
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รายงานสถานการณ์อุตสาหกรรม 2548 และแนวโน้ม ปี 2549 โดย ปี 2548 นั้น ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมทั้งปี อยู่ที่ 141.75
|
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รายงานสถานการณ์อุตสาหกรรม 2548 และแนวโน้ม ปี 2549 โดยสถานการณ์ในปี 2548 นั้น ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมทั้งปี อยู่ที่ระดับ 141.75 โดยเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 6.7 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 70 เพิ่มขึ้นจากการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ย 66.1 เมื่อปีที่แล้ว |
| . |
|
สำหรับการคาดการณ์ของการขยายตัวของ GDP ภาคอุตสาหกรรม คาดว่าในปี 2548 จะมีการขยายตัวประมาณร้อยละ 6 ลดลงจากปีที่แล้วที่มีการขยายตัวร้อยละ 8.4 ในปี 2547 ส่วนการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมของไทยมีมูลค่ารวม 3.3 ล้านล้านบาท ขยายตัวประมาณร้อยละ 19.5 ลดลงจากปีที่แล้วที่มีการขยายตัวร้อยละ 21.8 ส่วนสาเหตุสำคัญของการขยายตัวภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง คือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศจากอัตราการขยายตัวร้อยละ 6.1 เป็นร้อยละ 4.5 เศรษฐกิจการค้าของโลกชะลอตัวลงจากอัตราการขยายตัวร้อยละ 9 ในปี 2547 เป็นร้อยละ 6.5 ในปี 2548 ราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้น ปัญหาไข้หวัดนกที่ระบาดในวงกว้างหลายประเทศ ผลกระทบของภัยธรรมชาติในภูมิภาค เช่น สึนามิ ที่กระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมในระยะยาว |
| . |
|
อุตสาหกรรมสำคัญที่ผลักดันการขยายตัวอุตสาหกรรมในปีนี้ ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน (7.7%) ผลิตภัณฑ์ยาง (6%) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า (11%) และปิโตรเคมี (16.6%) โดยเฉพาะยานยนต์ในปีนี้มีการส่งออกมากกว่า 3 แสนล้านบาท และเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนรวมกันมีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 1.4 ล้านล้านบาท |
| . |
|
ด้านการการลงทุน มูลค่าการขอรับส่งเสริมการลงทุนตลอดทั้งปี 2548 คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 700,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 7 มูลค่าการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 10 เดือนแรก เท่ากับ 458,000 ล้านบาท และคาดว่าทั้งปีน่าจะใกล้เคียงกับ 5.55 แสนล้านบาท อุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนมาก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง อุตสาหกรรมเหล็ก อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ กระดาษและพลาสติกและอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ / เครื่องใช้ไฟฟ้า |
| . |
|
ส่วนแนวโน้มในปี 2549 ภาคอุตสาหกรรมน่าจะมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 7 โดยมีปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ ราคาน้ำมันคาดว่าจะเสถียรภาพมากกว่าปีนี้และอยู่ในระดับที่สูงอยู่ อัตราการขยายตัวการลงทุนในประเทศที่สูงขึ้น รวมทั้งเมกกะโปรเจคของรัฐที่จะเริ่มดำเนินการบางส่วน และปัญหาภาคใต้และปัญหาไข้หวัดนกจะได้รับการแก้ไขและลดระดับความรุนแรงของผลกระทบลงจากปีที่ผ่านมา ภาคการส่งออกในภาคอุตสาหกรรมคาดว่าน่าจะมีการขยายตัวประมาณร้อยละ 19 ในปี 2549 ซึ่ง ใกล้เคียงกับปีนี้ |
| . |
| อย่างไรก็ตาม กระทรวงอุตสาหกรรมจะตั้งเป้าการส่งออกของสินค้าอุตสาหกรรมไว้ที่ร้อยละ 25 หรือคิดเป็นมูลค่าส่งออกประมาณ 4.1 ล้านล้านบาท ในปี 2549 เพิ่มขึ้นจากมูลค่าส่งออกประมาณ 3.3 ล้านล้านบาทในปี 2548 โดยอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะมีอัตราการส่งออกสูงได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ที่จะมีการส่งออกมากกว่าร้อยละ 40 และอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อัตราเติบโตร้อยละ 25-30 |
| . |
|
นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาเห็นว่า ยังมีแนวทางที่รัฐบาลจะผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมมีการขยายตัวได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ คือ ร้อยละ 7 มาเป็นร้อยละ 8.5 ได้ ซึ่งจะทำให้ GDP ภาคอุตสาหกรรมมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 2 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา |
| . |
|
อุตสาหกรรมที่มีสัดส่วนใน GDP สูง ๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์ จะต้องผลักดันให้มีอัตราการเติบโตสูงกว่าที่คาดตามแนวโน้มปกติ ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วคาดว่าจะมีโอกาสผลักดันให้เพิ่มขึ้นได้ เพื่อให้การเติบโตในภาคอุตสาหกรรมสูงตามเป้าที่วางไว้ |