เนื้อหาวันที่ : 2017-09-12 14:10:05 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1282 views

แลนเซสส์ (LANXESS) ประกาศเป้าหมายที่ท้าทายใหม่ มุ่งสร้างผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมและการเติบโตที่ยั่งยืนควบคู่กันไป

  • ตั้งเป้าหมายท้าทายใหม่ทางการเงินในระยะกลาง: โดยในปีการเงิน 2021 (พ.ศ.2564) จะมีผลกำไรจากการดำเนินงานที่ 14 ถึง 18 เปอร์เซ็นต์
  • มีแผนการบริหารผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน: จะคงไว้เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่สามารถเป็นผู้นำตลาดและมีผลกำไรที่น่าพึ่งพอใจ
  • โครงการควบรวมกิจการกับ Chemtura และมีโครงการภายในบริษัทที่ให้ผลตอบแทนสูงหลายโครงการจะเป็นพลังผลักดันให้กำไรเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
  • มุ่งเป็นองค์กรดิจิตอลทั่วทั้งกลุ่ม (Group-wide Digitalization)
  • CEO Matthias Zachest กล่าวว่า “เราจะบรรลุศักยภาพของเราเต็มที่ในอีกไม่กี่ปีที่จะถึงนี้”

แลนเซสส์ ผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สารเคมีเฉพาะด้านของโลกประกาศความมุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรการเร่งการเจริญเติบโตของผลกำไรให้สูงขึ้น บริษัทวางแผนที่จะปรับปรุงความมั่นคงทางธุรกิจและผลกำไรของบริษัทในระยะยาวสำหรับหลายปีข้างหน้า และได้ตั้งเป้าหมายใหม่ทางการเงินในระยะกลาง โดยในปีการเงิน 2021 (พ.ศ.2564) ผลกำไรจากการดำเนินงาน-วัดในเทอมของกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาจากการดำเนินงานตามปกติ (EBITDA pre exceptionals)–คาดว่าจะอยู่ที่ 14 ถึง 18 เปอร์เซ็นต์ ส่วนปีการเงิน 2016 (พ.ศ.2559) ที่พึ่งผ่านไปทำได้ถึง 12.9 เปอร์เซ็นต์ ในขณะเดียวกันทั้งกลุ่มบริษัทมีสถานะมั่นคงมากขึ้นและมีความแปรปรวนในผลประกอบการลดลงแลนเซสส์มุ่งที่จะเติบโตในด้านยอดขายที่ระดับนานาชาติให้สูงกว่าภายในประเทศเยอรมันเอง

“แลนเซสส์ขณะนี้ตั้งอยู่บนรากฐานที่มั่นคงและมีแนวทางในการเติบโตของผลกำไรที่ชัดเจน ในปีที่จะถึงนี้ เขามุ่งมั่นที่จะทำให้เต็มศักยภาพของเราและเปลี่ยนแลนเซสส์ให้กลายเป็นบริษัทที่เข็มแข็งมากโดยการเสริมสร้างความสมดุลย์และความมั่นคงขึ้นในทุก ๆ ส่วนของเรา เพิ่มผลกำไร และท้ายที่สุดสร้างวัฒนธรรมการทำงานแบบทีมที่ทุ่มเทและมุ่งมั่นร่วมกัน” กล่าวโดย Matthias Zachet , CEO ของ LANXESS AG.

เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายใหม่นี้แลนเซสส์จะต้องพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ของตัวเองอย่างต่อเนื่องโดยใช้หลักการที่ชัดเจน ทั้งกลุ่มบริษัทต้องการที่จะเลือกไว้เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่สามารถครองตำแหน่งผู้นำในตลาดและสร้างผลกำไรที่น่าพึ่งพอใจได้อย่างยั่งยืนเท่านั้น  บริษัทมีหลายโครงการที่เป็นการลงทุนภายในบริษัทเองในส่วนที่ยังไม่รวมกับธุรกิจที่ควบกิจการมา (Organic Investment)–โดยมีถึง 400 ล้านยูโร (ประมาณ 16 พันล้านบาทที่อัตราแลกเปลี่ยน 40 บาทต่อยูโร) ระหว่างปีการเงิน 2016 ถึง 2020 (พ.ศ.2559-2563)–ประกอบด้วยโครงการที่จะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในธุรกิจ (Return on Capital Employed: ROCE) โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 20 เปอร์เซ็นต์เทียบกับปีการเงิน 2016 (พ.ศ.2559) ที่ ผลตอบแทนจากการลงทุนในธุรกิจของทั้งกลุ่มบริษัทอยู่ที่ 6.9% นอกจากนั้นแลนเซสส์มุ่งจะขยายตลาดไปในภูมิภาคและอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างดุลยภาพให้แก่บริษัทลดความแปรปรวนของผลประกอบการอันเนื่องมาจากพึ่งยอดขายจากภูมิภาคหรือผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่งมากเกินไป รวมทั้งเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในตลาดที่กำลังเติบโตในภูมิภาคเอเชีย และอเมริการเหนือ ร่วมทั้งขยายตัวไปในตลาดใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าในอุตสาหกรรมอื่นที่น่าสนใจเข้ามาเพิ่มมากขึ้น อย่างเช่น อุตสาหกรรมไฟฟ้า อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หรืออุตสาหกรรมพลังงานด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตรกรรมในการใช้ประโยชน์ใหม่ ๆ ของบริษัท

การประสานธุรกิจกับเคมตูรา (Chemtura) บริษัทที่พึ่งถูกควบรวมกิจการเข้ากับแลนเซสส์มีผลบรรลุตามเป้าหมายตามปีการเงิน 2017 (พ.ศ.2560)

ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้แลนเซสส์สามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินใหม่ประกอบด้วยผลตอบแทนที่ได้จากการประสานธุรกิจ (Synergies Stemming) ในการควบรวมกิจการกับเคมตูราซึ่งถือว่าเป็นการควบรวมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ แลนเซสส์ บริษัทคาดว่าจะทำให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายร่วมกันถึง 100 ล้านยูโร (ประมาณ 4 พันล้านบาท) ต่อปีจนกระทั้งถึงปี 2020 (พ.ศ. 2563) การประหยัดค่าใช้จ่ายในนี้ (พ.ศ.2560) คาดว่าจะทำได้ประมาณ 25 ล้านยูโร (ประมาณ 1 พันล้านบาท) และประมาณว่าจะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างอื่นที่ต่อเนื่องจากการควบรวมนี้ได้อีกถึง EURO 140 ล้าน (ประมาณ 5.6 พันล้านบาท)

คาดว่าค่าใช้จ่าย 100 ล้านยูโร (ประมาณ 4 พันล้านบาท) ที่ประหยัดได้จากการควบรวมจะเกิดขึ้นที่กระบวนการผลิตและการจัดซื้อ อย่างเช่น แลนเซสส์มีโครงการ “โรงงานแห่งความเป็นเลิศ” (Manufacturing Excellence) ที่จะใช้ในการปรับปรุงโรงงานผลิตในที่ต่าง ๆ ของเคมตูราเดิมให้มีกระบวนการทำงานและเทคโนโลยีที่ดีขึ้น ยิ่งกว่านั้น การรวมยอดการสั่งซื้อของทั้งสองบริษัทเข้าด้วยกันสำหรับการซื้อวัตถุดิบในการผลิตที่สูงถึง 2.5 พันล้านยูโร (ประมาณ 1 แสนล้านบาท) น่าจะลดลงได้บ้าง เนื่องจากการนำสัญญาของผู้ขายที่เหมือนกันมารวมกันทำให้เพิ่มอำนาจต่อรองและมีการวางแผนที่สร้างการเชื่อมโยงแบบย้อนหลังไปยังแหล่งวัตถุดิบมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถประหยัดค่าขนส่งและโลจิสติกส์รวมลงได้ อย่างเช่น เมื่อรวมทุกธุรกิจเข้าด้วยกัน พบว่ามีคลังสินค้ากระจายอยู่ทั่วโลกกว่า 200 แห่งที่สามารถนำมาใช้ได้โดยไม่ต้องเช่าที่อื่นอีก

