เนื้อหาวันที่ : 2007-08-16 09:12:33 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2324 views

Global Brand ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตส่งออกเอเชียแปซิฟิค-ตะวันออกกลาง

ปั้นแบรนด์ "Haier" เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านครบวงจร หวังถูกใจผู้บริโภค เตรียมส่งออกภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และตะวันออกกลาง ตั้งเป้ายอดขายมูลค่า 6,000 ล้านบาท

 .

เปิดยุทธศาสตร์ไฮเออร์ สู่ "Global Brand" หลังเทค โอเวอร์โรงงานซันโย ตั้งฐานการผลิตในไทยรุกตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านครบวงจร หวังสร้างแบรนด์ "Haier" ให้เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในใจผู้บริโภค พร้อมเปิดตัวสู่ตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และตะวันออกกลางอย่างเป็นทางการ ด้านตลาดในไทยส่งตู้เย็นเป็นธงนำ ตั้งเป้ายอดขายมูลค่า 6,000 ล้านบาท

.

นายชวี จื้อหลง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮเออร์ อีเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และประธานบริษัทไฮเออร์ อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง ทิศทางการดำเนินงาน ไฮเออร์ ในตลาดโลกว่า ภายหลังจากที่ Haier Group ประสบความสำเร็จจากการสร้าง ตราสินค้า และการตั้งโรงงานในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา และ ยุโรป จนเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก โดยยอดขายรวม Haier ทั่วโลก ปี 2549 มีมูลค่าสูงถึง 12.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

.

เพื่อเป็นการสอดรับกับยุทธศาสตร์การเป็นสินค้าระดับมาตรฐานสากล ดังนั้นในปี 2550 ไฮเออร์ ได้มีแผนงานเปิดตัวแบรนด์ ไฮเออร์สู่ตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และตะวันออกกลางอย่างเป็นทางการ จึงได้ลงทุนสร้างฐานการผลิตกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในประเทศไทย ด้วยการเข้าไปซื้อกิจการ บริษัท ซันโย ยูนิเวอร์แซล อิเลคทริค จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ประเภท ตู้เย็น ที่สุดในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2550 ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันไฮเออร์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 90 % และตั้งชื่อบริษัทใหม่ว่า บริษัท ไฮเออร์ อีเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เพื่อใช้ไทยเป็นฐานการผลิตกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ได้แก่ ตู้เย็น และ เครื่องซักผ้า โดยมีกำลังการผลิตตู้เย็นถึง 2,400,000 เครื่อง และเครื่องซักผ้า 200,000 เครื่องต่อปี ภายใต้การบริหารตามเป้าหมายหลัก 3 ประการ ได้แก่ 1.ด้านคุณภาพ 2.ด้านการขนส่ง และ 3.ด้านการจัดการต้นทุนการผลิต

.

อย่างไรก็ดี ไฮเออร์ จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต เพื่อรองรับตลาดภายในประเทศ และเพื่อส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน ประกอบด้วย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศแถบตะวันออกกลาง และประเทศในแถบอาฟริกา เพื่อสนับสนุนการสร้างตราสินค้าของ ไฮเออร์ ในภูมิภาคดังกล่าว นอกจากรวมถึงแผนการพิจารณาถึงการรุกสู่การพัฒนาธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านประเภทใหม่ ๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้แช่แข็ง ฯลฯ เพื่อเสริมกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ ไฮเออร์ ให้มีความครบครัน และเพื่อให้การบริการมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ใหม่จะเป็นกลไกสำคัญ ในการเจริญเติบโตของธุรกิจและการสร้างตราสินค้าของ ไฮเออร์ ซึ่งจะได้มีการลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องต่อไป

.

กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ถือเป็นทิศทางสำคัญในการทำธุรกิจหลักของ ไฮเออร์ โดยในเดือนธันวาคม 2549 ที่ผ่านมา ได้ร่วมลงทุนกับซันโย ในกิจการร่วมค้าในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาสำหรับตู้เย็น ด้วยการสนับสนุนจาก ไฮเออร์ สำนักงานใหญ่ ความสามารถในการวิจัยและพัฒนาของกิจการร่วมค้าของไฮเออร์ ในประเทศญี่ปุ่น และบุคลากร ส่งผลให้ ไฮเออร์ ในประเทศไทยสามารถพัฒนาตลาดและสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ไฮเออร์ไทย ยังเป็นศูนย์กลางในการที่จะร่วมมือและประสานงานในด้าน R&D เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มประเทศอาเซียน ตะวันออกกลาง นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และอื่นๆ ซึ่งต่างมีความต้องการที่แตกต่างกันได้อย่างทั่วถึง

.

.

.

นอกจากนี้ไฮเออร์ ยังคำนึงถึงประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม ( environment ) และสุขภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการและให้ความสนใจ การประหยัดไฟฟ้า การฆ่าเชื้อต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่จะต้องให้ความใส่ใจ และไฮเออร์ได้สนองตอบความต้องการดังกล่าว โดยในปี 2006 ผลิตภัณฑ์ของไฮเออร์ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมในด้านประหยัดไฟฟ้า โดยเฉพาะตู้เย็น รุ่น 2 ประตู 18.5Q สินค้าซึ่งเป็นสินค้าที่ขายดีในประเทศไทย ยังมีการส่งออกไปจำหน่ายในหลายๆ ประเทศ เนื่องจากได้นำนาโนฟิลเตอร์ วิตามินซี มาประยุกต์ใช้ในการผลิตสินค้า และถือเป็นรายแรกที่ผลิต ส่งผลให้ผู้ผลิตรายอื่นๆ ผลิตตาม จนขณะนี้กลายเป็นมาตรฐานไปแล้ว

.

อย่างไรก็ดีในช่วงที่ผ่านมาได้มีการลงทุนสำหรับการพัฒนาตู้เย็นรุ่นใหม่รุ่นแรกกจากโรงงานแห่งนี้ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะวางจำหน่ายภายในปี 2551 นี้ นอกจากนี้ยังมีแผนจะลงทุนพัฒนาสินค้าภายในบ้านใหม่ๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้แช่แข็ง ฯลฯ เพิ่มขึ้น โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย 5-6 % ต่อปีในอนาคต เพื่อเสริมกลุ่มผลิตภัณฑ์ของไฮเออร์ ให้มีสินค้าที่ครอบคลุม และเพื่อการบริการที่มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพื่อสนองนโยบายหลักที่จะสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับทุกฝ่าย โดยจุดประสงค์ของการลงทุนในผลิตภัณฑ์ใหม่และการโฆษณาตราสินค้าจะช่วยให้ลูกค้าและผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตราสินค้าของไฮเออร์ดีขึ้น และจะนำมาซึ่งการสนับสนุน ไฮเออร์ ให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้สำหรับประเทศไทยนั้นบริษัทคาดการณ์ว่าภายในระยะเวลา 5 ปี บริษัทฯ จะเป็นผู้นำในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทตู้เย็น

.

นายทวีศักดิ์ เกรียงไกรเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงแผนงานด้านการตลาดและการขายของไฮเออร์ ในประเทศไทยว่า นับตั้งแต่ไฮเออร์เข้ามาสู่ประเทศไทย จนถึงปัจจุบันได้มีจำนวนผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งตรงตามนโยบายในการมุ่งให้ไฮเออร์เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน และสินค้าต่างๆล้วนได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาดและผู้บริโภค โดยปัจจุบันสินค้าแบรนด์ไฮเออร์ในไทย ประกอบด้วย ตู้แช่ไวน์, LCD TV , ตู้เย็น เป็นต้น อย่างไรก็ดีในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 6,000 ล้านบาท