เนื้อหาวันที่ : 2007-09-27 09:16:27 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1448 views

แซส ครองอันดับหนึ่งในตลาดระบบธุรกิจอัจฉริยะในไทย

ตอบสนองความต้องการทางด้านธุรกิจของลูกค้าที่ครอบคลุม ถูกต้อง แม่นยำ และอยู่บนพื้นฐานของความเชี่ยวชาญโซลูชันของบริษัท ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจแซงหน้าคู่แข่งได้

.

บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำในตลาดโลกด้าน ซอฟต์แวร์ระบบธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence: BI), ระบบวิเคราะห์ข้อมูล เชิงลึก, และระบบคลังข้อมูล เผยบริษัทได้เป็นผู้นำในตลาด ระบบธุรกิจอัจฉริยะ (บีไอ) ในประเทศไทย จากรายงานของบริษัท ไอดีซี ที่ชื่อว่า Asia/Pacific Software Tracker ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2549

.

โดยรายงานดังกล่าวระบุว่า บริษัท แซส ครองอันดับหนึ่ง ของส่วนแบ่งตลาดในไทย ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากความแข็งแกร่งของบริษัท แซส ในด้านโซลูชันที่ตอบสนองความต้องการทางด้านธุรกิจของลูกค้าที่ครอบคลุม ถูกต้อง แม่นยำ และอยู่บนพื้นฐานของความเชี่ยวชาญโซลูชันของบริษัท โดยแซสสามารถ ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ ที่ช่วยให้พวกเขาแซงหน้าคู่แข่งได้

.

"เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทชั้นนำทั่วโลกได้ทำข้อตกลงร่วมกับบริษัท แซส เช่น ซิตี้กรุ๊ป, ฟอร์ด มอเตอร์, เทเลนอร์, ไชน่า คัสตอม, กองทัพเรือสหรัฐ, บลู ครอส, โคโนโคฟิลิปส์, แอสตราซีนีกา ฟามาซูติคอล, เวิลด์พูลส์, ซับเวย์, ไทม์ อิงค์. ซึ่งใช้โซลูชันของบริษัท แซส ในการวิเคราะห์ลูกค้า จัดการความเสี่ยง สร้างผลกำไร ปรับปรุงการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพขึ้น

.

แซสเป็นบริษัทแรกที่ผู้บริหารในระดับซีทั่วโลก (อาทิ ซีอีโอ ซีไอโอ ซีเอฟโอ และซีเอ็มโอ เป็นต้น) ต่างนึกถึงและเรียกใช้เมื่อพวกเขาต้องการ แก้ปัญหาทางด้านธุรกิจ ทั้งนี้ บริษัท แซสมีทุกสิ่งที่จะทำให้บรรลุผลนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถด้านการวิเคราะห์ที่เยี่ยมยอด ความเชี่ยวชาญเชิงลึกในภาคธุรกิจต่างๆ สถิติและรางวัลมากมายจากความสําเร็จของการส่งมอบโซลูชันที่เห็นผลได้ชัด และ ความสามารถในการสร้างนวัตกรรมนายจิม กูดไนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) บริษัท แซส กล่าว

.

นายขวัญชัย เลิศจุลัศจรรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า "รายงานของบริษัท ไอดีซี แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของเราในฐานะที่เป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาดในไทยอันดับหนึ่ง ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มของบริษัท แซส ทั่วโลก และยังมีอัตราการเติบโตด้านระบบธุรกิจอัจฉริยะ (บีไอ) สูงสุดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกอันเนื่องจากความแข็งแกร่งของเราในการจัดหาโซลูชันมากมายที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกส่วน

.