ผลการประหยัดต้นทุนประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ของการประสานควบรวมนี้มาจากภูมิภาคอเมริการเหนือ โดยการลดต้นทุนและโครงสร้างในการมีคณะกรรมการบริหารของเคมตูราทั้งหมด ยกเลิกสำนักงานใหญ่ในฟิลาเดลเฟีย และ จะไม่มีค่าใช้จ่ายของเคมตูราในตลาดหลักทรัพย์อีกต่อไป ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการในท้องถิ่นต่าง ๆ ที่มีหน่วยงานซ้ำซ้อนกันอยู่จะถูกขจัดออกไป ตอนนี้มี 40 โครงการที่กำลังเริ่มดำเนินงานในอเมริกาเหนือเพื่อการนี้ ส่วนอีก 20เปอร์เซ็นต์คาดว่าจะมาจากการรวมโครงสร้างส่วนการตลาดและการขายทั่วโลก

ตั้งเป้าที่จะปรับทั่วทั้งองค์กรให้เป็นดิจิตอล (Digitalization)

แลนเซสส์มุ่งที่จะเร่งการเติบโตของธุรกิจด้วยการริเริ่มโครงการทำทั้งกลุ่มบริษัทให้เป็นดิจิตอล (Group-wide Digitalization) และได้ตั้งแผนกงานที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญ 30 คนขึ้นมาดูแลเรื่องนี้ “Digitalization จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบยั้งยืน ในกระบวนการทำงานและรูปแบบธุรกิจในอุตสาหกรรมเคมีและอุตสาหกรรมของลูกค้าของเรา มันจะทำให้เรามีช่องโอกาสมากขึ้นอีกมากมาย และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งทั่วทั้งบริษัท เราต้องการที่ผลักดันในเชิงรุกในการเปลี่ยนแลนเซสส์ให้เป็นดิจิตอล (Digital Transformation) ทำให้เราสามารถสร้างผลตอบแทนการดำเนินงานที่มีศักยภาพสูงขึ้นในเวลาได้ทันเวลา” กล่าวโดน Matthias Zachet สิ่งที่โครงการมุ่งเป้าไปคือการทำให้เป็นดิจิตอลทั่วทุกคน หน่วยงานหรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่การสร้างมูลค่า (Value Chain) ของแลนเซสส์ นำ Big Data มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ พัฒนารูปแบบทางธุรกิจที่เป็นดิจิตอลมากขึ้นและเพิ่มความเชี่ยวชาญในด้านดิจิตอลให้พนักงานทั้งหมดขององค์กร

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับแลนเซสส์ (LANXESS)

แลนเซสส์เป็นบริษัทผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สารเคมีเฉพาะด้าน (Specialty Chemicals) มียอดขายรวมกว่า 7.7 ล้านยูโรในปี พ.ศ.2559 และมีพนักงาน 19,200 คนอยู่ใน 25 ประเทศทั่วโลก มีโรงงานทั่วโลกถึง 75 แห่ง แกนหลักของธุรกิจของ LANXESS คือการพัฒนา การผลิต และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เคมีที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิต (Chemical Intermediates) เคมีภัณฑ์เติมแต่ง (Additives Chemicals) เคมีภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเฉพาะด้าน (Specialty Chemicals) และพลาสติก อีกทั้งยังมีการร่วมทุนกับ Saudi Aramco ในบริษัท ARLANXEO ซึ่งเป็นผู้นำในการผลิตยางสังเคราะห์ (Synthetic Rubber) แลนเซสส์ (LANXESS) เป็นบริษัทที่ที่มีชื่ออยู่ในดัชนีหลักทรัพย์ที่ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก ได้แก่ดัชนี Dow Jones Sustainability Index (DJSI World) และ FTSE4Good