เนื้อหาวันที่ : 2017-07-26 17:52:41 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1320 views

ไวเออร์ แอนด์ ทูป เซ้าท์อีสท์เอเชีย 2017 ผู้นำด้านอุตสาหกรรมลวด เคเบิล ท่อ และท่อร้อยสาย อันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลับมาอีกครั้งยิ่งใหญ่กว่าเดิม กันยายนนี้ ที่กรุงเทพฯ

งานไวเออร์ เซ้าท์อีสท์เอเชีย 2017 งานแสดงสินค้านานาชาติอุตสาหกรรมลวดและเคเบิลแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 12 และงานทูป เซ้าท์อีสท์เอเชีย 2017 งานแสดงสินค้านานาชาติอุตสาหกรรมท่อและท่อร้อยสายแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 11 กลับมาจัดแสดงอีกครั้ง ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) ระหว่างวันที่ 19 ถึง 21 กันยายน 2560

งานแสดงสินค้าที่ครอบคลุมอุตสาหกรรมหลัก 4 ภาคส่วน ทั้ง ลวด เคเบิล ท่อ และท่อร้อยสาย ซึ่งพร้อมนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ จากบริษัทชั้นนำกว่า 400 ราย จาก 30 ประเทศทั่วโลก โดยคาดว่าจะมีผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ผู้จัดจำหน่าย ผู้ผลิต วิศวกร และผู้จัดซื้อจากทั่วโลก เข้าเยี่ยมชมงานมากถึง 7,000 ราย งานในครั้งนี้ยังคงความโดดเด่นด้วยการสร้างโอกาสการพบปะพูดคุยทางธุรกิจ ระหว่างผู้ออกแสดงสินค้าและผู้เข้าชมงาน เพื่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจในระดับภูมิภาค การติดตามข้อมูลด้านแนวโน้มของอุตสาหกรรม เครื่องจักรและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์เพื่อความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ ๆ อีกด้วย

งานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นทุก ๆ สองปีนี้ มียุทธศาสตร์สำคัญในการนำเสนอเวทีแสดงสินค้าครบวงจรสำหรับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม เพื่อขับเคลื่อนสู่โอกาสการเติบโตทางการตลาด และการพัฒนาของภาคอุตสาหกรรมและภาคการผลิตที่แข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

กลุ่มอุตสาหกรรมปลายน้ำ มีการใช้งานลวดและท่อที่เพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น

ลวด เคเบิล ท่อ และท่อร้อยสาย นับว่ามีบทบาทอย่างยิ่งในตลาดอุตสาหกรรมยุคปัจจุบัน และยังมีการใช้งานอย่างกว้างขวางในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าทางการตลาดของลวดและสายเคเบิลจะเติบโตขึ้นสูงถึง 297,400 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี พ.ศ.2562 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ภายใน 5 ปีมากถึง 7.7% ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของกลุ่มอุตสาหกรรมปลายน้ำ ได้แก่ การโทรคมนาคม, พลังงาน, ยานยนต์ และการก่อสร้าง 

จากข้อมูลของธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) อุตสาหกรรมพลังงานและการขนส่ง คิดเป็น 62.6% ของความต้องการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศกลุ่มอาเซียน (ASEAN) ภายในปี พ.ศ.2563 ในขณะที่โกลด์แมน แซคส์ ได้คาดการณ์ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานในด้านพลังงานและการขนส่งของประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ว่าจะสูงถึง 524,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี พ.ศ.2563 โดยข้อมูลเหล่านี้มีหลักฐานรองรับจากรายงานของสถาบันแมคคินซีย์โกลบอล ที่ระบุว่า หากกลุ่มประเทศอาเซียนสามารถดำเนินการรวมตัวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบได้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ จะสามารถเพิ่มมูลค่าการผลิตทั่วโลกได้ถึง 625,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อ GDP ภายในปี พ.ศ. 2573

สอดคล้องกับแนวโน้มและการปรับเปลี่ยนของอุตสาหกรรม ภายในงานจะจัดแสดงสินค้าที่หลากหลาย และยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นควบคู่กัน รวมถึงงานสัมมนาโดย TUMCIVIL.COM และ บริษัท ยูโลจี กรุ๊ป ที่มีความชำนาญทางด้านการออกแบบอาคารสูงที่รองรับแรงแผ่นดินไหวโดยเฉพาะ นำโดย รศ.ดร.ไพบูลย์ ปัญญาคะโป รวมไปถึงงานประชุมเกี่ยวกับการบริหารคุณภาพทั่วทั้งองค์กร (Total Quality Management) จัดโดย สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) พร้อมทั้งการนำเสนอทางเทคนิคจากผู้ออกแสดงสินค้าอีกมากมาย

นอกจากนี้ ยังมีบริการจับคู่ทางธุรกิจ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการสร้างความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรในกลุ่มอุตสาหกรรม สมาคมทางการค้าและหน่วยงานภาครัฐ  นับเป็นอีกหนึ่งแผนงานเพื่อการสร้างมูลค่าทางธุรกิจ โดยงานไวเออร์ แอนด์ ทูป เซ้าท์อีสท์เอเชีย 2017 พร้อมให้ผู้ออกแสดงสินค้าและผู้เข้าชมงานจากทั่วโลก สามารถทดสอบและศึกษาพัฒนาการล่าสุด รวมถึงข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรมลวดและท่อ ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจในระดับนานาชาติ ทั้งตอบสนองถึงความท้าทายทางธุรกิจในอนาคต

สำหรับการจองพื้นที่ภายในงาน และลงทะเบียนสำหรับเข้าชมงานไวเออร์ แอนด์ ทูป เซ้าท์อีสท์เอเชีย 2017 สามารถเข้าชมข้อมูลได้ที่ www.wire-southeastasia.com และ www.tube-southeastasia.com