vertex Ventures SEA Fund III กองทุนที่ 3 ของ Vertex Ventures ที่มุ่งลงทุนสตาร์ทอัประดับ Series A ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย และเป็นหนึ่งในกองทุนที่มีขนาดกองทุนใหญ่อันดับต้น ๆ ของอาเซียนขณะนี้ โดยใช้ความชำนาญ ข้อมูลวิจัยเชิงลึก และการดำเนินการที่สร้างมูลค่าเพิ่มผ่านเครือข่ายของทีมงาน

สาเหตุที่เราเลือกลงทุนใน Vertex Ventures เนื่องจากเป็น Venture Capital ที่มีผลการดำเนินงานที่ดี กองทุน 2 กองแรกคัดกรองการลงทุนสตาร์ทอัปได้อย่างดีเยี่ยม จนมีสตาร์ทอัปที่แข็งแกร่งและน่าสนใจหลายรายใน Portfolio ขณะเดียวกัน Vertex Ventures ยังมีทิศทางการลงทุนในสตาร์ทอัป Disruptive Technology ระดับ Early-stage อดคล้องกับทิศทางของ AddVentures” ดร.จาชชัวกล่าว

นอกจากนี้ Vertex Ventures ยังมีเครือข่ายของบุคคลที่มีความรู้และประสบการณ์ในวงการเทคโนโลยีและ Venture Capital อย่างกว้างขวาง มีกองทุนภายใต้การบริหารทั้งในอิสราเอล สหรัฐอเมริกา และจีน ซึ่ง Vertex Ventures ยังได้สร้าง Venture Capital Platform กับ General Partners (GPs) รายต่าง ๆ ในแต่ละประเทศอีกด้วย

ดร.จาชชัวกล่าวอีกว่า Vertex Ventures SEA Fund III ถือเป็นกองทุนแรกของ Vertex Ventures ที่เปิดโอกาสให้ Limited Partner (LPs) จากภายนอกเข้าลงทุน มีวิธีการดำเนินงานคือเลือกลงทุนในสตาร์ทอัปศักยภาพ 20 รายตลอดระยะเวลากองทุน และสร้างโอกาสการลงทุนรอบถัดไป (Follow-on Round) ในบริษัทที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตสูง คาดว่าการลงทุนครั้งนี้จะสามารถเอื้อประโยชน์ให้กับการร่วมลงทุน (Co-investment) ของ AddVentures ในระดับ Series A ได้ต่อไป

ทั้งนี้ AddVentures ยังคงมองถึงโอกาสการเข้าถึงสตาร์ทอัปที่มีนวัตกรรมด้าน Enterprise ผ่านการสร้างความร่วมมือเชิงพาณิชย์ (Commercial Deal) อาจพิจารณานำนวัตกรรมเหล่านั้นมาต่อยอดเป็นธุรกิจกับธุรกิจหลักหรือสร้างเป็นธุรกิจใหม่ของเอสซีจีอีกด้วย เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลดีต่อทิศทางของ AddVentures และเอสซีจี ตลอดจนมีส่วนช่วยยกระดับการเจริญเติบโตของสตาร์ทอัปอีโคซิสเต็มในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ก่อนหน้านี้ AddVentures เพิ่งประกาศการลงทุนในลักษณะ Fund of Funds ก้อนแรกใน Wavemaker SEA Fund II กองทุนที่ 2 ของ Wavemaker Partners ซึ่งเป็นกองทุนชั้นนำที่มีเครือข่ายระดับโลกอีกกองทุนหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อต่อยอดการลงทุนสตาร์ทอัปด้าน B2B ในภูมิภาค

สำหรับ AddVentures โดยเอสซีจีเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อตั้งขึ้นภายใต้วัตถุประสงค์หลักคือส่งเสริมศักยภาพและลงทุนในสตาร์ทอัปทั้งไทยและทั่วโลกเพื่อให้เอสซีจีสามารถเชื่อมโยงนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน รวมทั้งยังทำให้ผู้บริโภคได้ใช้สินค้าและบริการที่ดีขึ้น รวดเร็วขึ้น ตอบโจทย์การยกระดับคุณภาพชีวิตให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น มีแผนในการลงทุนทั้งการลงทุนผ่านกองทุน (Venture Capital) และการลงทุนโดยตรง (Direct Investment) ในสตาร์ทอัปทั้งในไทย อาเซียน และศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของโลก เช่น ซิลิคอนวัลเลย์ ประเทศสหรัฐอเมริกาเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอลเสิ่นเจิ้น ประเทศจีน ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. Enterprise 2. Industrial และ 3. B2B ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจหลั 3 กลุ่มของเอสซีจี ได้แก่ 1. ธุรกิจซิเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง 2. ธุรกิจเคมิคัลส์ และ 3. ธุรกิจแพ็กเกจจิง

สตาร์ทอัปทั่วโลกที่สนใจร่วมงานกับ AddVentures สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.addventures.co.th และ facebook.com/AddVenturesbySCG หรือ  LinkedIn: AddVentures by SCG