ได้แก่ โซลูชันบริหารลูกค้า (Customer Management Solution) ที่ช่วยให้เกิดการวิเคราะห์ค้นหากลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โซลูชันบริหารความเสี่ยง (Risk Management Solution) ที่จะวิเคราะห์ความเสี่ยงทางธุรกิจในทุกแง่มุม โซลูชันบริหารการเงิน (Financial Management Solution) และการวิเคราะห์ประสิทธิภาพองค์กร (Corporate Performance Analysis) นอกจากนี้ บริษัท แซสยังมาพร้อมกับโซลูชันเฉพาะด้านสำหรับธุรกิจเฉพาะ เช่น สถาบันการเงิน ผู้ผลิต ภาครัฐและบริการสาธารณะ การค้าปลีก โทรคมนาคม และสถาบันการศึกษา"

.

นายขวัญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า โซลูชันของบริษัท แซส เป็นฟังก์ชันที่ครอบคลุมซึ่งมีแพลตฟอร์มโซลูชันอัจฉริยะทรงประสิทธิภาพ ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนข้อมูลให้เป็นการตัดสินใจทางธุรกิจด้วยความแม่นยำและถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม ลูกค้าของเราสามารถเห็นมุมมองที่แตกต่างของธุรกิจที่ไม่เคยเห็นมาก่อน"

.

"บริษัท แซส ประเทศไทย กำลังเดินหน้าขยายธุรกิจในทุกแง่มุม ทั้งด้านการขาย การตลาด การสนับสนุน บริการที่ปรึกษา การศึกษา ไปจนถึงการให้บริการตามความต้องการของตลาดในหลายส่วน และในปีนี้ บริษัท แซส ประเทศไทย ยังจะทำตลาดโซลูชันและผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางจำหน่ายหลัก 3 ช่องทาง ได้แก่ ผู้ให้บริการทางด้านไอทีครบวงจร (System Integrator), ผู้ดำเนินการ และบริษัทที่ปรึกษา

.

นอกจากนี้ บริษัท แซส ยังได้นำความรู้ที่ได้จากผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่มีประสบการณ์ของบริษัททั่วโลกเข้ามาให้คําแนะนําและความรู้กับลูกค้าเพื่อสร้างความมั่นใจในความสำเร็จในธุรกิจของพวกเขาผ่านทางการทำตลาด การสัมมนาวิชาการ การประชุมเชิงปฏิบัติการ และส่งผ่านประสบการณ์ รวมทั้งศูนย์พัฒนาประสิทธิภาพด้านระบบธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence Competency Center: BICC) ของเรา"

.

"จากแนวโน้มข้างต้นของบริษัท แซส ทั่วโลก ซึ่งให้สัญญาณทางบวก ประกอบกับโซลูชันของบริษัทที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ ทั้งสองปัจจัยนี้ จะสนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อันสะท้อนให้เห็นได้จากรายงานของบริษัท ไอดีซี" นายขวัญชัย กล่าว

.

บริษัท แซส เป็นหนึ่งในผู้นำซอฟแวร์ระดับโลกของตลาดระบบธุรกิจอัจฉริยะระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และระบบคลังข้อมูล โดยมีองค์กรที่เป็นลูกค้ามากถึง 43,000 แห่ง (โดย 96% ขององค์กรดังกล่าวติดอันดับบริษัทชั้นนำ 500 อันดับแรกของนิตยสารฟอร์จูน) ทั้งหมดใช้โซลูชันของบริษัท แซส เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจผ่านการวิเคราะห์ข้อมูล

.

ส่งผลให้เกิดการตัดสินใจทางธุรกิจที่รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น มีเพียงบริษัท แซส เท่านั้นที่ให้การบูรณาการด้านข้อมูล สตอเรจ การวิเคราะห์ชั้นสูง และแอพพลิเคชันระบบธุรกิจอัจฉริยะภายใต้แพลตฟอร์มอัจฉริยะขององค์กรที่ครอบคลุม โดยนับตั้งแต่ปี 2519 บริษัท แซส ได้มอบแนวคิดการสร้างสรรค์อํานาจแห่งการรอบรู้ หรือ The Power to Know ให้กับลูกค้าทั่วโลก