เนื้อหาวันที่ : 2007-08-01 15:03:28 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1614 views

กระทรวงอุตฯ หนุนกิจการไม้ยางพาราสู้ตลาดส่งออก 3.3 แสนล้าน

กระทรวงอุตสาหกรรม ลุยถิ่นใต้ยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์จากไม้ยางพารา พัฒนาแผน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพร้อมกับการบำรุงรักษาเครื่องจักร หนุน SMEs สู่ตลาดส่งออก

ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมลงใต้ประเดิมตรวจเยี่ยม  ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์จากไม้ยางพารา  ในฐานะโรงงานนำร่องที่มีความพร้อม ภายใต้โครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมส่วนภูมิภาคเผยเป้าหมายต้องการเพิ่มยอดขาย และลดต้นทุน เพื่อให้ SMEs หนุนสู่ตลาดส่งออก แบ่งรายได้ตลาดยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง 330,000 ล้านบาท

.

นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดศูนย์ OTOP จังหวัดสุราษฎร์ธานีและติดตามความคืบหน้าสถานประกอบการนำร่องโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา สุราษฎร์ควอลิตี้วู้ด อ. บ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายใต้โครงการพัฒนาขีดความสามารถของอุตสาหกรรมส่วนภูมิภาค (1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร) ว่า ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูงของภาคใต้ ซึ่งในปีที่ผ่านมา มีมูลค่าการส่งออกทั้งในรูปยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางกว่า 330,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ผู้ประกอบการแปรรูปยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางได้ตระหนักดีถึงศักยภาพนี้ หากแต่ยังขาดความรู้ทางเทคนิค ไม่ว่าจะเป็นการจัดการ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในสายการผลิต วัตถุดิบที่ไม่แน่นอน และด้านการตลาดเพื่อการส่งออกที่ยังผูกขาดโดยพ่อค้าคนกลาง 

.

"ปัจจุบันผู้ประกอบการ SMEs ภาคการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรในต่างจังหวัดยังขาดการพัฒนาเทคโนโลยีการบริหารจัดการ และการพัฒนาด้านประสิทธิภาพการผลิต รวมทั้งการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการประกอบการ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้ดำเนินโครงการพัฒนาขีดความสามารถของอุตสาหกรรมส่วนภูมิภาค โดยผู้ประกอบการนำร่องจะได้รับความช่วยเหลือจากกระทรวงอุตสาหกรรมในการเข้าไปพัฒนาแผนการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การบำรุงรักษาเครื่องจักร และการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ เพื่อผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาด" ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว    

.

โรงงานสุราษฎร์ ควอลิตี้ วู้ด เป็นโรงงานขนาดเล็กที่ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์จากไม้ยางพารา และจำหน่ายไม้ยางพาราแปรรูป ในช่วงที่ผ่านมาได้ลงทุนซื้อเครื่องจักรที่เน้นการผลิตแบบจำนวนมากในแต่ละครั้ง และเพิ่งเริ่มผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์จากไม้ยางพารา แต่ยังคงมียอดขายน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดทั้งหมด เช่นเดียวกับยอดการจำหน่ายไม้ยางพาราแปรรูปอบแห้งก็ยังอยู่ในฐานะผู้ค้ารายย่อย        

.

นางฉวีวรรณ แซ่คู ผู้ประกอบการนำร่องโรงงานสุราฎร์ควอลิตี้ วู้ด เผยว่าขณะนี้ปัญหาที่ทำให้โรงงานขาดความสามารถในการแข่งขัน คือ วัตถุดิบไม้ยางพาราขาดตลาด และมีการแข่งขันชิงวัตถุดิบ นอกจากนี้ยังประสบภาวะขาดทุนเนื่องจากไม่สามารถเป็นผู้กำหนดราคาได้ ซึ่งจุดนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้ส่งทีมที่ปรึกษาเข้าไปแก้ปัญหาด้านลอจิสติกส์ การบริหารจัดการวัตถุดิบ ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตซึ่งจะทำให้โรงงานสามารถหลุดพ้นจากปัญหาดังกล่าวและพร้อมที่จะทำการตลาดด้วยการพึ่งพาตนเองได้

.

โครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมส่วนภูมิภาคได้จัดทีมที่ปรึกษาท้องถิ่น ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเข้าให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาจุดบกพร่องของสถานประกอบการ เพื่อการพัฒนา ปรับปรุง เพิ่มประสิทธิภาพ โดยได้จัดสรรงบประมาณ 72 ล้านบาท เพื่อขยายกิจกรรมของผู้ประกอบการ SMEs แปรรูปรวม 150 ราย ใน 75 จังหวัด ที่ต้องการจะพัฒนากิจการของตน และคาดว่า SMEs แต่ละรายที่เข้าร่วมโครงการฯ จะสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ และมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และลดต้นทุนการผลิตร้อยละ 20 นอกจากเป้าหมายในเชิงเศรษฐกิจดังกล่าวโครงการฯ ยังมีเป้าหมายในเชิงสังคมและประโยชน์สุขต่อชุมชนด้วย