เนื้อหาวันที่ : 2017-10-03 16:39:03 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1723 views

เฮงเค็ล ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 45 ปี เดินหน้าขยายธุรกิจในกลุ่มผู้บริโภค มุ่งมั่นสร้างสรรค์คุณค่าอย่างยั่งยืน

เฮงเค็ล เฉลิมฉลองวันก่อตั้งบริษัทฯ ทั่วโลก และโอกาสครบรอบ 45 ปีของเฮงเค็ลประเทศไทย เดินหน้าดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ Henkel 2020+ เพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจเทคโนโลยีกาวและธุรกิจเส้นผมอย่างยั่งยืนในประเทศไทยซึ่งถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญในภูมิภาคนี้

สำหรับปีนี้ เฮงเค็ลเฉลิมฉลองภายใต้ธีม “Celebrating our agile workforce โดยเน้นย้ำเรื่องความสำคัญของพนักงานซึ่งถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของบริษัท โดย นายอีริค อีเดลแมน (คนกลาง) ประธาน บริษัท เฮงเค็ล (ประเทศไทย) จำกัด และทีมผู้บริหารได้จัดประชุมใหญ่ภายในบริษัทและโรงงานทั้ง 5 แห่ง เพื่อพบปะพูดคุยและขอบคุณพนักงานทุกคนที่ได้ทุ่มเทในการทำงานมาอย่างต่อเนื่อง

ในโอกาสนี้ นายอีริคได้เน้นย้ำถึงกลยุทธในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจและการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยกล่าวว่า “เฮงเค็ลจะดำเนินงานตามแผน ‘Henkel 2020+’ ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ในการสร้างการเติบโตจนถึงปี ค.ศ.2020 โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเร่งพัฒนาด้านดิจิตอล และการยกระดับความคล่องตัวในการดำเนินงาน นอกจากนี้เรายังมุ่งสนับสนุนการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนให้เข้มข้นยิ่งขึ้น รวมทั้งยึดมั่นเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมไปพร้อม ๆ กัน”

สำหรับภาพรวมการเติบโตของบริษัทนั้น นายอีริคกล่าวเสริมว่า “ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ และมีจำนวนชนชั้นกลางเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นการเติบโตให้กับหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ความงาม อิเลคทรอนิกส์ อาหารและเครื่องดื่ม และเครื่องใช้ภายในบ้าน ซึ่งในฐานะผู้นำในตลาดเทคโนโลยีกาว และผู้นำด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับผม เราเชื่อมั่นว่าเฮ็งเค็ลจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี“

สำหรับเทคโนโลยีกาว เฮงเค็ลมีแบรนด์ชั้นนำที่ประกอบไปด้วย ล็อคไทท์ เทคโนเมลท์ บอนเดอไรท์ เทโรซอน และแอคเควนซ์  ส่วนในหมวดธุรกิจบิวตี้แคร์เพื่อการดูแลเส้นผมทั้งในร้านเสริมสวยและค้าปลีก ก็มีแบรนด์ชั้นนำอย่างชวาร์สคอฟและไซออส

ในธุรกิจกาว เฮงเค็ลใช้กลยุทธ์นำเสนอโซลูชั่นประสิทธิภาพสูง เช่น บรรจุภัณฑ์อาหารที่พัฒนาให้มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงขึ้น และเทคโนโลยีกาวประสิทธิภาพสูงสำหรับการผลิตเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งการปรับปรุงการผลิตสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยมุ่งเน้นประสิทธิภาพในการลดใช้พลังงานและลดของเสีย โดยที่ผ่านมาเฮงเค็ลได้ควบรวมกิจการทั่วโลกของดาเร็กซ์ แพคเกจจิ้ง เทคโนโลยี ซึ่งรวมไปถึงโรงงานผลิตสินค้าที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหาร เครื่องดื่ม และกระป๋องสเปรย์ได้เพิ่มมากขึ้น

สำหรับธุรกิจค้าปลีกด้านเส้นผม เฮงเค็ลนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่นำเทรนด์มากมาย เช่น ชวาร์สคอฟ เฟรชไลท์ มิลค์กี้ และ เฟรชไลท์ โฟม ซึ่งพัฒนาร่วมกับคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ แฟชั่นดีไซเนอร์ระดับโลก และนำเสนอผ่านตุ๊กตาบลายธ์ที่น่ารักสดใส และตรงใจผู้หญิงยุคใหม่ นอกจากนี้ เฮงเค็ลยังได้เปิดตัว ชวาร์สคอฟคัลเลอร์ สเปเชี่ยลลิสต์ ที่มีเทคโนโลยีโอเมก้าเพล็กซ์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยป้องกันเส้นผมเสียหลังทำสี และช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพดีขึ้นในเวลาเดียวกัน

ด้านธุรกิจบิวตี้แคร์สำหรับช่างผมมืออาชีพ เฮงเค็ลมีวิสัยทัศน์ในการสร้างคอมมิวนิตี้ช่างผมระดับโลกในประเทศไทย โดยในแต่ละปี สถาบันชวาร์สคอฟ เอเอสเค อะคาเดมี (Schwarzkopf ASK Academy) เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคที่จัดฝึกอบรมช่างผมมืออาชีพกว่า 2,000 คน จากทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว และพม่า