เนื้อหาวันที่ : 2017-02-01 09:29:57 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2193 views

“วัตคินสัน” เดินแผนรุกตลาดเครื่องจักรกลหนัก ตอบรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้านโครงสร้างพื้นฐาน

บริษัท วัตคินสัน คอนสตรัคชั่น อิควิปเมนท์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเครื่องจักรกลหนักเพื่องานก่อสร้างและเหมืองแร่ ซึ่งประกอบด้วย รถขุด (Hydraulic Excavators), รถตักล้อยาง (Wheel Loaders), รถหน้าตักหลังขุด (Backhoe Loaders), รถบดสั่นสะเทือน (Vibratory Compactors) และรถเกลี่ยดิน (Motor Graders) แบรนด์ เคส คอนสตรัคชั่น” (CASE Construction) เดินหน้าแผนรุกตลาดเครื่องจักรกลหนัก พัฒนา-ขยาย-เพิ่มศูนย์บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และสร้างประสบการณ์พาลูกค้าเยี่ยมชมโรงงานสายการผลิตเครื่องจักรกลหนักเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ตอบรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้านโครงสร้างพื้นฐาน ที่เป็นปัจจัยสำคัญทำให้ตลาดเครื่องจักรกลหนักเติบโตต่อเนื่อง

นาย อติพงศ์ พงศ์หว่าน ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท วัตคินสัน คอนสตรัคชั่น อิควิปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า “ตลาดเครื่องจักรกลหนักในประเทศมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้คาดการณ์ว่าจะมีความต้องการเครื่องจักรกลหนักเพื่อการก่อสร้างเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 10-15 ต่อปี ปัจจัยสำคัญมาจากการที่รัฐบาลมีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยโครงการพัฒนาระบบคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งโครงการระยะสั้นที่มีมากกว่า 20 โครงการ มูลค่ารวมมากกว่า 1.5 ล้านล้านบาท และโครงการระยะยาว เช่น แผนแม่บทโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (Thailand’s Intercity Motorway Development Master Plan) ระยะเวลา 20 ปี (ระหว่างปี พ.ศ.2560-2579) ระยะทางก่อสร้างกว่า 6,612 กิโลเมตร งบลงทุนกว่า 2 ล้านล้านบาท โครงการนี้นอกจากจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางคมนาคมขนส่งของภูมิภาคแล้ว ยังเป็นการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในหลากหลายมิติอีกด้วย”

นายกมลวัฒน์ วีรศุภกาญจน์ ประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท วัตคินสัน คอนสตรัคชั่น อิควิปเมนท์ จำกัด เผยว่า “วัตคินสัน เล็งเห็นความสำคัญและพร้อมปรับรูปแบบการบริการให้สอดคล้องกับภาวะตลาดที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ได้ดำเนินการตามแผนไปแล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพัฒนาศูนย์บริการในจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ให้เป็นศูนย์บริการกลางแบบครบวงจร ทั้งในส่วนของการบริหารจัดการ, ศูนย์ฝึกอบรม, โชว์รูม, คลังเครื่องจักรและอะไหล่ และพื้นที่ทดสอบสมรรถนะของเครื่องจักร ลำดับถัดมาคือการขยายพื้นที่ศูนย์บริการภาคอีสาน ในจังหวัดอุดรธานี และศูนย์บริการภาคกลาง ในกรุงเทพฯ และการเพิ่มศูนย์บริการภาคเหนือ ในจังหวัดเชียงราย ในส่วนเครื่องจักรกลหนักที่จะเน้นทำตลาดเพิ่มในปีนี้คือ “รถเกลี่ยดิน” (Motor Graders) ที่มีโรงงานผลิตตั้งอยู่ที่ประเทศบราซิล ซึ่งเป็นฐานการผลิตรถเกลี่ยดินขนาดใหญ่ที่มีประวัติยาวนาน และมีการนำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในโลกมาใช้ การันตีด้วยเหรียญทองจาก WCM (World Class Manufacturing) เพราะเราเชื่อมั่นในกระบวนการผลิตที่ทรงประสิทธิภาพ และสมรรถนะเครื่องยนต์อันทรงพลังไม่แพ้แบรนด์ใดในตลาด เราจึงมั่นใจที่จะก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการรถเกลี่ยดิน “เคส คอนสตรัคชั่น” ทั้งนี้ทุกปีเราได้มีกิจกรรมพาลูกค้าไปเยี่ยมชมโรงงาน ซึ่งเป็นฐานการผลิตเครื่องจักรกลหนักที่ทันสมัยของ “เคส คอนสตรัคชั่น” โดยปีที่ผ่านมาพาไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถเกลี่ยดิน ที่ประเทศบราซิล และเร็ว ๆ นี้จะพาลูกค้าไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถตักล้อยาง และรถหน้าตักหลังขุด ที่ประเทศอิตาลี ซึ่ง “เคส คอนสตรัคชั่น” เป็นผู้ผลิตรายแรกของโลกอีกด้วย โดยมั่นใจว่าในปีนี้จะสามารถทำยอดขายทะลุ 300 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน”