เนื้อหาวันที่ : 2007-10-04 07:23:02 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1791 views

ปิยสวัสดิ์ ยันปล่อยลอยตัวก๊าซหุงต้ม กลางเดือนธ.ค.นี้

"ปิยสวัสดิ์" ปลอบใจลอยตัวก๊าซหุงต้ม กลางเดือนธ.ค.นี้ ไม่ส่งผลกระทบค่าใช้จ่ายประชาชนมากนัก เพราะกระทรวงพลังงาน จะลดการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในอัตรา 50 สตางค์/ลิตร ส่วนราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลง ส่งผลให้คาดว่าราคาน้ำมันสัปดาห์นี้ จะไม่ขยับขึ้น

"ปิยสวัสดิ์" ปลอบใจลอยตัวก๊าซหุงต้ม กลางเดือนธ.ค.นี้ ไม่ส่งผลกระทบค่าใช้จ่ายประชาชนมากนัก เพราะกระทรวงพลังงาน จะลดการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในอัตรา 50 สตางค์/ลิตร ส่วนราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลง ส่งผลให้คาดว่าราคาน้ำมันสัปดาห์นี้ จะไม่ขยับขึ้น

.

ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังร่วมงานการก่อตั้งกระทรวงพลังงาน ครบรอบ 5 ปี โดยกล่าวถึงการลอยตัวก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ว่า ยังคงเป็นไปตามแผนงานที่ประกาศไว้คือ จะลอยตัวในปลายปีนี้ ที่จะเป็นช่วงที่หนี้สินสุทธิของกองทุนน้ำมันฯ เป็นศูนย์ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมเป็นต้นไป โดยเชื่อมั่นว่า การลอยตัวครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อและรายจ่ายของประชาชนมากนัก

.

เพราะรายจ่ายหลักที่เป็นต้นเหตุเงินเฟ้อจะมาจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น แต่หลังจากใช้หนี้เงินกองทุนน้ำมันฯ หมดลงไป ก็จะมีการลดการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯ ลงในอัตรา 50 สตางค์/ลิตร จึงทำให้ค่าใช้จ่ายหลักของครัวเรือนลดลงด้วย ขณะเดียวกัน จะมีเงินกองทุนน้ำมันฯ ในอัตราประมาณ 50 สตางค์/ลิตร ไปใช้ในเรื่องการก่อสร้างรถไฟฟ้าในอนาคต ช่วยลดการนำเข้าน้ำมัน และคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ก็ระบุชัดเจนว่า หากเงินกองทุนมีเพิ่มถึงระดับ 10,000 ล้านบาท ในอนาคต ก็สามารถนำเงินส่วนเพิ่มไปสร้างรถไฟฟ้าได้ จากอัตราเดิมที่ 50 สตางค์/ลิตร

.

 ส่วนกรณีราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า นับเป็นข่าวดีที่จะทำให้คาดว่า ราคาขายปลีกในประเทศปลายสัปดาห์นี้ อาจจะไม่ต้องขยับขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ค้าน้ำมันจะพิจารณา อย่างไรก็ตาม ภาวะราคาน้ำมันก็ยังอยู่ในช่วงราคาผันผวน ซึ่งวานนี้ (2 ต.ค.) ราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์ ในส่วนเบนซิน 95 ลดลง 2.12 ดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 81.97 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ดีเซล ลดลง 2.11 ดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 90.33 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันดิบดูไบลดลง 1.59 ดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 73.08 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส สหรัฐลดลง 0.19 ดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 80.05 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และเบรนต์ ลดลง 0.26 ดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 77.38 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

.

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานได้กำหนัดตัวชี้วัด (KPI) แบ่งออกเป็น 12 ตัวชี้วัด ตามนโยบาย 7 ด้าน ได้แก่ การปรับโครงสร้างกิจการพลังงาน ด้านความมั่นคงพลังงาน ตัวชี้วัดระดับความสำเร็จการจัดหาก๊าซธรรมชาติจากในและต่างประเทศ และตัวชี้วัดเพิ่มการรับซื้อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้าน ด้านการประหยัดพลังงาน และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การส่งเสริมพลังงานทดแทน การปรับโครงสร้างราคาพลังงาน เช่น การลอยตัวก๊าซหุงต้ม ด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด โดยตัวชี้วัดที่สำคัญคือ ความสำเร็จในด้านการให้ความรู้ด้านความจำเป็นของทางเลือกเชื้อเพลิงในอนาคต เช่น นิวเคลียร์ ถ่านหินสะอาด และด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน ตัวชี้วัด คือ ความสำเร็จจากการจัดตั้งกองทุนพัฒนาชุมชนรอบโรงไฟฟ้า

.

 ด้านนายไกรสีห์ กรรณสูต ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า ขณะนี้ดูแนวโน้มแล้ว ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่ (ต.ค.50-ม.ค.51) ไม่น่าจะปรับเพิ่มขึ้น แม้การใช้น้ำผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนจะน้อยลง และไม่สามารถรับซื้อไฟฟ้าจากมาเลเซีย 300 เมกะวัตต์ เพราะมาเลเซีย ประสบปัญหาภายในประเทศ แต่ก็มีปัจจัยที่ดี คือ ท่อก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 3 สร้างแล้วเสร็จ การผลิตไฟฟ้าจากก๊าซฯ ทดแทนน้ำมันจึงสูงขึ้น ช่วยลดต้นทุนได้มาก ขณะเดียวกัน จากเงินบาทแข็งค่า จึงทำให้ต้นทุนราคาเชื้อเพลิงไม่ปรับสูงมากขึ้นไปด้วย โดยราคาก๊าซฯ ที่นำมาคำนวณจะอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 200 บาท/ล้านบีทียู

.

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์